วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 7 Switch




7

Switch.



                วันรุ่งขึ้นก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ผมกับชานยอลออกไปเดินเล่นริมทะเล (แค่ว่างนะ O_O!! ไม่ได้จะไปจู๋จี๋หวานแหวว!!) แล้วเจอฉากเด็ดกลางหาดทรายก็เลยชวนไอ้ไคกับโด้ออกมาดู แต่ระหว่างที่พวกเราไปเรียกไคกับโด้ ก็มีคนมามุงล้อมดูสองคนนั้น และก็ทำให้พี่ลู่หานกับเซฮุนตื่นในที่สุด

                “เหี้ยยยยย! มามุงอะไรกันเยอะแยะวะเนี่ยยยย O[]O!!” พี่ลู่หานตื่นขึ้นมาก็ร้องลั่น มีผู้หญิงบางคนร้องไห้วิ่งหนีไปเลย คงจะช็อกภาพพี่ลู่หานนอนบนแขนเซฮุน...

                “นอนต่อเหอะ งืมๆ ZZzz” ไอ้เซฮุนไม่สนใจอะไรใครทั้งนั้น มันดึงพี่ลู่หานให้ไปนอนบนแขนมันต่อ แต่พี่ลู่หานก็มะเหงกใส่มัน ก่อนที่จะประกาศให้ทุกคนรู้ว่า

                “คือพวกเราไม่ได้อะไรอย่างนั้นกันนะทุกคน! เราชายแท้100% O_O! แต่พอดีว่าเราไม่มีหมอนก็เลยจับแขนมันมา...” พี่ลู่หานพยายามอธิบายทุกอย่าง แต่ทุกคนก็มองว่ามันเป็นเรื่องจริงไปแล้วและก็เดินจากไป

                “...” พี่ลู่หานเงียบกริบและไอ้เซฮุนก็คงจะรู้สึกได้ว่าตัวเองทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่แล้ว

                “พี่...”
                “...”
                “ผม... ขอโทษ”

                “ช่างมันเหอะ” พี่ลู่หานพูดแล้วลุกขึ้น ปัดทรายออกจากตัวเล็กน้อยก่อนที่จะส่งยิ้มบางๆ “กูก็ไม่ได้ปฏิเสธมึงซักหน่อย ^_^ รู้ทั้งรู้ว่ามึงเอาแขนมารอง กูก็ยังปล่อยให้เป็นแบบนั้น”

                “พี่ลู่...” เซฮุนงานนี้ป๊อดสุดๆ แล้วครับ พวกผมก็ได้แต่ยืนมองเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไรดี

                “เข้าค่ายนี้อย่าพึ่งเจอกันเลยนะ” พี่ลู่หานพูดขึ้นสู้กับเสียงคลื่นและนั่นทำให้พวกเราตกใจมาก รวมไปถึงไอ้เซฮุนด้วย
                “...”
                “พอมึงเข้ามาในชีวิตกู แม่งวุ่นวายไปหมดเลยว่ะ”
                “...”
                “กูไม่เคยต้องใช้ชีวิตรีบเร่งหรือร้อนรนอะไรขนาดนี้มาก่อน กูต้องวิ่งหนีมึง... ต้องวิ่งตามมึง มันเหนื่อยว่ะเซฮุน”
                “...”
                “กูเหนื่อย”

                “อืม” ไอ้เซฮุนตอบสั้นๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นเก็บผ้าห่มและเสื้อกันหนาว ก่อนที่จะมองไปที่เสื้อที่พี่ลู่หานใส่อยู่ “ถอดเสื้อมา นั่นเสื้อผม” 

                “...” พี่ลู่หานมองหน้ามันเล็กน้อยก่อนที่จะถอดเสื้อกันหนาวให้มันแล้วเดินจากไป แน่นอนว่าพวกเราทั้งห้าคนตกอยู่ในความเงียบ และขอบคุณสวรรค์ที่มีคนอย่างไอ้ชานยอลเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้...

