วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 22 Secret.




22

Secret.



                “ชิบหายแล้ว...” เสียงเล็กๆ พูดออกมาเบาๆ เมื่อตรวจสอบผลชิงทุนมหาวิทยาลัยชื่อดังของอเมริกา Harvard University ปรากฏว่า... 

                ผ่าน

                เหลืออีกขั้นตอนเดียวคือ การสอบสัมภาษณ์ผ่าน Skype วันพรุ่งนี้

                ตอนนี้คยองซูเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร อยากจะไปให้ไกลจากเพื่อนสนิทคนนี้ ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จไปได้หนึ่งขั้นแล้ว เพราะเขาเหนื่อยที่จะวิ่งตามและเหนื่อยที่ทำได้แค่แอบหวง แต่อีกใจหนึ่งก็เริ่มเอนเอียง... อยู่แบบนี้ตลอดชีวิตก็คงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง

                “ชิบหายอะไรจ๊ะ >O<!?” จู่ๆ จงอินก็โผล่มาจากด้านหลัง ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งหน่อยๆ แต่ก็ยังมีสติทันที่จะกดเปลี่ยนหน้าเว็บไปเป็นหน้าเว็บยูทูปแทน

                “อ่อ... ไม่มีอะไรหรอก” คยองซูหันไปยิ้มให้ก่อนจะพูดต่อ “นี่ก็ใกล้จะสายละ กูต้องไปเรียนกับครูพีทเป็นวันสุดท้าย”

                “จริงอ่ะ! ทำไมเลิกเรียนเร็วจัง พึ่งเรียนได้ไม่กี่เดือนเองไม่ใช่หรอ”

                “ก็... ผลสอบ TOEFL กูออกมาดี ก็ไม่ต้องเรียนแล้ว” คยองซูตอบ

                “อ่ะเคคค... เออโด้ เมื่อกี้อีแรดแบคโทรศัพท์เข้าบ้าน ฮ่าๆๆๆ บอกว่ามีเรื่องกลุ้มใจอยากคุยกับมึงด่วน คืนนี้จะมานอนค้างด้วย ท่าทางมันเครียดมากนะเว้ย ถึงขั้นโทรเข้าเบอร์บ้านเลยอ่ะ” จงอินพูดขึ้นขณะที่คยองซูกำลังสะพายกระเป๋าพาดบ่า

                “อืมๆ เดี๋ยววันนี้กูกลับมาเร็วๆ แล้วกัน” คยองซูตอบทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

                “เฮ้อ... ปัญหามันจะใหญ่เท่าปัญหากูมั้ยเนี่ย”

**********

                “คยองซู... แน่จายหรอว่าจะปายจริงๆ” ครูพีทพูดขึ้นทันทีที่เห็นหน้าคยองซูโผล่เข้ามาในห้องเรียน 

                “ผมก็ไม่รู้ครับ... ผมก็เริ่มลังเล” เขานั่งลงตรงข้ามกับครูพีท สายตาหลุบต่ำ

                “เฮ้ออออออ... ตัวครูเอง มีความสุขนะ... ที่เห็นนักเรียนสอบได้ แต่ว่า ครูก็จายหาย เพราะครูรู้ว่าเธอมีความรักค้างคาอยู่ที่เกาหลี ถ้าเธอจาปาย เธอไม่เจ็บหรอ?”

                “ฮะ O_O! ครูพีทเอาอะไรมาพูดครับ?” คยองซูเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อได้ยินว่าครูพีทรู้ว่าตัวเองมีความรักอยู่ที่นี่

                “ม่ายบอกครูก็รู้... Your roommate, right?” ครูพีทถามยิ้มๆ ทำให้คยองซูต้องจำยอมพยักหน้าเขินๆ “เฮ้อออออ ยิ่งเป็นรูมเมทกานแล้ว... เลิกรักยากมากกกกก”

                “ผมควรจะทำยังไงดีครับ ผมอยากหนีเค้าแต่ผมก็อยากอยู่ต่อเหมือนกัน” 

                “ฮ่าๆๆๆ ครูไม่ใช่ที่ปรึกษาด้านความรักนะ ฮ่าๆ ^O^ แต่ครูจาบอกห้ายอย่างนึง... ถ้าการไปเรียนต่อเพื่อหนีคนที่อยู่ที่นี่ เป็นความคิดที่ผิด แต่ถ้าไปเรียนต่อเพื่อหาความรู้ใส่ตัว เธอทำถูกแล้ว” ครูพีทให้คำแนะนำเสียจนคยองซูชะงักไป 

                ก็เขาตั้งใจจะหนีจงอินจริงๆ
                แต่เพราะการหนีมันเนี่ยแหละ ทำให้เขาเก่งภาษาอังกฤษขึ้นเยอะเลย -0-!

