วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 11 Modesty is just so hard to find.




11

Modesty is just so hard to find.



                แอด...

                ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า หลังจากที่เดินเตร็ดเตร่ลังเลอยู่หน้าคอนโดอยู่นาน ผมก็ตัดสินใจขึ้นไปบนคอนโด เปิดประตูเข้าไปในห้องพักและก็เห็นไอ้โด้กำลังนั่งกอดเข่าดูการ์ตูนเน็ตเวิร์คอยู่ตรงห้องนั่งเล่น

                “หืม? วันนี้มึงมานอนหรอ กูยังไม่ได้ทำความสะอาดห้องมึงให้เลย” มันพูดขึ้นแต่ก็สนใจการ์ตูนมากกว่าผม 

                “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูทำเอง” ผมตอบยิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าครัว เทน้ำใส่แก้ว

                “บ้าหรอ มึงทำเองก็ไม่เรียกทำความสะอาดละ! เค้าเรียกว่าทำความสกปรกมากกว่า เอางี้...ถ้ามึงไม่อาบน้ำก็นอนโซฟา ถ้ามึงอาบน้ำก็นอนเตียงกูได้” มันตะโกนกลับมา แหม่... ขอเสนอเชื้อเชิญกูขนาดนี้ ไม่อาบน้ำก็บ้าละ 5555

                “งั้นกูอาบ” เมื่อดื่มน้ำเสร็จผมก็เดินไปตอบมัน ก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำ (แบบวิ่งผ่านน้ำ) แต่เราก็ต้องทำช้าๆ หน่อย เดี๋ยวมันหาว่าวิ่งผ่านน้ำ ไม่ยอมให้นอนบนเตียง

                อะไรของกูวะ...
                สมัยก่อนให้ตายยังไงกูก็ไม่อยากจะอาบน้ำเลยจริงๆ
                แต่เดี๋ยวนี้...

                “...” ชิบหาย -_-; เผลอบีบยาสระผมเฉยเลย! นี่จะเหม่อไปไหนวะชีวิต สระก็สระวะแม่ง -_-^ (ไม่ได้สระผมมาชาติเศษ)
                

                เมื่อทำอะไรเสร็จแล้ว ผมก็เดินขยี้ผมออกมาจากห้องน้ำ ไอ้โด้ยังคงนั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากกับการ์ตูนเน็ตเวิร์คของมัน 

                “อ้าว! สระผมหรอ!? มึงมาสระอะไรตอนนี้วะไอ้กากไค แล้วผมมันจะแห้งทันมั้ยฮะ นี่ห้ามนอนเลยนะเดี๋ยวรังแคแดกหัว” มันบ่นเป็นชุดแต่ตาก็ยังมิวายมองที่โทรทัศน์ตลอดเวลา

                “เป่าผมให้หน่อย” ผมพึมพาเบาๆ ก่อนที่จะหยิบไดร์เป่าผมออกมา มันมองไดร์เป่าผมสลับกับหน้าผมก่อนที่จะหัวเราะพรืด

                “ฮ่าๆๆๆ เป่าไปก่อนเด่ะ” มันเหลือบตามองนาฬิกาก่อนที่จะพูดต่อ “อีกห้านาทีก็จบละ”

                “อีกห้านาทีแม่งก็แห้งละไงห่า”

                “เออน่ะ มานั่งเป่าตรงนี้มา” มันตบเบาะข้างๆ ผมจึงนั่งลงอย่างขัดใจ แล้วก็เป่าผมเงียบๆ แต่ไอ้โด้กลับทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอเหมือนจะรำคาญผม?

