วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 8 It's ok.




8

It’s ok.



วันรุ่งขึ้น

                วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ที่แคมป์ปูซาน พรุ่งนี้เราก็ต้องกลับแล้ว แน่นอนว่าผมอยากจะกลับตั้งแต่วันนี้เลยด้วยซ้ำ ใครมันจะไปนึกว่าแคมป์ปัญญาอ่อนนี่มันจะกลายเป็นแคมป์ที่ตึงเครียดขนาดนี้ 

                มันตึงเครียดก็เพราะคณะแพทย์แม่งมาเสือกไง!

                “เอ่อ... วันนี้ที่เราจะไปพัฒนาโรงเรียนอนุบาลริมทะเลยกเลิกนะจ๊ะ พอดีว่าคณะแพทย์อยากมาทำกิจกรรมกับพวกเรา ^^ โดยการเล่นเกมสานสัมพันธ์จ้า” พี่สต๊าฟคณะผมประกาศขึ้น ผมแอบเห็นนักเรียนแพทย์อยู่ด้านหลังพี่สต๊าฟเราด้วย

                “กิจกรรมก็คือ นักศึกษาคณะนิเทศนั่งเฉยๆ แล้วคณะแพทย์จะเวียนมาทำความรู้จักตัวต่อตัวเลยจ้า ถ้าคณะแพทย์ขอเบอร์ก็ต้องให้น้า บังคับๆ ฮ่าๆๆๆ” พี่สต๊าฟหัวเราะชอบใจ แต่พวกเราไม่อยากจะเล่นอย่างแรง

                “กูไม่เล่น” ผมพูดเบาๆ 

                “แบค ถ้าพี่เค้าเช็คชื่อขึ้นมาทำไง” โด้หันมาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง

                “ช่างหัวแม่งดิ กูไปละ” ผมลุกขึ้นก่อนที่จะจับมือไอ้ชานยอลมาด้วย เอ๊ะ  -O- ทำไมกูต้องคว้าไอ้ห่านี่มาด้วยวะ!

                “ดูอีแรดแบค ที่แท้ก็อยากจะอยู่กับผัวสองต่อสอง ทำมาเป็นอ้างไม่อยากเจอหมอตุ๊ด ฮ่าๆๆๆ” เสียงไอ้ไคแซวตามหลังมา ผมก็เลยปล่อยมือไอ้ชานยอลอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะเดินมาคนเดียว

**********

                “เฮ้ออออออออ” ผมนอนแผ่หราบนหาดทราย ก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา
 
                “เฮ้ย! ไอ้ชานยอล! กูปล่อยมือมึงแล้วไม่ใช่ไง๊? มึงจะตามมาทำเตี่ยอัลไลวะ?” ผมลุกขึ้นนั่ง มันนั่งลงข้างๆ ผมก่อนที่จะยิ้มพิมพ์ใจ

                “ปล่อยมือ ไม่ได้แปลว่าแบคฮยอนตัดขาผมนี่ครับ ฮ่าๆๆ” มันตอบมาได้กวนประสาทมาก

                “เออๆ” ผมนั่งกอดเข่าก่อนที่จะทอดสายตาไปยังทะเล ได้ยินเสียงสต๊าฟนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้รบกวนความสงบของผมมากนัก

                “แบคฮยอนไม่อยากเจอซูโฮมากเลยหรอครับ?” ชานยอลถามขึ้น 

                เออแฮะ...

                “เออดิ” ผมตอบ แต่ความรู้สึกในใจกลับขัดแย้ง เหมือนว่าคำตอบนี้ไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงยังไงไม่รู้

                “แหะๆ งั้นผมก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองสิเนี่ย ^^;” มันเกาหัวเบาๆ ก่อนที่จะก้มหน้าด้วยความเขิน

                “อะไรของมึง?”