**********

                บ้าชิบเป๋งงงงงงงง~

                ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นสโตคเกอร์รึเปล่า =O= แต่ผมก็สะกดรอยไอ้โด้มาจนถึงที่เรียนพิเศษของมัน -*- แล้วก็นั่งรอมันอยู่ข้างในสถาบันเป็นเวลาห้าชั่วโมงแล้ว T____T จนเจ้าหน้าที่หน้าเคาท์เตอร์เค้าคิดว่าผมจะมาปักหลักอาศัยอยู่ที่นี่ละ -_-; แต่แต่แต่!! ผมก็ไม่ได้รอมันอย่างเดียวนะเฮ้ยยย! ก็แวะไปซื้อไอติม, กาแฟ, หนังสือพิมพ์, ตุ๊กตา ฯลฯ ด้วยเหอะ -_-^

                แอดดดดดดดดด~

                “ไว้ผมจะแวะมาเยี่ยมนะครับ ^____^!” เสียงเล็กๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงเปิดประตูห้อง ผมจึงแกล้งทำตัวเองให้กระปรี้กระเปร่าเหมือนพึ่งมาเมื่อกี้

                Hi! คยองซู!” ผมแกล้งทำเหมือนพึ่งมา ก่อนจะทักขึ้น

                “อ้าวไค O_O! มายังไงเนี่ย พึ่งมาหรอ?” โด้มองผมด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ

                “พึ่งมาเมื่อเกี๊ยยย~ สดๆ ร้อนๆ เล๊ยยยย~ เอาเป็นว่ากูตามหาจนเจอเองแล้วกัน” ผมตอบพลางเกาหัวแก้เขิน “รีบกลับบ้านเหอะ เดี๋ยวไอ้แบคมา เปิดห้องไม่ได้อีก”

                “เออใช่ รีบไปกันๆ” โด้พูดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่หน้าเคาท์เตอร์ก็คว้ามือไอ้โด้ไว้ก่อนที่จะกระซิบอะไรบางอย่างจนโด้หน้าแดงขึ้นมานิดหน่อย แต่ไอ้สายตาที่ทั้งสองคนนี้มันมองผมเนี่ย... เริ่มรู้สึกแปลกๆ แฮะ

                เมื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นกระซิบจบ โด้ก็ปลีกตัวเดินออกมาและเดินมาสมทบกับผมพร้อมกับยิ้มหวานๆ ให้ผม หูเหอนี่แดงก่ำหมดละ... อีเจ้าหน้าที่มันพูดอะไรใส่ศรีโดโด้ของกูฟะ -O-!!

                “เป็นไรของมึงงงงง อีเจ้าหน้าที่เมื่อกี้มันจีบมึงอ่อออ” ผมหันไปถามมัน

                “เปล่า พี่เค้าบอกว่า มึง...” มันหยุดพูดไปซักพักก่อนจะยิ้มหวานอีกรอบ “มึง... มึงมารอกูตั้งแต่ชั่วโมงแรกแล้ว - / / / -” 
       
                เอิ่มมมมมมม อีนังเจ้าหน้าที่ปากเปราะ TOT

                “ก... ก็กูว่างไง กูว๊างว่างงงง! เอ้านี่!” ผมรีบแก้ตัวก่อนจะหยิบตุ๊กตาริลัคคุมะที่บ้าซื้อมาทำห่าอะไรไม่รู้ให้มัน “เอาไป กูซื้อให้ เพราะกูว่าง เข้าใจมั้ยว่ากูว่าง! กูว่างจริงๆ นะโด้ มึงเข้าใจกูมั้ย”

                “ฮ่าๆๆๆๆๆ เข้าใจแล้วๆ ^___^” โด้หัวเราะลั่นปนพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะรับริลัคคุมะไปกอดแน่นจนหนังสือจะหล่นไปกองอยู่ใต้ตีนละ แหม่... เรียนจบคอร์สแล้วนี่~ หนังสือหนังหาไม่สนใจเลยนะมึง =O=