                “ไม่เป็นไรหรอกเซฮุน พี่เค้าก็อย่างนี้แหละ รออีกซักพักพี่เค้าก็จะกลับมาเป็นพี่ลู่หานคนเดิม” มันเดินเข้าไปปลอบก่อนที่จะตบบ่าเบาๆ 

                “อืม ขอบใจมาก ยังไงซะมึงก็รู้จักพี่เค้าดีกว่ากู” เซฮุนหันไปตอบพร้อมรอยยิ้มกากๆ ของมัน 

                เฮ้อออออ... สองคนนี้จะเป็นยังไงต่อไปนะ




วันรุ่งขึ้น

                แน่นอนว่าเมื่อวานทั้งวันพวกเราพยายามเชียร์อัพเซฮุนเต็มที่ มันยิ้ม หัวเราะเหมือนปกติ แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งมันก็เงียบไป พวกเราเองก็ไม่ได้เห็นพี่ลู่หานอีกเลยตลอดทั้งวันและพี่ลู่หานก็ไม่ได้กลับไปนอนที่เต้นท์ไอ้เซฮุนด้วย

                เอาล่ะ! มาพูดถึงวันนี้...
                พวกเราต้องไปผจญภัยในถ้ำ!

                โชคดีที่ให้จับกลุ่มห้าคน ไม่ใช่ให้เดินกับคู่นอนเต้นท์ของตัวเอง -O-

                “เอาล่ะจ้า >< วันนี้เรามีเซอร์ไพรส์น้า คณะแพทย์เค้าอยู่แคมป์ตรงข้าม จะมาร่วมแจมกับการผจญภัยในถ้ำของพวกเราด้วย! เพราะฉะน้านนนน อย่าลวนลามหรือแกล้งคุณหมอกันนะจ๊ะเด็กๆ” พี่สต๊าฟประกาศขึ้น

                “เชี่ยละ คณะแพทย์!” ผมสบถ ไอ้ไค โด้และเซฮุนมองหน้าผมอย่างกังวล แหงล่ะ พวกมึงรู้...

                ว่าคณะแพทย์มีเชี่ยตุ๊ดซูโฮ!!

                “มีอะไรกันหรอครับ ดูทุกคนเครียดๆ” ไอ้ชานยอลถามขึ้น ผมมองหน้ามันนิดหน่อยก่อนที่จะตอบ

                “มีแฟนเก่ากู” 

                “ฮะ -O-? แฟนเก่านี่เมะหรือเคะครับ” ยังไม่วายกังวลเรื่องพวกนี้อีกนะไอ้ห่านี่

                “ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นแหละ... แม่งตุ๊ด”

                “ง่ะ -_-^ แล้วแบคฮยอนไปเอาตุ๊ดได้ไงครับเนี่ย”

                “จิ๊ ก็แม่งหลอกกู เป็นรุ่นพี่กูปีนึง ตอนแรกก็มาหลอกว่าเป็นเคะน้อยน่ารัก ทำให้กูรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ซักพักธาตุแท้ก็เริ่มออก เปลี่ยนคู่นอนไม่เว้นแต่ละวัน โชคดีกูยังไม่ได้เอามัน แล้วพอกูบอกเลิกมันยังมีหน้ามาร้องไห้บอกว่าก็กูไม่ยอมมีอะไรกับมันซักที มันก็เลยขาดความอบอุ่น ถุยยย!” ผมเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับไอ้หมอตุ๊ดให้ฟังทุกอย่าง ทั้งสีหน้าและอารมณ์ผมโกรธมาก พอเล่าเรื่องไอ้หมอตุ๊ดนี่ทีไรต้องโมโหทุกครั้งไป แต่ชานยอลกลับพยักหน้าอย่างใจเย็นก่อนที่จะเลื่อนมือมาบีบมือผมเบาๆ

                “อดีตเนอะ... อยู่กับปัจจุบันดีกว่า ^^” 

                “อั๊ยยยย ปัจจุบันกับปาร์คชานยอล กร๊ากๆ” ไอ้ไคแซวและนั่นก็ทำให้ผมหูแดงขึ้นมาไม่รู้ตัว