                “มึงไปเป่าที่อื่นได้มะ” มันหันมาทำสายตาบ้องแบ๊ว “เสียงไดร์มันรบกวนโสตประสาทกูมาก”

                “จิ๊ เป็นคนเรียกกูมานั่งตรงนี้แท้ๆ” แล้วผมก็ต้องถอดปลั๊ก เดินไปนั่งเป่าอยู่ที่มุมหลืบห้อง ปล่อยคุณเจ้าของห้องนั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่บนโซฟาอย่างมีความสุข -_-^

                แล้วไอ้คุณเจ้าของห้องก็หันมามองผมด้วยสายตาสงสารหมาอย่างผม

                “โหหหหห นั่งซะน่าสงสารเลยอ่ะ เป่าให้มันแห้งเร็วๆ แล้วมานั่งนี่” คำพูดเหมือนจะดูดี แต่ก็เหมือนจะแอบสั่งให้มันแห้งไวๆ ผมจึงเร่งความแรงไปเบอร์สามแล้วก็ขยี้ๆๆๆๆๆๆ หัวกบาลตัวเองจนเหนื่อยก็เลยพอ (ยังไม่แห้งเท่าไหร่หรอก)

                “ยัง-ไม่-แห้ง!” เมื่อผมไปนั่งข้างๆ มัน มันก็จับๆ หัวผมแล้วก็ตะโกนลั่น แต่ผมก็นอนลงไปบนตักมันอย่างสบายอารมณ์ 

                “เช็ดที่กางเกงมึงเนี่ยแหละ”

                “บ้า O / / O ลุกเดี๋ยวนี้เลย! ไปเป่าใหม่เลย! อ๊าาาาาา... จบแล้วอ่า T^T” เมื่อเห็นว่าการ์ตูนบ้าบอคอแตกของมันจบ ผมก็หยิบรีโมทมากดปิดโทรทัศน์ทันที
 
                “อยู่แบบนี้ไปซักพักเหอะ” ผมพูดก่อนที่จะหลับตาลง อืม... ไม่เคยนอนตักใครมาก่อนเลยนะเนี่ย

                “นี่...” มันสะกิดผม “จะนอนตรงนี้หรอ”

                “อือ” ผมยืนยันคำเดิมก่อนที่จะตั้งใจหลับจริงๆ ถึงมันจะเมื่อยก็ปล่อยมัน

                ก็ตักไอ้โด้แม่งโคตรสบายเลยนี่หว่า!




ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

                จู่ๆ ผมก็รู้สึกตัวตื่น เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าโทรทัศน์เปิดอยู่ แต่ถูกปิดเสียง พอเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าไอ้โด้ก็เห็นมันกำลังนั่งมองโทรทัศน์อย่างตั้งใจ... แม้จะไม่ได้ยินเสียงก็เถอะ

                “ปิดเสียงไมวะ” ผมพูดขึ้น

                “โอ้ ตื่นแล้วหรอ ดีเลย ขาสองข้างกูตอนนี้ไร้ความรู้สึกไปละ” มันยังไม่ได้ตอบคำถามผม!

                “ตอบคำถามกู”

                “อ้อ! ก็... เห็นมึงหลับ กูขยับไปไหนไม่ได้นอกจากจับรีโมท เลยดูโทรทัศน์ไง” มันก็ยังไม่ได้ตอบคำถามผมอยู่ดีอ่ะ!
                “...”
                “อ้อออ! ปิดเสียงทำไมใช่มะ... ก็... แฮะๆ ^^; เดี๋ยวมึงตื่นไง (_ / / _) ลุกเลย! จะไปนอนละ” พอผมลุกขึ้นมานั่ง มันก็รีบนวดขาตัวเอง ก่อนที่จะปิดโทรทัศน์แล้วเดินไปที่ห้องนอน ผมได้แต่มองตามหลังมันไปแล้วถอนหายใจเงียบๆ

                แบบนี้แหละดีแล้ว... ไม่ต้องไปไขว่คว้าหาอะไรอีก...
                เพราะคนตรงนี้... ไม่หวือหวา ไม่รีบร้อน ไม่เฉื่อยชา