                “ไอ่ห่า มึงอย่าจับปลาสองมือซิ มึงจะถือหนังสือหรือจะถือริลัคคุมะ?” ผมหยุดเดินก่อนที่จะเท้าสะเอวมองหน้ามัน

                “ถือริลัคคุมะ >O<               

                “งั้นเอาหนังสือมาให้กูถือ” ผมพูดพลางแบมือขอหนังสือจากมัน มันก็ยื่นกองหนังสือเล็กๆ ให้อย่างเก้ๆ กังๆ อืม... สภาพเราตอนนี้เหมือนผัวมารับเมียกลับบ้าน ถือหนังสือให้เมียแล้วเมียก็เดินกอดตุ๊กตาสบายใจเฉิบ 

                แต่เอาวะ... กูเต็มใจ อิอิ

                “ไอ่พวกเหี้ยยยยยยย T_________T ไปเดทกันที่ไหนมาวะ กูนั่งรอหน้าห้องพวกมึงเป็นชั่วโมงละเนี่ย โทรไปก็ไม่รับ ถ้าไม่เห็นว่ากูกำลังเครียดกูหนีกลับบ้านฟ้องแม่แล้วนะ” เมื่อกลับมาถึงหน้าประตูห้องคอนโด ไอ้แรดแบคที่ท่าทางจะมารอนานแล้วก็โวยวายทันที

                “กูเคยบอกมึงยังวะว่ากูเลิกเรียนหกโมงเย็น -_-?” เหยดดดด โด้มีเหตุผลคร่ะ 

                “ไม่รู้วววว กูรู้แค่ว่ากูอยากเจอมึงมากเลยโด้ T^T มึงไปนอนบ้านกูเลยไค กูจะอยู่กับโด้” มันพูดพลางผลักผมออกไปห่างๆ 

                “อ้าวไอ้เหี้ยนี่ -_-^ มึงเป็นใครไม่ทราบครับ? กูอยู่ห้องนอนกูก็ได้! พวกมึงจะคุยอะไรกันประสาเคะก็ช่างหัวพวกมึง” ผมพูดพลางไขกุญแจเข้าไปในห้อง โด้ดูเป็นห่วงไอ้แรดแบคมาก แล้วไอ้แรดแบคก็ดูอาการหนักมาก 

                “ไค มึงไปต้มรามยอนมาสามห่อดิ๊” จู่ๆ เมียก็สั่งครับ =[]=

                “ขอสี่เหอะ...” อีแรดแบคเงยหน้าขึ้นมาจากความเศร้า 

                “เออออ สี่ก็สี่ ฟายยย! เกะกะกูแล้วยังมีหน้ามาขอแดกเพิ่มอีกนะ นี่ถ้าไม่เห็นว่าโด้สั่งนะมึง” ผมชี้หน้ามันทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปในครัวแล้วก็ต้มรามยอนตามคำสั่ง 



                พอต้มเสร็จ ผมก็เดินไปเสิร์ฟถึงที่ ดูเหมือนว่าแรดแบคจะเล่าให้โด้ฟังเสร็จแล้ว แต่ถึงแม้ว่าอีแรดแบคจะบอกว่ามันกลุ้มใจมากแค่ไหน มันก็ไม่มีน้ำตาซักกะหยด คงจะแค่กลุ้มใจล่ะมั้ง...

                “กูรู้ด้วยได้มั้ยอ่ะ” เสือกเป็นงานของคิมจงอินครับ ไม่ได้เสือกแล้วนอนไม่หลับ =_____=

                “ไม่ได้! มึงมันปากเปราะ ปากสว่าง ปากรั่ว กูไม่อนุญาตให้มึงรู้เด็ดขาด” อีแรดแบคตอบกลับมา

                “กูสัญญาว่ากูจะไม่บอกใครเลยจริงๆ ด้วยเกียรติของผู้ชายที่หล่อมาก” ผมชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วเหมือนจะสาบานจริงจัง แต่นิ้วตีนกูอิ๊บไว้ละ กูไม่สัญญาง่ายๆ หรอก 

                “มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่หว่า... เล่าๆ ไปเหอะ” โด้เสริม ดีมากกก มันต้องอย่างนี้!