                “ก็” มันหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะหันมาตอบผมแล้วยิ้มเขิน “ผมนึกว่าแบคฮยอนไม่อยากให้ผมเจอซูโฮอ่ะ แฮะๆ ^^;”

                ...

                เอ่อ... กูว่า
                นี่อาจจะเป็นคำตอบที่แท้จริงที่ใจกูอยากตอบว่ะ

                “เออๆ - / / -” ผมพยายามเลี่ยงไม่มองหน้ามัน มันเองก็ไม่ได้มองหน้าผม ผมแอบเห็นหูของมันแดงขึ้นมานิดหน่อยด้วย

                “หูมึง...” ผมเผลอหลุดพูดออกมา “แดงจัง ฮ่าๆ”

                “อ่า...” มันก้มหน้างุดก่อนที่จะเอามือสองข้างปิดหูตัวเอง “ก็... อยู่กันเงียบๆ สองคนมันเขินน่ะครับ แฮะๆ ^^;

                “อืม...” ผมตอบสั้นๆ มันหันมาหาผมก่อนที่จะกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูผม

                “ล้อผมแต่ไม่ดูตัวเองเลยนะครับ” 

                O / / O!!” หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่สิ... มันร้อนทั้งหัว หู แขน ขา ร้อนแม่งหมดอ่ะ!

                “ฮ่าๆๆ เออใช่! สัญญาที่เราตกลงกันไว้ ผมยังไม่ได้ขอเลยนี่หว่า!” มันทำหน้าตกใจก่อนที่จะหันมามองหน้าผมแบบจริงจัง 

                “มึงรีบหรอออออ พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายหรอกนะ”

                “ไม่ครับ! พรุ่งนี้สายแน่! ต้องวันนี้!

                “มึงก็ขอกูไปแล้วทีนึง ลืมไง๊?” 

                “ตอนไหนครับ?” มันทำหน้าบ้องแบ๊วใส่... คือมึงจำไม่ได้ใช่ปุ๊ T^T มึงมันเลว


                “ขอได้มั้ยครับ” มันพูดก่อนที่จะมองมาที่ปากผม สายตามันไม่ได้หื่นกระหายอะไร แต่ทั้งสีหน้าและคำพูดของมันเหมือนกับเด็กน้อยกำลังขอขนมแม่จนผมอดไม่ได้
            “...”
            “...”
            “อื้อ” ทันทีที่ผมตอบ รอยยิ้มที่คุ้นตาก็ปรากฏบนใบหน้าก่อนที่จะค่อยๆ โน้มหน้ามาใกล้ๆ แน่ล่ะ... ว่าผมหลับตาปี๋ด้วยความเขิน


                ทุกอย่างมันยังสิงสถิตในหัวกบาลกูอย่างติดตราตรึงใจ!! 

                “มึงจำไม่ได้จริงๆ อ่ะ -_-?” 

                “ผมยังไม่ได้ขออะไรเลยนะ! จริงๆ” มันแย้ง

                “ก็เนี่ย! มึงทำอะไรกูไว้เนี่ย!” ผมชี้มาที่ปากตัวเองอย่างหงุดหงิด มันทำหน้าเอ๋อไปซักพักก่อนสีหน้าจะเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น

                “อ๋ออออออ - / / -” หน้ามันแดงขึ้นมาทันที “อันนั้น... ผมไม่ได้ขอแบบในสัญญาซักหน่อย”

                “ฮะะะะะะ O[]O!!!? นั่นไม่ได้อยู่ในสัญญาเรอะะะะ!” ผมร้องลั่น 

                “จูบนั้น...” มันพูดอย่างจริงจัง “ผมแค่ขออนุญาตแบคฮยอนเฉยๆ ครับ ถ้าไม่ขอก่อน แบคฮยอนอาจจะโกรธผมก็ได้นี่นา” 

                =______=;;” กูพลาดอีกแล้วครับทั่น พลาดตลอดดดด!!