                “พ่อมึง! ปัจจุบันกูโสด!” ผมพยายามเถียงสุดชีวิต ถึงจะไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เท่าไหร่แต่ไอ้เซฮุนก็หัวเราะออกมา เอาวะ -*- อย่างน้อยก็ทำให้มันหัวเราะได้ ให้อภัย

                “เอาล่ะค่ะน้องๆ! Let’s go! ลุกเลยยย อย่าช้าจ้า” พี่สต๊าฟไล่ให้พวกเราลุก ผมรู้ว่าการที่ผมทำแบบนี้มันน่าอายขนาดไหนแต่ผมก็ต้องทำ!

                นั่นก็คือ... เกาะไหล่ไอ้ปาร์คชานยอลไปตลอดทาง T^T!

                “โถถถ อีแรดแบค ไม่ต้องเกาะผัวขนาดนั้นก็ได้นะ ผัวไม่หายหรอก” ไอ้ไคแซว 

                “ฮ่าๆๆๆ สนุกดีออกครับ เหมือนรถไฟ ปู๊นนนนน~” ไอ้ชานยอลทำเสียงเหมือนรถไฟก่อนที่จะเริ่มวิ่ง ทำเอาผมต้องวิ่งตามไปด้วย นี่มันในถ้ำนะไอ้เหี้ยย TOT!! มืดชิบหายยยยย

                พลั่ก!
                นั่นไง เหี้ยชานยอลแม่งชนใครเข้าอีกล่ะ!            

                “ขอโทษครับๆๆ” ไอ้ชานยอลรัวคำขอโทษไม่หยุด ฝ่ายตรงข้ามก็รีบโบกมือ

                “ไม่เป็นไรๆ ^_^” เดี๋ยว... รอยยิ้มแรดๆ แบบนี้...                
               
                ไอ้หมอตุ๊ด!!

                “อ้าว! แบคฮยอนใช่มั้ย ข้างหลังนายน่ะ” สัส! ตาบอดซักวันจะตายห่าปะวะ

                “เออ กูเอง จะทำไม” ผมกล้าเดินออกไปเผชิญหน้ากับมัน พวกเพื่อนๆ ที่ตามมาก็เริ่มมาสมทบ ทุกคนมองหน้าไอ้หมอตุ๊ดอย่างไม่สบอารมณ์นัก

                “นี่ใครอ่ะ เพื่อนใหม่หรอ น่ารักดีนะ ชื่ออะไรหรอ” โถ เหี้ยนี่ ไม่ถึงนาทีก็จะเอาไอ้ชานยอลละสัส ดูความแรดของมันสิครับทุกคน

                “ชื่อปาร์คชานยอลครับ” เหี้ยนี่ตอบแม่งอีก!

                “หรอออ ^O^ พี่ชื่อซูโฮนะ”

                “ครับ แต่ว่าผมไม่ใช่เพื่อนใหม่แบคฮยอนครับ เป็นแฟนกัน แฮะๆ”
               
                ขวับ! (เสียงผมหันไปมองหน้ามัน)

                “อ้าว! คิก ^^! นี่แบคฮยอนเป็นเคะไปแล้วหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ไม่คิดเลยนะว่าแบคฮยอน เมะที่มีเสน่ห์, หล่อ, น่ารัก จะกลายมาเป็นเคะไปซะได้ หึ!” มันเยาะเย้ยผมสุดๆ ผมทำได้แค่กำหมัดแน่น แม้โด้จะพยายามลูบแขนผมเพื่อให้ใจเย็นลง

                “ไม่ใช่ครับ O_O” ไอ้ชานยอลรีบปฏิเสธ “ผมเป็นเคะ เค้าเป็นเมะอ่ะถูกแล้ว” 

                ขวับ! (เสียงผมหันไปมองหน้ามันอีกรอบ)

                “ฮะ? อะไรนะ? คนอย่างชานยอลน่ะหรอจะเป็นเคะ ฮ่าๆๆๆ พี่ไม่ใช่คนโง่นะชานยอล พี่รู้ว่าคนอย่างชานยอลน่ะ...” มันพูดด้วยสายตาแทะโลมก่อนที่จะลูบมือไอ้ชานยอลเบาๆ “เป็นเมะแน่นอน คิกๆ”