                “ก็แค่ ชานยอลมัน... มัน...” แหม่ กูว่าละว่าต้องเป็นเรื่องผัว -_-^

                “มันจะเอามึง?”
                “รู้ได้ไงอ่ะ!!” อีชิบหาย... กูแค่ลองพูดไปมั่วๆ แม่งเสือกใช่ TOT

                “แล้วไงต่อ”
                “แล้ว... กูก็ปฏิเสธอ่ะ (._.) มันบอกว่ามันพร้อมแล้วด้วย แต่มันก็ไม่ได้โกรธกูนะ แต่มันทำข้อตกลงว่ากูต้องเป็นเคะมันตลอดไป กูก็โอเคเรียบร้อยแล้วอ่ะ แต่กูก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดี มันจะมองหน้ากันติดใช่มะ TOT?” มันทำหน้าเหมือนเคะน้อยอ่อนต่อโลกมากๆ กูจะอ้วกแตก -*-

                “แบค... มึงรู้มั้ยว่าถ้ากูเป็นชานยอลน่ะนะ กูคงจัดการให้เรียบตั้งแต่เจอหน้าละห่า มันเป็นสุภาพบุรุษมากเลยนะเว่ย” ผมออกความเห็น

                “แสดงว่ามึงเลวใช่ปะ -_-?” ดูแม่งถาม

                “เอออ กูเลว แต่แหม อย่ามาว่ากูเลยค่ะอีแรดแบค แต่ก่อน บยอนแบคฮยอนผู้มีอิทธิพลทางด้านเมะของโรงเรียนเราก็เอาไม่เลือกไม่ใช่หรอคะ? แล้วพอขึ้นปีหนึ่งเจอเมะตัวบักควายมาจีบก็อ่อนระทวยเชียว” ผมบ่นยาว 

                “เห็นมั้ยอ่ะโด้ T_____T กูบอกแล้วว่าอย่าบอกไอ้เหี้ยนี่ แม่งด่ากูซะไม่มีความเป็นเมะเหลืออยู่แล้วเนี่ย”

                “ถุยยย ไม่เหลือนานแล้วมึงอ่ะ -O-” ผมด่ามันอีกจนมันยู่ปากงอน

                “เอาล่ะๆ เอาเป็นว่าชานยอลมันไม่ว่าอะไรมึงหรอก เพราะพวกมึงก็มีข้อตกลงแล้วนิ แถมข้อตกลงนี่ก็ชานยอลมันก็มีแต่ได้กับได้ แค่เรื่องคืนเดียวไม่เป็นอะไรหรอกน่า” โด้ปลอบอีแรดแบค แต่ดูเหมือนมันยังข้องใจ

                “ไค ถ้าเป็นมึง มึงจะโกรธโด้ปะ?” 

                คำถามเหี้ยอะไรของมันวะ กูงง =[]=!!!!!

                “ฮะ -O-? มึงถามอะไรของมึงวะแบค” ผมหันไปถามมัน แต่เหมือนมันจะดูเลิ่กลั่ก สบตาผมกับโด้สลับกันไปมาก่อนจะรีบพูดจนลิ้นจะพันกัน

                “อ่ะ.... เปล่าาา ก็สมมติว่าพวกมึงเป็นแฟนกันแล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้...”

                “ไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน เพราะถึงไอ้โด้มันจะขัดขืนปฏิเสธ กูก็จะเอาจนถึงฝั่งฝัน ฮ่าๆๆๆ” ผมพูดขัดขึ้นโดยไม่รอให้จบประโยค 

                “พูดเหี้ยอะไรของมึง ไปนอนได้แล้วไป น่ารำคาญจริง -*-” แล้วไอ้โด้แบบไม่รู้มีอาการหน้าแดงใดๆ ทั้งสิ้นก็ถีบส่งผมมาด้านนอกจนได้ นี่กูพึ่งแดกรามยอนไปได้คำเดียวเองนะ T___T แม่งไล่กูไปนอนแล้วอ่ะ นอนก็ได้!






                “ก็อย่างที่เห็น ไคแม่งหยอดกูทุกวี่วัน หยอดได้เมื่อไหร่ก็หยอด กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” โด้พูดขึ้นขณะที่มันเห็นว่าไอ้ไคหายเข้าห้องนอนตัวเองไปแล้ว 

                “กูว่ากูมีเรื่องกลุ้มแล้วนะ แต่มึงมีมากกว่ากูอีกใช่มะ” ผมพูดขึ้น ตอนนี้เรื่องชานยอลไม่ได้อยู่ในสมองละ แต่เป็นเรื่องโด้มากกว่าเพราะสายตามันดูมีความลับที่ยิ่งใหญ่มาก

                “ใช่”
                “ว่ามา”

                “กูได้ทุนไปเรียนที่ Harvard                

                ห้ะ =[]=!!!!