                “แล้วสัญญาเรา มึงจะเอาอะไร?” ผมมองหน้ามันอย่างเซ็งๆ มันเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะยิ้มอย่างมีเลศนัย...

                “ขอจูบ Infinity ครั้ง ได้มั้ยครับ *___*

                “พ่อมึงเสะะะะะะ!! มึงจะขออะไรเยอะแยะวะสัส... ไม่ใช่! ใครจะไปยอมให้มึงจูบ! ไอ้ฟันเยอะนี่แม่งได้คืบเอาศอกนะมึง” ผมบ่นเป็นชุด แต่แทนที่มันจะยอม กลับหยิบไอโฟนขึ้นมาแล้วเปิดสัญญาฉบับบ้าๆ นั่นให้ฟังชัดๆ

                TT_____TT” ทุกคำ... กูพูดเองทั้งหมดเบยยยยย T^T

                “เตรียมหน้าผากกับแก้มไว้ให้ดีเลยนะครับ ฮะๆ ^O^” มันหัวเราะเบาๆ

                “เอ้า แล้วปากกูล่ะ” อีชิบหายยยยยยยย TOT!! กูจะไปเตือนสติมันทำไม!!

                “ไม่เอาหรอกครับ ^O^ ถ้าจุ๊บปากบ่อยๆ มันก็จะไม่พิเศษสิ” มันว่าก่อนจะยิ้มแล้วนอนลงบนหาดทราย 

                ชานยอล... มึงจะรู้มั้ย...
                กูเขินตัวเกร็งจะตายห่าอยู่ละไอ้เหี้ย! - / / -




อีกด้านหนึ่ง

                “เหี้ยละๆๆๆๆ หมอตุ๊ดมาละๆๆ” ผมไคเองครับทุกคน ไอ้แบคกับผัวหนีไปแล้ว ทิ้งให้พวกเราสามคนเผชิญหน้ากับไอ้หมอตุ๊ดตามลำพัง เหี้ย T^T!

                “นิ่งๆ ไว้ดิวะ เราเมะนะเว่ย เราจะกลัวตุ๊ดทำไม” ไอ้เซฮุนเตือนสติผม เมื่อมันมาเดินมาถึงก็ไม่ได้มองหน้าผมเลยแม้แต่น้อย กลับมองไปรอบข้างผมแทน

                “ชานยอลกับแบคฮยอนอยู่ไหนหรอน้องไค ^_^?” นั่นงายยยยยย! กูจะเสียใจหรือดีใจดีวะที่มันไม่สนใจผม 555555

                “พวกมัน...” 

                “ชานยอลท้องเสีย แบคก็เลยดูแลอยู่น่ะครับ” โด้ชิงตอบ ขอบคุณนะมึง T^T กุนซือประจำกลุ่ม กูเกือบพูดไปแล้วว่า พวกมันไม่ทนนั่งเห็นหน้ามึงหรอกไอ้ฟาย’ 555

                “จริงหรอ O_O! อยู่เต้นท์ไหนละ พี่จะไปดูให้”

                “เอ่อ อย่าดีกว่า ผมว่าพี่อย่ายุ่งกับสองคนนี้เลยดีกว่านะ” ตายห่า! กูเสือกเผลอพูดความในใจออกไป แอบเห็นไอ้โด้ส่งตาจิกมาให้ด้วย -_-;

                “ทำไมล่ะไค อย่างน้อยพี่ก็ไม่ได้รักแบคฮยอนแล้ว พี่แค่เป็นห่วงว่าแบคฮยอนจะดูแลแฟนใหม่ได้ดีแค่ไหน ดี... น้อยกว่าที่เคยดูแลพี่รึเปล่า แค่นั้นเอง”

                “หรา มันดูแลผั... ดูแลเมียมันดียิ่งกว่าพี่อีก เชื่อเหอะ”