                “ไม่ครับพี่” ชานยอลปฏิเสธอีกครั้งก่อนที่จะแกะมือหมอตุ๊ดออกอย่างสุภาพ “ผมเป็นเคะจริงๆ ไม่เชื่อถามแบคฮยอนได้ ใช่ปะ?” มันหันมาหาผมด้วยสีหน้าพยายามเคะสุดๆ จนผมหัวเราะพรืดออกมา

                “ฮ่าๆๆๆ ช่างแม่งเหอะ ปล่อยไว้เป็นปริศนาดีกว่า หึ” ผมทิ้งท้าย จิกไอ้หมอตุ๊ดด้วยสายตา ก่อนที่จะลากเพื่อนทุกคนให้รีบเดินอย่างไว

                “เชอะ! บยอนแบคฮยอน ชั้นจะต้องแย่งชานยอลมาจากแกให้ได้ คอยดูสิ!

**********

                หลังจากที่พวกเราออกมาจากถ้ำซึ่งไม่ได้มีความน่าตื่นเต้นอะไรนอกจากหินกับความมืด พี่สต๊าฟก็บอกว่ากิจกรรมวันนี้ไม่มีแล้ว จะทำอะไรก็ได้ พวกเราก็เลยตัดสินใจจะเตะบอลกลางชายหาดกัน ^^!!

                “ผมจะอยู่กับแบคฮยอนครับ” ชานยอลประกาศและเดินมาข้างผมอัตโนมัติ

                “ไม่ กูจะอยู่กับเซฮุน ท่านปรมาจารย์แห่งฟุตบอล” ผมเดินไปหาเซฮุนแทน ซึ่งมันก็อ้าแขนรับผมอย่างดี เพราะผมเป็นตัวสับขาหลอกที่เก่งคนนึงเลยแหละ ฮ่าๆ

                “กูเป็นกรรมการ” ไอ้โด้พูดเสร็จก็ถอดรองเท้าขีดเส้นสนามทันที

                “งั้นกูอยู่กับไอ้ชานยอลก็ได้ ไอ้แบค มึงอย่ามาดิ้นเร่าๆ อยากอยู่กับผัวตอนจบแล้วกัน” ไอ้ไคขู่

                “คร่ะะะะะ กูไม่ดิ้นเร่าๆ หรอกคร่ะ” ผมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่มัน ไอ้โด้ทำเสียงเป็นนกหวีดเพื่อเป็นสัญญาณเริ่มเกม ผมจึงรีบวิ่งไปแย่งบอลมาและทำการเตะไปเตะมาอยู่คนเดียวก่อนที่จะส่งให้เซฮุน ยิงเข้าโกลอย่างง่ายดาย

                “1-0” ไอ้โด้ประกาศ

                “เหี้ยย แค่หนึ่งนาทีเองอ่ะ! ไอ้เหี้ยแบค มึงไม่ต้องมาสับขาหลอกเลยยย!” ไอ้ไคตะโกนชี้หน้าด่าผม ก่อนที่จะหันไปตะโกนใส่ชานยอล “ไอ้ชานยอล มึงรู้ใช่มะว่ามึงต้องทำอะไร”

                “อื้ม!!” มันตอบเสียงดังฟังชัดก่อนที่จะวิ่งมาหาผมอย่างเจาะจง

                “เหี้ยไรเนี่ยยยยย! วิ่งมาหากูทำไมมม” ผมด่าไปก็พยายามเตะไปเตะมา มันทำท่าเหมือนจะมาแย่งบอลผมแต่ผมก็ใช้ลูกเล่นเดิมๆ โดยการหลอกไปหลอกมาก่อนที่จะรีบหันหลังให้มัน 

                แต่ก็ไม่ทันมือปลาหมึกอย่างมัน O_O!!

