วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 31 Come to the END...




31

Come to the END...


ขึ้นปีสองแล้วครับ...


วันเปิดเทอมของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเกาหลี        

                “ทำไมเหลือเราสองคนที่มาเรียนที่มหาลัยล่ะชาน T______T” แบคฮยอนบ่นพึมพำก่อนจะเกาะแขนชานยอลแน่น ตอนนี้แม่อิแบคหนีไปอยู่สวิสเซอร์แลนด์ =[]= เพราะอยากให้ลูกอยู่กับผัวอย่างเต็มที่ ชานยอลกับแบคฮยอนจึงตกลงกันว่าเดือนนึงนอนบ้านชานยอล อีกเดือนนึงก็นอนบ้านแบคฮยอน สลับกันไปอย่างนี้เรื่อย

                “เหงาเนอะแบค”

                “อื้อ” แบคฮยอนตอบกลับด้วยสีหน้าเศร้าๆ 

                “งั้นวันนี้เรารีบกลับไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะที่บ้านชานกันดีกว่า”

                “ทะลึ่งละ -_-^!!

                “พอจะเข้านอนทีไรแบคก็แรดใส่ชานทุกทีอ่ะ ใครมันจะไปอดใจไหวครับ?”

                “ชานด่าแบคว่าแรดอีกแล้วนะ!!

                “ไม่ได้ด่าเหอะ ชานชอบมากเลยต่างหาก อิอิ” ชานยอลก้มลงมากระซิบข้างหูจนแบคฮยอนจั๊กจี๊ แต่ก็ต้องหยุดหัวเราะกันเมื่อเห็น ซูโฮหรือพี่หมอตุ๊ดของแก๊งค์หลังห้องกำลังเดินปรี่มาทางนี้ ชานยอลจึงรีบแกะมือแบคฮยอนที่เกาะแขนตัวเองอยู่เพราะกลัวว่าแบคฮยอนจะยังอยากเป็นเมะอยู่อีก แต่แบคฮยอนก็ยึดมือไว้แน่นก่อนจะเดินหน้าเชิดตรงไปหาซูโฮ

                “แบค! นี่แบคเป็น...”

                “เคะ กูเป็นเคะ กูเคะแล้ว ได้ยินกูมั้ย?” แบคฮยอนตอบด้วยสีหน้ากวนๆ มือก็จับแขนชานยอลไว้ไม่ปล่อย “คนนี้ผัวกู คนนี้แฟนกู จบมั้ย ห้ามแย่ง!

                “พี่แค่จะบอกว่า...”
                “...”
                “ที่ผ่านมา พี่ยังรักแบคอยู่เลยนะ ที่พี่จีบชานยอลตอนไปค่ายก็เพราะอยากให้แบคหึงพี่บ้าง แต่นี่มันอะไรกัน... แบคกลายเป็นเคะไปแล้ว พี่ทำใจไม่ได้! ชานยอล! ฉันเกลียดคนอย่างนายที่สุดเลย! พวกที่ถือคติได้เมะแล้วเป็นยอดเมะเนี่ย!” ซูโฮแทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นแบคฮยอนกลายเป็นเคะ 

                เขาพูดจริงทุกอย่าง... เขายังรักแบคฮยอนอยู่เลย

                “อ้าวหรอ กูขอโทษ” แบคฮยอนเห็นท่าทางที่ดูจริงจังของซูโฮก็ถึงกับหลุดปากขอโทษออกมา “เอาเป็นว่าตอนนี้กูเป็นเคะไปละ ก็จบกันตรงนี้แล้วกันนะ”

                “แบค... ฮือออออ” แล้วซูโฮก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ จนแบคฮยอนยังตกใจแต่ทำได้แค่ตบบ่าแล้วเดินหนีออกมา