                สมดุล



รุ่งเช้า

                ฟุดฟิดๆ
                หอมกลิ่นไข่ดาว

                ผมลุกขึ้นจากเตียงอย่างงัวเงีย เดินไปแปรงฟันนิดหน่อย (แหงล่ะ เดี๋ยวคุยกับมันแล้วมันเหม็นขี้ฟันผมขึ้นมาอายตายเลย) ก่อนที่จะเดินไปที่ครัวอย่างอารมณ์ดี

                “ทำอะไรอยู่จ๊ะ” ผมทักขึ้น

                “เย็บผ้า” กวนส้นตีนกูได้อีกนะ -O-

                “ก็ตอบเด่ะว่าทอดไข่ดาวอ่ะ!

                “ก็เห็นว่ากูทอดไข่ดาวแล้วจะถามทำไมวะ!” เออ... กูผิด (._.)

                “ให้กูทำอะไรมั้ย” ผมมองหาอุปกรณ์ช่วยทำ แต่ก็เห็นจานอาหารที่มีฝาปิดอยู่เต็มโต๊ะ

                “อยู่เฉยๆ เลยมึง เหลือไข่มึงฟองเดียวก็เสร็จละ” โด้รู้ดีว่าผมชอบกินไข่ดาวแบบไข่แดงไม่สุกมากแค่ไหน ถ้ามันมีโอกาสทำอาหารให้ผม ก็จะต้องมีไข่ดาวแบบไข่แดงไม่สุกทุกครั้ง ผมจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้แล้วจัดการเปิดฝาทั้งหมด 

                อ่ะหูวววววววว! นี่มันอะไรวะเนี่ยยยยยย
                มหกรรมอาหารอเมริกันเร้อออออออ

                “อย่าตกใจ กูแค่เห็นว่านานๆ มึงจะมานอนที่นี่ ก็เลยทำมื้อเช้าดีๆ หน่อย” มันพูดขึ้นก่อนที่จะเดินถือกระทะมาแล้วเอาไข่ดาววางลงในจาน แหม่... เห็นผัวกลับมาบ้านที เมียหลวงรีบทำกับข้าวเอาใจใหญ่เลยแฮะ กร๊ากๆๆ (คิดไปเอง T^T)

                “งั้นมึงคงต้องทำชุดใหญ่แบบนี้ทุกวันแล้วล่ะ”
                “...”
                “เพราะต่อไปนี้กูจะมานอนที่นี่ทุกวัน” ผมพยายามมองแต่อาหาร ไม่มองหน้ามัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้คงกำลังยืนตาเหลือกอยู่ ฮ่าๆๆ

                “ทำไมอ่ะ O[]O!!” นั่นไง ตาเหลือกจริงๆ ด้วย -_-; มันถลาเข้ามานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วจ้องหน้าผมเอาคำตอบ

                “ก็... ผัวเลิกกับเมียน้อยแล้วล่ะจ้ะเมียหลวงจ๋า ฮ่าๆๆ” ผมพูดติดตลก

                “เมียหลวงพ่อง! แล้วคิดยังไงถึงเลิกกับแทมินได้ล่ะ?” มันถาม แหมแม่คุณ... บอกว่าไม่ใช่เมียหลวง แต่พอพูดถึงเมียน้อยก็เปลี่ยนเป็นชื่อแทมินได้เร็วมาก 555555

                “ไม่รู้เด่ะ แม่งน่าเบื่อ แต่ว่านะ...” ผมหยุดไปซักพักก่อนที่จะสบตากับมัน “กูอยากอยู่กับมึงมากกว่า”

                “กวนตีนละ ทำมาเป็นซึ้ง มึงไม่ต้องแดกไข่ดาวละ เอามานี่กูแดกเอง” แล้วมันก็เจาะไข่แดงก่อนที่จะใช้ช้อนตักเข้าปากคำเดียวจบ โอ้วจอร์จจจ! แม่ไข่ดาวมีเดียมแรร์ของฉันนนนน!