                มันคว้าแขนผมไว้ก่อนที่จะดึงผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดมันอย่างรวดเร็ว ลูกบอลที่ผมเลี้ยงมาอย่างนานก็หลุดไปอยู่ที่ส้นตีนไอ้ไค และก็โดนมันเตะเข้าโกลจนได้

                “1-1” เสียงไอ้โด้ประกาศ

                “วู้ววววววว~ แรดแบคเริ่มแล้วค่า ก็ใจมันหายละลายละลายละไหลไปกับเธอว์~” ไอ้ไคร้องเพลงแซว เพราะจนถึงตอนนี้ผมก็ยังหลุดจากอ้อมกอดมันไม่ได้ซักที

                “เหี้ยแบคคคค จุดอ่อนมึงคือไอ้ชานยอลนี่เอง มึงออกจากทีมกูเลยย ไปเล่นกับผัวมึงไป ไอ้ไคมึงมาอยู่กับกู 5555” แล้วพวกเราก็เปลี่ยนทีมกันอย่างรวดเร็ว O_O!!

                “เดี๋ยวเด่ะะะ! เหี้ยนี่ไม่ใช่จุดอ่อนกูซักหน่อยโว้ยยย! กูอยากอยู่กับมึงงง” และผมก็หลุดจากอ้อมกอดมันสำเร็จ พวกเราหัวเราะกันอย่างมีความสุขก่อนที่จะความสุขนั้นจะหายไปภายในชั่วพริบตา...

                “ขอเล่นด้วยคนสิ ^_^!” ไอ้หมอตุ๊ดและเพื่อนอีกสามคนปรากฏตัวขึ้น พร้อมรอยยิ้มตอแหลที่เป็นปกติของมัน

                “มา! เล่นต่อเหอะ ^^” ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และบอกให้พวกเพื่อนเล่นต่อ ซึ่งทุกคนก็โอเคเต็มที่ แต่ปัญหาคือ...

                “โหย ให้พี่เล่นด้วยนะ” มันเดินเข้ามาในสนามก่อนที่จะดึงชายเสื้อผมไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามแมนสุดๆ ผมแกะออกอย่างรังเกียจก่อนที่จะมองหน้า ศรีโดโด้ ขงเบ้งแห่งแก๊งค์หลังห้องว่าจะเอายังไงกับไอ้ห่ารากนี่ดี

                ดู-ไป-ก่อนมันทำปากมาให้ผม ให้กูดูไปก่อนเรอะ

                ไม่ไหวมั้งรายนี้!
                ผมทำหน้ารับไม่ได้ให้โด้รู้ มันส่ายหน้าก่อนที่จะส่งภาษามือที่รู้กันแค่ในกลุ่ม

                แปลว่า... 

                พวกกูพร้อมยำแม่ง 55555555555555555    

                เออเว้ย! ศรีโดโด้ของกู! ทำตัวเถื่อนดีจริงจริ๊งงงง!

                “ก็ได๊~ แต่มึงห้ามทำตัวน่ารำคาญใส่พวกกู ไม่งั้นกูไม่ไว้หน้ามึงแม้กระทั่งเพื่อนมึง” ผมหันไปตอบด้วยเสียงเบาๆ ดูปราดเดียวก็รู้ว่าไอ้เพื่อนผู้ชายสามคนที่มาด้วยนั้นชายแท้แน่นอน คงจะโดนมันต้มซะเปื่อยว่ามันเองก็ชายแท้ 

                “เริ่มได้!” โด้ประกาศ ตอนนี้ไอ้ชานยอลกลายเป็นผู้รักษาประตูไปแล้ว เนื่องด้วยมันท่าทางจะกากสุดในกลุ่ม -O- ผมแอบสัมผัสได้ว่าไอ้หมอตุ๊ดแม่งจะเข้าใกล้โกลเรามากไป

                ไม่ใช่วิถีของนักฟุตบอลที่จะทำประตู
                แต่มันเป็นวิถีของตุ๊ดที่อยากอยู่ใกล้คนที่มันเล็งไว้ต่างหาก =[]=!!!