                “พี่ครับ...” ซูโฮเงยหน้าขึ้นจากความเศร้ามองไปที่คนที่เดินเข้ามาทักทาย ใบหน้าที่ดูดุร้ายเหมือนพวกแบดบอยเถื่อนๆ หูที่เจาะนับรูไม่ถ้วน แต่พอยิ้มแล้วก็เหมือนโลกสดใสไปทั้งใบ

                “อ... อะไร”

                “ผมให้ยืมผ้าเช็ดหน้าครับ” ร่างสูงยื่นผ้าเช็ดหน้าสีน้ำตาลเรียบๆ ให้ ก่อนที่จะยิ้มอีกครั้ง “ผมชื่อจื่อเทานะ เรียนอยู่ปีหนึ่งคณะแพทย์ครับ”

                “ฮ่าๆ” ซูโฮหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินชื่อคณะ “คณะเดียวกันเลย”

                “งั้นผมก็เป็นรุ่นน้องสินะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ^____^




วันเปิดเทอมวันแรกของฮาร์วาร์ด  

                “คยองซู >____<! รอฉันนานมั้ย วันนี้มีรุ่นน้องเฟรชชี่มาเต็มเลยแหละ แต่ละคนนะ หนุ่มเมกาเท่ๆ ทั้งน้านนน” จีซู เพื่อนสนิทของคยองซูที่เป็นคนเกาหลี แต่มาเรียนที่ฮาร์วาร์ดเหมือนคยองซู เดินเข้ามาทักเมื่อเห็นเพื่อนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในโรงอาหาร

                “อ้าว จีซูมาแล้วหรอ >O< อะไรอีกล่ะ พูดเรื่องผู้ชายตลอดอ่ะ”

                “อย่าด่าฉันแบบนั้นสิยะ -^- แต่นี่! เค้าบอกว่ามีหนุ่มเกาหลีมาด้วยแหละแก หล่อแบบแบดๆ นิดนึง แล้วแบบผิวแทนเซ็กซี่ อ๊ะ O_O!! เค้ากำลังเดินมาทางนี้อ่ะ - / /- ทำไงดีๆๆ” จีซูบิดไปมาเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังพูดถึงเดินตรงเข้ามา คยองซูที่นั่งหันหลังให้จึงหัวเราะออกมา

                “เค้าไม่ได้เดินมาหาแกหรอกน่า”

                “คือ O_O” แล้วจีซูก็ต้องชะงักไป “เค้ามาหยุดอยู่ที่ข้างหลังแกอ่ะ”

                คยองซูต้องหันไปด้านหลัง ค่อยๆ เลื่อนสายตาขึ้นไปด้านบนเพื่อมองหน้าผู้มาใหม่ก็เกือบกระอักเลือดออกมาเมื่อเห็นหน้าคนที่คุ้นเคยกันดี!

                “แค่กๆๆๆๆๆ” จู่ๆ ก็สำลักน้ำลายตัวเองขึ้นมาเฉยเลย

                “โด้ เป็นไร” ร่างสูงสะกิดด้วยสีหน้าเซ็งๆ ก่อนจะมองหน้าจีซู “คือ... มันเป็นอะไรหรอครับ เห็นผัวมาถึงฮาร์วาร์ดแล้วต้องตกใจด้วย?”

                “อ... เอ่อ...” จีซูถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว แต่คยองซูของเรายังคงช็อค มองหน้าผู้มาใหม่ด้วยแววตาที่ประหลาดใจ

                “เฮ้ยเดี๋ยวนะโด้ มึงมีเพื่อนผู้หญิงหรอเนี่ยยยย โหยยย คอยดูนะ กูจะรวมแก๊งค์หลังห้องแห่งฮาร์วาร์ดให้ได้เลยคอยดูดิ”

                “ด... เดี๋ยวนะ” จีซูขัดขึ้นมา “เมื่อกี้เราได้ยินอะไรผัวๆ ใช่มั้ย”