                “แล้วสองคนนั้นเค้า... ถึงขั้นนั้นรึยัง” หมอตุ๊ดถามด้วยสีหน้ากังวล มันคงอยากรู้จนตัวสั่น เพราะตอนมันเป็นแฟนกับแบคฮยอน ขนาดจูบยังไม่เคย 5555555

                “ผมจะไปรู้ได้ยังไง อยากรู้ก็ไปถามเองเด่ะ” ผมตอบ แอบเห็นหมอตุ๊ดกำหมัดแน่นก่อนที่จะส่งยิ้มตอแหลตามเคย

                “โอเคจ้ะ ^____^ เวียนครบทุกคนแล้ว พี่ต้องกลับแคมป์ตัวเองละ บ๊ายบาย” มันโบกมือเป็นเชิงอำลา จ้าาาา~ ไปเฮอะะะะะ~

                “เอาล่ะจ้าเด็กๆ” เสียงสต๊าฟประกาศขึ้น “เดี๋ยวพี่นิเทศปีสี่จะเวียนมานั่งตรงหน้าน้องน้า จะได้ผูกข้อมือกัน ^_^ เป็นการรับน้องอย่างเป็นทางการไปเลย เอ้าพี่ปีสี่! ไปเลยยยย”

                แล้วพวกเราก็ต้องเงียบกริบ...

                เมื่อเห็นพี่ลู่หานเดินมาแต่ไกล!
                ประเด็นคือพี่เค้าจะหยุดอยู่ที่ใครเนี่ยสิ!




สิบนาทีก่อนหน้านี้

                “ทำไมต้องทำกิจกรรมนี้ ถามจริงเหอะ” ผมบ่นลอยๆ ในขณะที่เพื่อนผู้หญิงหลายคนกำลังตื่นเต้นกับกิจกรรมผูกสายสิญจน์ให้รุ่นน้องปีหนึ่ง

                “มึงอย่าคิดมาเลยเสี่ยวลู่ มึงไม่ได้ผูกไอ้เซฮุนหรอก” เลย์ปลอบผม จงแดพยักหน้าหงึกหงัก 

                “เปล่าหรอก กูอยากผูก...” ผมก้มหน้านิ่ง สองคนนั้นตกใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่ผมเกิดนึกคึกอะไรไม่รู้ 

                ผมรู้สึกผิด...
                สองวันที่ผ่านมานี่... ชีวิตผมเงียบเหงาลงไปเยอะเลย

                “มึงชอบมัน?” ไอ้จงแดจอมพูดน้อยก็พูดประโยคสั้นๆ แต่เนื้อหากินใจมาประโยคนึง

                “เปล่า...” ผมถอนหายใจนิดหน่อย “กูแค่รู้สึกแปลกๆ ที่มันหายไปจากชีวิตกู”

                “แบบนั้นก็เรียกว่าชอบล่ะวะ” เลย์เสริมทับ ผมได้แต่นิ่งเงียบ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเถียง แต่กำลังคิดว่าการที่เราเหงาเพราะขาดใครซักคนเนี่ย มันเรียกว่าชอบรึเปล่านะ...

                “เอาล่ะจ้าเพื่อนๆ รีบโผล่ไปเซอร์ไพรส์น้องๆ กัน!” เพื่อนคนหนึ่งประกาศขึ้น 

                “พวกมันต้องนั่งหลังๆ แน่นอน มึงมายืนหน้าสุดมา จะได้ผูกน้องแถวหน้าๆ” ไอ้เลย์ดันผมให้ขึ้นมาด้านหน้า ตายห่า ไอ้บ้านี่ จู่ๆ มาทำตัวเป็นคนดี ทึ่งเหมือนกันแฮะ

                “ไม่เอาอ่ะ มึงมาหน้ากูดิ๊เลย์ กูเขินน้อง”  ผมดันให้มันขึ้นมายืนหน้าสุดก่อนที่จะหันไปมองคนข้างหลังผมนั่นก็คือจงแด เอาล่ะ อย่างน้อยก็มีเพื่อนประกบหน้าหลัง!