                “แม่งเล็งผัวมึง” ไอ้ไควิ่งมากระซิบ แหม... มึงไม่ต้องบอกกูก็เห็นปะไอ้ห่า ประเด็นคือมันไม่ใช่ผัวกู ต้องแก้ไขคำผิดกันนิดนึง =O=        

                ปั๊ก!

                เอ่อ... ผมก็ไม่ได้เคืองอะไรมันมากหรอกนะ -_-;
                แต่ขาผมแม่งเตะลูกบอลอัดน่องตุ๊ดๆ ของไอ้แรดซูโฮพอดี

                “โอ๊ย!” มันล้มลงไปนอนกองกับพื้น ซึ่งพื้นที่มันล้มก็ห่างจากไอ้ชานยอลไม่เกินหนึ่งเมตรเท่านั้น 

                “เป็นไรป่าว?!” เพื่อนมันตะโกนไปหา มันทำสีหน้าเหมือนไม่เจ็บอะไรมากก่อนที่จะส่งยิ้มและพยายามลุกด้วยตัวเอง 

                แต่ก็ลุกไม่ขึ้น ล้มลงไปกองอีกรอบ 

                อ่ะนะ... สเต็ปเด็กแรด -_-;

                “เจ็บ มากมั้ย” ผมเดินเข้าไปถาม มันเงยหน้ามามองผมก่อนที่จะพยักหน้า

                “เดี๋ยวกูพามึงไปห้องพยาบาล” ผมแสดงความแมนออกมาเต็มที่ แม้จะเกลียดมันแค่ไหน แต่มันเป็นคนเดียวที่เกี่ยวข้องกับผม ผมไม่อยากให้คนอื่นต้องมารู้จักหรือเกี่ยวข้องกับมันมากไปกว่านี้

                “แล้วแฟนแบคฮยอนจะไม่หึงหรอ?” มันถามขึ้น 

                “มันไม่หึงหรอก เร็วๆ ดิ๊” ผมยื่นมือไปให้มันจับ แต่มันกลับมองไปที่ชานยอล

                “ชานยอล พาพี่ไปห้องพยาบาลได้มั้ย?” มันพูดขึ้นก่อนที่จะส่งสายตาปิ๊งปั๊งพร้อมแดกผู้ชายใส่ ไอ้ชานยอลมองหน้าผมแบบเอ๋อๆ ทำอะไรไม่ถูก

                “มองหน้ากู” ผมย่อตัวลงไปนั่งก่อนที่จะสั่งให้มันมองหน้าผม มันหันมามองตามคำสั่งก่อนที่จะทำหน้าทำตาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                “ทำไมหรอ”

                “กู-จะ-พา-มึง-ไป-เอง” ผมเน้นย้ำทุกคำ  แต่มันกลับหัวเราะร่าเริง

                “คิกๆ เมะอย่างแบคฮยอนน่ะอย่าเลยดีกว่านะ ชานยอลก็เคะเหมือนพี่ไม่ใช่หรอ อย่างน้อยๆ เราก็เคะเหมือนกัน”

                “แล้วมันทำไม”

                “ก็ถ้าแบคฮยอนพาพี่ไป ชานยอลเค้าก็โกรธแบคฮยอนน่ะสิที่พาเคะไปน่ะ...”
                “...”
                “ถ้าเคะกับเคะอย่างพี่กับชานยอลไปด้วยกัน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมีราวอะไรไงล่ะ ที่พี่พูด... ไม่ถูกหรอ ^^?

                ถูกทุกประการ

                “เอ่อ... ซูโฮ นายไหวรึเปล่าเนี่ย คุยอะไรกับน้องเค้าตั้งนาน” เพื่อนคนหนึ่งเดินมาถามมัน มันยิ้มให้บางๆ ก่อนที่จะตอบ

                “ก็ปวดนิดหน่อยน่ะ แต่คงจะเล่นไหวแหละ ^_^” มันว่าแล้วลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ทีเมื่อกี้ลุกไม่ขึ้นนะมึงงงงง!!