                “อ่าใช่ เราชื่อคิมจงอินนะ ผัวโด้มัน อ้อ! แล้วอย่ามาเรียกคยองซูว่าโด้ตามเรานะ ไม่งั้นเราโกรธด้วย แล้วก็... เธอช่วยหลบไปไกลๆ ก่อนได้มั้ย เรามีเรื่องจะคุยกับเมียแป๊บนึง” จงอินใส่เป็นชุดเหมือนเก็บกดมานาน จีซูจึงรีบเดินหนีออกไปแอบดูอยู่ห่างๆ ร่างสูงรีบนั่งลงข้างๆ คยองซูที่กำลังทำหน้ามึน

                “มึงจะมึนอีกนานมั้ย ผัวเรียนฮาร์วาร์ดนะคะ” 

                “ม... มึงสอบ TOEFL ได้ไงอ่ะ O_O” คยองซูรีบถาม 

                “กูก็ไปเรียนกับครูพีทของมึงน่ะสิ มึงเรียนห้าชั่วโมงใช่มั้ย? แต่กูเรียนแม่งทั้งวันทั้งคืน ว่างเมื่อไหร่ต้องไปหา แถมครูเค้าสอนกูฟรีด้วย ~O~ เค้าบอกว่าเค้าอยากสนับสนุนให้กูตามไปอยู่กับมึงที่ฮาร์วาร์ด” จงอินเล่าด้วยสีหน้าที่ภาคภูมิใจ

                “แล้วมึงสอบผ่านมาได้ยังไงวะ O_O!!

                “หืมมมม? เกณฑ์เค้ากำหนดที่100คะแนน คิมจงอินก็ต้องได้100คะแนนสิครับเมีย >O<” จงอินพูดอ้อนพลางซบลงที่ไหล่ของคยองซู แต่คนถูกซบก็ดันหัวออกอย่างรวดเร็ว

                “มึงไม่ต้องเลย! จะมาเรียนก็ไม่บอกกูซักคำ สไกป์ทุกวันแต่ไม่เคยบอกกูซักนิด ใจร้าย” คยองซูพูดงอนๆ ก่อนจะหันไปทางอื่น

                “นี่... ไม่คิดว่ากูจะเหนื่อยบ้างหรอครับ พอมึงหลับกูก็รีบหนีไปเรียน พอมึงตื่นกูก็ต้องวิ่งกลับมาเปิดสไกป์หามึง อยากเซอร์ไพร์สเมียตัวเองแต่เมียดันโกรธซะงั้น น่าสงสารจังนะจงอิน...” ไอ้บ้าโรคจิตคิมจงอินพูดกับตัวเองแล้วยังทำเสียงน่าสงสารสุดๆ จนคยองซูต้องหันกลับมา

                “อะไร.... ไม่ได้โกรธไง แต่บอกกูได้มั้ยล่ะ จะได้ช่วยมึงติว เราจะได้อ่านหนังสือด้วยกัน” 

                “ฮึ -^- เค้างอนแล้วนะ ถ้าโด้ไม่ให้เค้าจับจูบกลางโรงอาหาร เค้างอนไม่เลิกจริงๆ ด้วย” จงอินสะบัดหน้าหนี

                “โรคจิตละ งั้นก็งอนต่อไป เป็นตายร้ายดีกูก็จะไม่ทำอะไรโจ่งแจ้ง =____=” คยองซูหันกลับไปอ่านหนังสือนิ่งๆ จนจงอินใจเสีย จึงก้มลงมากระซิบข้างหู

                “รุ่นพี่เปิดรับรูมเมทปีหนึ่งมั้ยอ่ะครับ...”

                “ป... เปิด (. / / / / .)” เมื่อถูกกระซิบเข้าข้างหูซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขาก็ถึงกับหน้าแดงขึ้นมา

                “ถ้างั้น... ผมขอสมัครนะครับ แล้วก็... คืนนี้...”
                “...”
                “ปฐมนิเทศผมทั้งคืนเลยนะครับรุ่นพี่...”