                “เปิดม่านละนะ ><” เพื่อนผู้หญิงที่ยืนคุมม่านเปิดม่านออก ผมเผลอมองหาไอ้เซฮุนโดยไม่รู้ตัวและก็เห็นว่ามันนั่งอยู่คนเกือบหลังสุดจริงๆ 

                “อี้ชิง เดี๋ยวเดินไปหลังสุดเลยนะ ^_^ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายกัน

                ห้ะ!
                งั้นพวกกูก็ต้องไปผูกคนแถวหลังสุดเรอะ!

                “มึงซวยแล้วล่ะลู่” ไอ้เลย์หันมากระซิบ

                “ทำไมอ่ะ”

                “เซฮุนของมึงมันนั่งคนรองสุดท้าย มึงก็เป็นคนที่สอง เฮอะ! บ้าดีว่ะ” มันหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะรีบเดินไปที่แถวด้านหลัง ผมแอบเห็นไคยิ้มบางๆ แต่เซฮุนกลับก้มหน้านิ่ง

                “จงแด กูให้มึงล้านวอน แลกที่กันหน่อย” ผมหันไปขอร้องไอ้จงแด เพราะคิดว่ายังไงซะเลย์แม่งก็ไม่ให้ผมแลกที่อยู่ละ

                “ไม่เอา บ้านกูรวย” มันตอบหน้าตาย เชอะะะะ T^T!!

                เอาอย่างนี้แหละ...
                เราจะต้องผูกให้มัน เราจะต้องเผชิญหน้า

                “...” ผมหยุดยืนตรงหน้าโอเซฮุนก่อนที่จะนั่งลง มันยังคงก้มหน้านิ่ง ส่วนไคกับโด้ที่ประกบมันก็ยิ้มทักทายผม ผมยิ้มตอบอย่างจริงใจ เพราะผมไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรแม้แต่น้อย... แค่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร

                “...” มันยังคงก้มหน้าเงียบกริบ

                “นี่ใจคอมึงจะไม่พูดอะไรเลยหรอ” ผมเลือกที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยปาก 

                “กลัว...”
                “...”
                “กลัวว่าพี่ไม่อยากได้ยินเสียงผม” มันพูดเบาๆ ราวกับกระซิบ มันคงกลัวว่าผมไม่อยากได้ยินเสียงมันจริงๆ นั่นแหละ

                “หึ ^^” ผมแค่นหัวเราะ ก่อนที่จะหยิบสายสิญจน์ขึ้นมา “กูอยากได้ยินเสียงมึงนะ”

                O_O” มันเงยหน้าขึ้นก่อนที่จะทำสีหน้าตกใจจนผมอยากหัวเราะอีกรอบ

                “ทุกวันกูต้องมีมึงมาคอยเกาะแกะ กูต้องเหนื่อยที่ต้องคอยวิ่งหนีมึง แต่สองวันมานี่... มึงหายไปจากชีวิตกู กูโคตรว่างเลยว่ะ” ผมเลี่ยงที่จะไม่สบตา ก้มหน้าผูกสายสิญจน์อย่างจริงจัง

                “...”

                “สองวันมานี่คงจะสบายเนอะ ไม่ต้องมาวิ่งหากู ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะออกมาก่อนที่จะผูกสายสิญจน์เสร็จ แต่มันก็จับมือผมไว้แน่นจนผมต้องเงยขึ้นไปมองหน้ามัน

                “ไม่สบาย... ไม่เห็นจะชอบเลย”
                “...”