                “ชานยอล...” ผมเดินเข้าไปหาชานยอลก่อนที่จะกระซิบเบาๆ “เตะได้ก็เตะ แม่งออกไปเลยนะ”

                “ฮ่าๆๆๆ” มันหัวเราะลั่นก่อนที่จะกระซิบตอบผม “หึงผมหรอ?”

                “หึงพ่อง” ผมกัดฟันพูดใส่มันก่อนที่จะกำหมัดทุบที่ไหล่มันเบาๆ ผมไม่รู้ตัวเลยว่าอากัปกิริยาน่ารักๆ เหล่านี้กำลังมีใครบางคนจ้องมองด้วยสายตาอิจฉาสุดๆ

                “เริ่มได้!” โด้ประกาศอีกครั้ง ผมพยายามมีสมาธิกับลูกบอลให้มากที่สุด แต่สายตาก็ต้องมองไปที่ไอ้หมอตุ๊ดทุกครั้ง เพราะมันจะคอยทำสีหน้าเจ็บปวดและกะเผลกขาอยู่บ่อยๆ

                “ดูซิ จะตอแหลได้อีกกี่น้ำ” ผมพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเริ่มเตะบอลอย่างจริงจังจนทำแต้มขึ้นมาได้

                “นิเทศ 1 แพทย์ 0” โด้ประกาศ เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้หมอตุ๊ดซึ่งยืนอยู่ใกล้ชานยอลนานแล้ว ล้มลงไปนอนกับหาดทรายด้วยสีหน้าเจ็บปวดสุดๆ

                “พี่เป็นไรป่าวครับ” ไอ้ชานยอลใช้ตีนเขี่ยมือไอ้หมอตุ๊ด คือ... กูจะซีเรียสหรือกูจะฮากับฉากนี้ดีล่ะ 55555555555

                “พี่... ปวดขาน่ะ” มันหันไปตอบชานยอล ผมเห็นมันทำหน้าเซ็งที่ถูกผู้ชายสะกิดด้วยส้นตีน แต่มันก็ยังคงเล่นละครต่อไปได้ไม่มีที่ติ... แหม่ น่าจับมาเรียนนิเทศซะ รับรองนางเกิดแน่

                “งั้นพี่ก็ไปห้องพยาบาลสิครับ พี่จะมาฝืนเล่นอยู่ทำไม” ไอ้ชานยอลพูดตอบ ไม่มีทีท่าที่จะอุ้มหมอตุ๊ดเลยแม้แต่น้อย

                “ชานยอล... อุ้มพี่ไปห้องพยาบาลหน่อยสิ” มันส่งสายตาอ้อนๆ ไปหาไอ้ชานยอล แต่ชานยอลกลับไม่ได้มองหน้ามันเลยแม้แต่น้อย เพราะ... มันมองหน้าผมอยู่

                สายตาสองสายตาที่พยายามจะคุยกันว่าจะทำอย่างไรดี
                แต่พวกเราก็อ่านสายตากันไม่ออก

                “ถามแบคฮยอนสิครับ” และแล้วชานยอลก็ตัดสินใจ... โยนมาให้กูแทน -O-

                “แบคฮยอน ที่พี่พูดเมื่อกี้... หวังว่าจะเข้าใจนะ ^^” ไอ้หมอตุ๊ดเตือนสติผม “ชานยอลอุ้มพี่ไปห้องพยาบาล คงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ”
                “...”
                “เออ” ผมตอบห้วนๆ ก่อนที่จะมองไปทางอื่นด้วยความอึดอัดใจ แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนคนหนึ่งของไอ้หมอตุ๊ดเดินเข้าไปหามันอย่างเซ็งๆ

                “นายจะไปรบกวนน้องๆ เค้าทำไมเล่า มานี่! ปวดมากหรอ เดี๋ยวเราอุ้มไปเอง ขอบคุณมากนะไอ้น้อง” แล้วคุณเพื่อนที่ว่าก็อุ้มไอ้หมอตุ๊ดไปเฉยๆ เพื่อนอีกสองคนที่เหลือจึงบอกลาพวกเราก่อนที่จะเดินหายกันไป   

                เฮ้ออออ...
                ทำไมผมถึงโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น