วันทำงานของดาราดัง

                “กรี๊ดดดดดดดดด เซฮุนอปป้ามาแล้วววววว~” เหล่าบรรดาแฟนคลับส่งเสียงกรี๊ดเมื่อเห็นดาราคนโปรดก้าวขาออกมาจากรถฮอนด้าพรีอุส เอ๊ย! โตโยต้าพรีอุส

                “เซฮุนอปป้า~ ลู่หานอปป้าอยู่ไหนคะ >_____<” แฟนคลับคนหนึ่งถามขึ้น

                “โหไรอ่ะ ผมเป็นดารานะ ทำไมไม่ถามหาผมก่อนอ่ะ T^T พี่ลู่นอนอยู่หลังรถครับ เดี๋ยวก็...” พูดไม่ทันขาดคำประตูรถด้านหลังก็เปิดออก แฟนคลับจึงวิ่งเข้าไปรุมที่ประตูนั้นแทนเขา 

                “สวัสดีครับทุกคน ^^” ลู่หานยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เขายังตื่นไม่เต็มตานักแต่บรรดาแฟนคลับกลับชอบลู่หานโหมดงัวเงียแบบนี้ซะงั้น 

                “ลู่หานอปป้าาาาา~ พวกหนูพร่ำพูดให้อปป้าไปเป็นดารามาหลายเดือนแล้วนะคะ เมื่อไหร่จะเป็นซักทีอ่ะ” แฟนคลับคนหนึ่งพูดขึ้นมา ลู่หานจีงรีบตอบยิ้มๆ

                “เดี๋ยวคนตรงนู้นจะโกรธที่พี่ดังกว่าน่ะสิ ฮ่าๆๆๆ หลบทางก่อนนะคร้าบ เดี๋ยวขอพี่พาฮุนไปที่กองถ่ายก่อนน้า ไว้เจอกันตอนเลิกกองนะครับ” ลู่หานแหวกเหล่าแฟนคลับออกก่อนจะรีบเดินไปหาเซฮุน แล้วจูงมือเซฮุนไปที่กองถ่ายละครทันที

                “กรี๊ดดดด ถ่ายไว้ยังแก ลู่หานอปป้าจับมือกับเซฮุนอปป้า อุกรี๊ด!




                “เฮ้ออออออออออ~ จบละครไปหนึ่งเรื่อง!” เซฮุนบิดขี้เกียจขณะที่กำลังเดินเข้าไปในห้องพักแห่งชองซูอพาร์ตเมนท์ วันนี้เป็นวันถ่ายฉากสุดท้ายของละครเรื่องใหม่ที่ลู่หานกลายเป็นผู้จัดการ 

                “ฮุนนา... พรุ่งนี้ฮุนมีงานต่อนะ” ลู่หานพูดขึ้นก่อนจะมองไปที่สมุดโน้ตจดตารางงาน

                “ฮะ O[]O!! งานอะไรอีกอ่ะ ฮุนบอกพี่ลู่แล้วใช่มั้ยว่าจบละครเรื่องนี้ขอพักหนึ่งเดือนอ๊ะ T^T ฮุนอยากอยู่กับพี่ลู่สองคน อยากไปมหาลัย~” เซฮุนรีบเดินเข้าไปอ้อนลู่หานทันที 

                “งานของฮุนก็คือ... ไปเรียนที่มหาลัยตอนกลางวัน แล้วตอนกลางคืนก็มาทำงานกับพี่”

                “หืม? ตอนกลางคืน? ทำงานอะไรพี่ลู่ -_-?
                “อิฮุน =___=
                “ขา?”