                “ขอวิ่งตามไปเรื่อยๆ ได้มั้ย ไม่ต้องหยุดรอก็ได้ วิ่งหนีผมต่อไป ผมจะวิ่งตามเอง” มันมองผมด้วยสีหน้าจริงจังจนผมเผลอยิ้มออกมา

                “พูดอะไรของมึงวะ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะพยายามปล่อยมือแต่มันก็ยังไม่ปล่อย

                “กลับจากแคมป์นี้แล้ว...”
                “...”
                “ไปกินชานมไข่มุกกันนะ”

                “อื้ม ^^!!” ผมตอบอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะเริ่มสัมผัสได้ว่าทุกคำพูดที่เราคุยกันนั้น มีสี่หน่อแอบฟังอยู่

                “อะแฮ่ม -_-^!!” ผมกระแอมดังๆ จนไอ้สี่คนนั้นรีบหันไปผูกสายสิญจน์กันจนเสร็จ คือมันไม่ได้ผูกกันเลยไง แม่งนั่งฟังพวกกูคุยกันซะจบบทสนทนา

                “วันนี้ไปนอนค้างบ้านแบคอีกมั้ย?” เซฮุนถามผม พวกเรากล้าที่จะสบตากันแล้วล่ะ ^_^

                “อื้ม!

                “โอเค วันนี้พวกเราไปกันหมดเลย แล้วพรุ่งนี้วันเสาร์ ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย?”

                “ไม่รู้ ดูก่อน (._.)” ผมก้มหน้างุด ก่อนที่จะได้สัญญาณจากเพื่อนคนอื่นว่าเดินกลับได้แล้ว

                “เจอกันนะ” มันทิ้งท้าย ผมยิ้มรับอย่างมีความสุข อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องหลบหน้ามันให้เหนื่อยอีกแล้ว รู้สึกโล่งใจบอกไม่ถูกแฮะ ^O^




วันรุ่งขึ้น

                ฟอดดดดดด!

                -_-^” ผมนั่งหน้าเซ็งอยู่ในเต้นท์เมื่อชานยอลกำลังเก็บข้าวของให้ผม แต่เก็บได้ห้าวินาทีก็หันมาหอมแก้มผมอย่างอารมณ์ดีอีก

                ฟอดดดดดด!
                หอมอีกละ =[]=!!!!

                “มึงจะหอมกูไปถึงไหน กูบอกว่ากูจะเก็บของเอง มึงไม่ต้องมาเก็บของให้กูแลกเปลี่ยนกับการหอมแก้มเลย กูเก็บเองงงง” ผมร้องลั่น มันเก็บของมันเสร็จนานแล้วและกำลังเก็บของๆ ผมอย่างอืดอาด คงจะถ่วงเวลาจะได้หอมแก้มกูไปนานๆ สินะ -_-;

                “หอม Infinity~” มันพูดขึ้นลอยๆ ก่อนที่จะหันมาหอมอีก แต่ผมก็ดันตัวมันไว้

                “หยุด! แก้มกูช้ำหมดแล้ว!

                “โอเคครับ ผมจะหยุดตอนนี้ แต่สัญญาหอมแก้ม Infinity นี่เป็นตลอดชีวิตเลยได้มั้ยครับ” เมื่อมันพูดเสร็จก็รูดซิปกระเป๋าของผมพอดี ผมนิ่งไป ก่อนที่จะตอบ

                “ไม่เด่ะ! กูให้แค่ในค่ายเท่านั้นเว่ย!

                “ถ้าอย่างนั้น...”
                “...”
                “ต่อหน้าสาธารณชนในค่าย ผมก็หอมได้เรื่อยๆ เลยใช่ปะครับ?” มันยิ้มถามอย่างอารมณ์ดี

                “ไอ้บ้าาาา =[]= ไม่ได้เว่ย!