                “มึงพูดเล่นรึเปล่าอ่ะ ม... มึงจะไปจริงๆ หรอ TOT ” ผมพึมพำเบาๆ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

                “พูดจริงดิไอ่บ้า -_-^ แต่ยังไม่รู้เลยเว่ย สัมภาษณ์ผ่าน Skype พรุ่งนี้ ถ้าได้กูก็จะไป ถ้าไม่ได้กูก็อยู่ต่อเนี่ยแหละ” มันพูดพลางทิ้งตัวลงบนเตียงนอน ผมก็เลยเดินตามไปนั่งข้างๆ

                “คนอื่นรู้ยัง”
                “ไม่มีใครรู้ มีแค่มึงกับครูพีท ฮ่าๆๆๆ” มันหัวเราะฝืนๆ 

                “แม้กระทั่งไค?”
                “เออ ไอ้ห่านั่นไม่ต้องบอกมันหรอก ไว้ได้จริงๆ แล้วค่อยบอกมัน แถมถ้าบอกมันตอนนี้นะ มันได้ขังกูไว้ในห้องน้ำ ไม่ต้องสัมภาษณ์กันพอดี” 

                “เออ ก็จริงของมึง”

                ครืดดดดดดดดด...
                โนเกีย 3310 สั่น -O-

            ชานของแบค

                “เมมชื่อซะจะอ้วกแตก” ไอ่โด้แกล้งเบือนหน้าหนีเอียนๆ 

                “บ้า - / / -! มันเมมให้กูหรอก... ฮัลโหล” ผมรับสายขึ้นมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

                (แบคอยู่ไหนครับ? ชานมาที่บ้านแบคแล้วแม่บอกว่าไม่อยู่ ไปแรดที่ผับ ฮ่าๆ)

                “ผับบ้าอะไรเงียบขนาดนี้เล่า อยู่คอนโดไอ้โด้มัน มาคุยเล่นน่ะ”

                (อ้อ แบคนอนนู่นใช่ป่าว)

                “คงไม่แล้วล่ะ ^^ ตอนนี้หมดห่วงละ สบายใจ ^^” ผมตอบกลับไปยิ้มๆ นิ้วชี้เขี่ยผ้าปูที่นอนไปมา

                (ถ้างั้นชานไปรับที่คอนโดมั้ย จะได้พามาส่งที่บ้าน)

                “ไม่เป็นไรรรร นี่ก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่เลย เดี๋ยวก็กลับแล้ว” 

                (โอเคครับผม ^^ หารถเมล์ขึ้นไม่ได้ก็โทรหาชานนะ)

                “อื้ออออ บายยยย”

                (บายครับ) ผมวางสายไปก่อนจะอมยิ้มนิดๆ โด้จึงหันมายิ้มให้ผม

                “เห็นมั้ย บอกแล้วว่าชานยอลไม่อะไรหรอก ^^

                “อือ กูกลับบ้านละ มึงก็คิดดีๆ นะเรื่องเนี้ย” ผมลุกขึ้นยืนเตรียมตัวกลับ “ยังไงซะกูก็อยากให้มึงไปเรียนนะ เพราะมันเป็นอนาคตของมึง อนาคตที่ดีกว่าที่นี่ ^___^

                “อื้ม!” โด้ตอบกลับมาก่อนจะเดินมาส่งผมออกจากห้อง

                ถึงผมจะพูดว่าอยากให้มันไปเรียน...

                แต่พระเจ้าครับ... ถ้าเพื่อนผมไปเรียนแล้วมันกับไคเป็นแบบเดิมก็ไม่ต้องให้มันไปหรอกนะครับ
                แต่ถ้าเพื่อนผมไปเรียนแล้วความสัมพันธ์จะพัฒนา... ก็ปล่อยให้ไอ้โด้ไปเรียนเดี๋ยวนี้เลยเถอะครับ




ในคืนวันเกิดของคิมจงแด

                ตัวผอมแห้งอย่างกะกุ้ง มึงจะยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นโมเม้นท์เฉินเลย์อีกเนอะผมพูดขึ้นขณะที่กำลังไขกุญแจเข้าไปในห้องพร้อมกับไอ้แป๊ะจงแด ผมนอนห้องเดียวกับมัน เป็นรูมเมทกันตั้งแต่ปีหนึ่งละ
                ...'
                แน่ะ เถียงไม่ออกเลยนะมึง