                “กูยั่วขนาดนี้แล้วนะ ปูทางให้อย่างดีแล้วนะ อย่าพึ่งมาโง่ตอนนี้ได้มั้ย -_-^

                “ตอนกลางคืน... อ้ออออออ~” โอเซฮุนเข้าใจขึ้นมาทันที ก่อนจะคว้าตัวลู่หานไว้แน่น “ไม่ต้องคืนพรุ่งนี้หรอก คืนนี้เค้าก็ยังมีแรงอยู่นะ อิอิ”

                “แรงมึงจะสู้แรงกูไหวเร้อ~ ไปแดกเอ็มร้อยก่อนค่อยมาคุยกัน” ลู่หานทำหน้าเหยียดหยามก่อนจะเดินไปนั่งรอบนเตียงด้วยสีหน้ากร้านโลก

                “พี่ลู่แม่งอย่างงี้ทุกทีอ่ะ!!! มีอารมณ์อย่างว่าทีไรขึ้นมึงกูตัลหลอด T^T ได้!! เค้าจะเดินไปซื้อเอ็มร้อย! อย่าพึ่งชิ่งหลับแล้วกันเชอะ!




วันธรรมดาๆ ของแม่ม่ายในสวิสเซอร์แลนด์

                เฮ้อ หนีแบคมาอยู่ที่นี่จะเวิร์คมั้ยเนี่ยฉันบ่นขึ้นมาเบาๆ เมื่อหยุดยืนอยู่หน้าบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่ซื้อให้ตัวเอง บริษัทที่ฉันเป็น CEO อยู่มันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์นี่นา ถ้าฉันมาอยู่ที่นี่ก็คงจะทำงานสะดวกขึ้น

                แต่คิดถึงลูกอ๊ะ TTOTT!!

                แกร๊ก!    
                ฉันไขกุญแจประตูรั้ว ก่อนที่จะก้าวเข้าไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกไว้

                Hi! Miss. Welcome to our neighborhood. ^O^” ฉันหันไปมองตามเสียงก็เจอฝรั่งตาน้ำข้าวอายุประมาณสามสิบกว่า (ตอนนี้ฉันสี่สิบนิดๆ) ยืนยิ้มตีนกาโผล่ให้อยู่

                Ah, Good afternoon, sir. Thanks for your warm welcome.” ฉันยิ้มกลับไป ก่อนจะไม่สนใจเดินเข้ามาในตัวบ้าน แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวคนนี้ก็ยังคงหยุดยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าเก้ๆ กังๆ

                Urr...” เขาพูดออกมาท่าทางเขินๆ ก่อนจะพูดต่อ “I’m Anthony Morse. May I help you?

                หืมมมม... นี่แกสนใจฉันหรอพ่อหนุ่ม
                ฉันมีลูกชายเป็นเคะด้วยนะจะบอกให้

                Would you mind lifting that box for me?” ฉันชี้ไปที่กล่องหน้าบ้าน เขายิ้มออกมาก่อนจะวิ่งไปยกมันอย่างกระตือรือร้น

                ถึง... อิแบคลูกแม่
                มึงจะมีพ่อเป็นฝรั่งตาสีฟ้า (อีกรอบ) ก็งานนี้แหละ จุ๊บ xoxo




ความรัก... เกิดขึ้นได้
แค่แรกสบตา
แค่มอบความจริงใจและความสม่ำเสมอ
แค่ไม่ต้องมองไกล มองคนใกล้ตัวก็พอ
แค่พยายามและไม่หมดหวัง
แม้ตัวเองจะต้องเปลี่ยนเป็นดาว
แค่เชื่อมั่นและเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ทิ้งอีกคนไว้ด้านหลัง


แล้วคุณ... กำลังเฝ้ารอความรักแบบไหนอยู่?


2 ความคิดเห็น:

  1. อั๊ยย่ะ! จบสวยๆๆๆ *ปรบมื่ออออ~*
    //ทำดีๆๆไรท์เตอร์เจ๊ทำดี~~~555

    ตอบลบ
  2. ตามมาจากเว็บเด็กดีค่ะ สนุกมากเลย ไม่เข้าใจว่าโดนแบนได้ยัง

    ตอบลบ