                “ถ้างั้นแบคฮยอนก็เลือกเอาแล้วกันครับ หอม Infinity ในค่ายแบบเปิดเผย หรือ ตลอดชีวิตแบบลับๆ แค่เราสองคน”

                โหยอีเหี้ย ทำไมมึงมันศรีธนญชัยขนาดนี้วะ -_-^

                “ตลอดชีวิต...” ผมพึมพำเบาๆ ก่อนที่จะออกมาจากเต้นท์เลย มันหัวเราะไล่หลังมาก่อนจะให้ผมไปนั่งในร่มไม้ ส่วนตัวเองก็เก็บเต้นท์อยู่คนเดียว ตายห่า แมนจริงๆ - / / -          

                กริ๊งงงงงง~
                โทรศัพท์ผมดังขึ้น
                ไม่สิ... ไอโฟนหน้าจอแตกละเอียดดังขึ้น -_-^

            คุณแม่สุดสวยสวยที่สุดในโลกของแบคฮยอนปุอิ๊งปุอิ๊ง

                “แม่จ๋าของแบคคคคค T^T คิดถึงจุงงงงง” ผมรับสายอย่างอารมณ์ดี

                (ได้กันยัง)               

                ดูคำถามนาง -O-!!

                “ยังคร้าบบบบบ และจะไม่มีวันเกิดขึ้นด้วย!” ผมตะโกนลั่น

                (ฮ่าๆๆๆ เออ จะบอกว่าแม่ต้องไปทำงานที่อื่นน่ะ พรุ่งนี้ถึงกลับ แล้วแม่ก็ลืมเอากุญแจไว้ในกระถางด้วย มึงต้องไปนอนบ้านเพื่อนแล้วแหละ)

                “ครับๆ เดี๋ยวแบคไปนอนบ้านเพื่อน”

                (บ้านผัวก็ได้นะมึง)

                “ม่ายยยยยย! แบคจะไปนอนบ้านโด้ -^-” ผมพูดหน้าเชิด 

                (เออๆ แม่ต้องรีบไปทำงานต่อละ อันยองงง)

                “อันยองคร้าบบบบ” ผมตอบอย่างอารมณ์ดี หลายคนคงสงสัยว่าแม่ผมทำงานอะไร เห็นพวกเราทำตัวชิวๆ อย่างงี้แม่ผมเป็น CEO บริษัทใหญ่นะครับ! แต่นางเป็นคนแบบนี้ก็เลยให้คนที่ไว้ใจบริหารแทน ส่วนตัวเองก็นอนรับทรัพย์ชิวๆ ถ้านางต้องไปทำงานนอกสถานที่ขนาดนี้แปลว่างานนี้เรื่องใหญ่จริงๆ นางถึงลงมือทำเอง (เหยด)

                “คุณแม่โทรมาหรอครับ” ชานยอลตะโกนมาถาม

                “อือ! โทรมาบอกว่าวันนี้กลับบ้านไม่ได้แล้วล่ะ ต้องไปนอนบ้านเพื่อน” ผมตะโกนตอบ

                “อ้าว! แต่วันนี้ทุกคนเค้านัดจะไปนอนบ้านแบคฮยอนกันนะ” มันตะโกนตอบกลับมาก่อนที่จะหิ้วอุปกรณ์เต้นท์เดินมาหาผม

                “ทำไงดีล่ะทีนี้ กูกะจะไปนอนบ้านโด้ซักหน่อย” ผมพูดขึ้น 

                “งั้นก็ไปนอนบ้านผมกันให้หมดเลยดีมะ? บ้านผมกว้างพอนะ จะได้ไปเล่นกันเยอะๆ ^O^” มันแนะนำ อืม... เอาไงดีล่ะ

                “เออ ตามนั้นแหละ” ไอ้ไคเดินมาพร้อมกับโด้ เซฮุนและพี่ลู่หาน 

                “กูจะได้นอนสงบสุขใช่มะ -_-?” ผมกระซิบถามไอ้ชานยอล มันหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะกระซิบตอบ

                “ไม่บอกครับ ฮิฮิ”

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอวิ่งตามไปเรื่อยๆ ได้มั้ย ไม่ต้องหยุดรอก็ได้ วิ่งหนีผมต่อไป ผมจะวิ่งตามเอง
    .
    .
    .
    .
    .
    เหี้------------------- ทำไมกูเขินนนนนน

    ตอบลบ