                ไหนของขวัญวันเกิดกู?จู่ๆ มันก็แบมือขอของขวัญหน้าอึนๆ เออจริงด้วย... กูลืม -_-^

                ลืมว่ะ ท่ดๆ ผมพูดพลางเดินเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงทันทีด้วยความเหนื่อยล้า แต่แทนที่ไอ้แป๊ะจงแดมันจะไปนอนที่ห้องมัน มันกลับเดินตามเข้ามาแล้วก็นั่งลงบนปลายเตียง

                เอาของขวัญวันเกิดกูมา

                ก็บอกว่าลืมไง T_____T ขอโทษษษษ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปซื้อให้เลยนะ นะๆผมทำหน้าอ้อนใส่มัน แต่มันกลับคลานขึ้นมาบนเตียงและคร่อมทับผมไว้ 

                ของขวัญ...

                ฮ... เฮ้ยยยย จะทำอะไรกู TOT!!’
                หึ...

                แล้วทุกอย่างก็พังพินาศครับ...




ขณะนี้เป็นเวลาตีสามกว่า

                “อี้ชิง มึงจะร้องไห้ทำไม” ยังมีหน้ามาพูด TTOTT!!!

                “โหยอีเหี้ยจงแด T^T มึงยังมีหน้ามาถามกูอีกหรอ มึงอ่ะแหละเลวววว” ผมพูดพลางขย้ำผ้าห่มแน่น ข้างในผ้าห่มมีแต่ร่างอันเปลือยเปล่าแสนเซ็กซี่ของผม กระซิกๆ T^T แถมยังต้องนอนแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนแห้งๆ ของไอ้จงแดอย่างเสียไม่ได้

                “เดี๋ยวกูรับผิดชอบ”

                “ไม่ต้องมารับผิดชอบบ TOT มึงจะไปไหนก็ไปเลยยยฮือออออ” ตอนแรกกะจะแค่ทำเสียงร้องไห้เฉยๆ แต่น้ำตามันดันไหลออกมาจริงซะอย่างนั้น T__T

                “ก็มึงท้านี่หว่า -_-;” มันพูดพลางเกาหัวงงๆ

                “เอออออ กูท้า แต่มึงก็แค่เถียงกลับก็พอปะ ไม่ต้องทำจริงๆ ก็ได้อ่ะแม่ง TOT กูโกรธอ่ะ โกรธธธธ!” ผมโวยวาย แต่ดิ้นมากไม่ได้เพราะเจ็บตูดมาก ณ จุดนี้ ฮืออออออ

                “โกรธแล้วทำไมไม่ลุกหนีล่ะ มานอนให้กูกอดทำไม” มันพูดพลางลูบหัวผมเบาๆ

                “จะให้กูลุกยังไงวะสัส กระดูกสันหลังกูร้าวหมดละ ไม่มีแรงจะยืนแล้วเนี่ย!” ผมหันไปด่ามัน

                “แต่ปากยังพูดไม่หยุดเลยนะ”

                “แหงล่ะ! คนอย่างจางอี้ชิง ถึงตายก็ต้องขอให้ได้พูดเหอะ!” ผมพูดพลางพลิกตัวหนีช้าๆ เพราะตูดยังคงเจ็บปวด    

                กริ๊งงงงงง
                โทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงกูดังง TOT

            เสี่ยวลู่

                “ฮัลโหล โทรมาทำไมดึกๆ ดื่นๆ” ไอ้เหี้ยจงแดดด มึงจะรับสายทำไมมมมม T____T แถมยังเปิดสปีคเกอร์โฟนด้วยนะ 

                (อ้าว โทรศัพท์อี้ชิงอยู่กับมึงหรอ เปล่าหรอก กูพึ่งคุยกับฮุนเสร็จ คิดว่าป่านนี้อี้ชิงมันคงยังไม่นอนหรอก กูก็เลยกะจะโทรมาเขินใส่มันน่ะ >___<) อาลู่พูดด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้มแจ่มใส

                “แล้วฮุนกับมึงได้กันรึยัง” อีจงแดถามด้วยประโยคที่ล่อแหลมมาก

                (บ... บ้า - / / / - ฮุนมันงานเยอะ ให้มันพักผ่อนไปก่อนเหอะ) อาลู่พูดกลับมาด้วยน้ำเสียงเขินๆ

                “ก็ไม่อะไรหรอก แค่จะบอกว่ากูกับอี้ชิงได้กันแล้ว” 

                ห้ะ O[]O!!!!!!! มึงพูดเหี้ยอะไรนะ!

                (กูฟังอะไรผิดใช่มั้ย) อาลู่ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

                “ใช่!!!!! เสี่ยวลู่!! มึงฟังผิดดด ไอ้เหี้ยจงแดมันบอกว่ากูกับอี้ชิงได้นอนหลับกันแล้วต่างหาก” ผมรีบตัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ 

                (ด... ได้นอนหลับกันแล้วหรือได้กันแล้ววะ แล้วอี้ชิง! มึงได้ยินที่กูพูดได้ไง เปิดสปีคเกอร์โฟนหรอ ถ้าเปิดนานแล้วทำไมไม่พูดกับกูอ่ะ ตกลงว่ามันยังไง) โหยเหี้ยลู่เอ๊ยยยย! ปกติไม่เคยจะถามอะไรเยอะแยะ วันนี้มึงเป็นโคนันหรอครับบบ? มึงจะอยากรู้เหี้ยอะไรเยอะแยะครับบบ?

                “สรุปคือได้นอนหลับกันแล้วเนี่ย ไม่ใช่ เพราะพวกกูยังไม่ได้นอน มัวแต่ได้กันอยู่ จบ” อี้เหี้ยจงแดสรุปจบได้วอทเดอะฟรัคมาก TOT

                (อ... เอ่อ แล้วอี้ชิงมันยอมได้ไง)

                “มันไม่ได้ยอมหรอก แต่กูแรงดี แดกเค้กแล้วมันกระปรี้กระเปร่า” 

                (จริงหรออี้ชิง...)
 
                “อือ...” เราสองคนเสียวแผ่วไปตามๆ กัน แต่ดูเหมือนเหี้ยจงแดจะยังไม่เลิก

                “เออ แค่นี้นะ เรื่องที่มึงได้คุยกับน้องฮุนก็ยินดีด้วยแล้วกัน”

                (อือๆ งั้นแค่นี้นะ...)

                “อย่าพึ่งงงงงงงง!” ผมร้องขึ้นมา “เรื่องนี้ห้ามบอกใครนะลู่!

                (เออน่ะ ไม่บอกใครหรอก แค่นี้นะ)

                “อือ T^T” ผมตอบ ลู่จึงวางสายไป จงแดปิดโทรศัพท์ผมก่อนจะเหวี่ยงมันไว้บนหัวเตียงเหมือนเดิม ด้วยความโกรธที่ยังคุกรุ่นในใจที่ถูกมันฟันเข้าใจกลาง ก็เลยพลิกตัวหันหนีไปอีกทางเหมือนเดิม

                “เออนี่อี้ชิง”

                “เหี้ยไร”

                “เราทำกันสี่ครั้ง... เลขสี่นี่มันเลขซี้ของจีนไม่ใช่หรอ มันเป็นลางไม่ดีนะเว่ย” มันพูด โหยเหี้ยเอ๊ยยย มารู้ธรรมเนียมจีนอะไรตอนเน้ TOT 

                “แล้วไงงง มึงจะทำอะไรกูอีกอ่ะ”

                “เรามาทำอีกทีดีมั้ย เลขห้าภาษาไทยมันเป็นเลขหัวเราะฮ่าๆ นะเว่ย จะได้เป็นเปลี่ยนเป็นเลขดีไง” มันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนผมต้องหันกลับไปมองหนังหน้ามันซะหน่อย

                “ร้อยวันพันปีไม่เคยจะคิดเรื่องโชคลาง แล้วมึงไปรู้ภาษาไทยตอนไหนไม่ทราบ วันนี้มึงเป็นเหี้ยอัลไล๊ T^T! ไม่เอาเว่ย!” ผมด่าอย่างเหลืออด ปกติอะไรๆ ก็ต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ผีสิงหรอครับคุณคิมจงแดด

                “จิ๊” มันส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ “ทำไมต้องให้กูพูดตรงๆ วะ”

                “ทำไมมมมม! มึงพูดเยอะซักหน่อยโลกไม่แตกหรอกห่า” 
 
                “กูจะเอามึงอีกที จบมั้ย -_-?
                
 
                จบครับ ปรี้จงแด T______T

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น