                “ไอ้โด้! มึงทำร้ายจิตใจกู T^T” 

                “มึงแดกให้หมดทั้งโต๊ะนะ ถ้ามึงแดกไม่หมดพรุ่งนี้กูจะต้มไข่ให้มึงแดกแค่ฟองเดียว” มันขู่ ผมมองไปรอบโต๊ะ มีไส้กรอกเยอรมัน, ไก่ทอดกรอบ, สลัดและครัวซองท์อย่างละหกชิ้น -O-!! ถ้ากูแดกไม่หมดกูก็จะแอบเอาไปแดกตอนกลางวันกับตอนเย็นต่ออ่ะเอาดิ

                “แหมโด้ มึงก็ช่วยๆ กูแดกสิ”

                “กูกินเสร็จแล้ว นี่กินเหลือไว้ให้นะเนี่ย!” มันทำหน้าภาคภูมิใจ กูว่ามึงแดกไปแค่อย่างละชิ้นชิมิ?

                “ฮ่าๆๆๆ จ้าๆ เดี๋ยวจะแดกให้เรียบเบยยยยย”

                “ไค...” มันเปลี่ยนเป็นเสียงจริงจัง ก่อนที่จะมองผม
                “...”
                “กูดีใจมากเลยนะที่มึงเลิกกับมันน่ะ”

                “หึ ต่อจากนี้ฝากตัวด้วยนะครับ ^^

**********

                จ้อกแจ้ก... จ้อกแจ้ก

                โอยยยยยย~ รุ่นพี่ปีสี่เรียกรวมอีกแล้วคร้าบบบบ~ (พึ่งเรียกเป็นครั้งแรกแต่บ่นไว้ก่อน) ตอนนี้ปีหนึ่งทุกคนเลยมารวมตัวกัน โดยที่พวกพี่ก็ยืนต้องหน้าเราเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่าง

                “แบค มึงว่าพี่เค้าจะทำอะไรเราวะ” ไอ้ไคหันมาถามผม

                “เค้าอาจจะตามหานายแบบก็ได้นะเว่ยยยย” ผมตอบกลับไป ชานยอลหัวเราะคิกคัก งานนี้พี่เสี่ยวลู่หานของเราดูเหมือนจะเป็นแม่งาน เพราะพี่เค้าไปยืนอยู่ตรงกลางแล้วก็ดูเหมือนจะมีอำนาจสุดๆ ไปเลย!

                “น้องคะ...” มีพี่ผู้หญิงกลุ่มใหญ่เดินมาสะกิดชานยอล “น้องออกไปด้านหน้าได้มั้ยอ่ะ”

                ห้ะ! ชานยอลเป็นผู้ถูกเลือก O_O!

                “ก็ได้ครับๆ” ชานยอลตอบก่อนที่จะลุกไป ทุกคนต่างมองมันอย่างแปลกใจ เมื่อพี่เสี่ยวลู่เห็นหน้าชานยอลก็ยิ้มออกมา ก่อนที่จะพยักหน้าหงึกหงัก

                “น้องๆ ครับ พี่ชื่อเสี่ยวลู่หานนะ พี่เป็นผู้กำกับงานละครครั้งนี้” พี่ลู่หานประกาศไมค์ “โดยเราจะเล่นละครเวทีเรื่อง Boys over flowers พวกพี่ก็อยากเล่นเองนะ แต่มันถึงจุดอิ่มตัวของแล้ว พวกพี่ก็เลยคิดว่าอยากให้น้องๆ ส่วนหนึ่งได้เล่น”

                “แล้วผมจะเล่นเป็นอะไรล่ะครับ =O=” ชานยอลถามงงๆ พี่ลู่หานจึงมองไปที่พวกพี่ผู้หญิงที่มาเลือกชานยอล พวกนางบอกพี่ลู่หานจนพี่เขาถึงกับหัวเราะออกมา

                “ฮ่าๆๆๆๆ ชานยอลก็เป็นกูจุนพโยไง ฮ่าๆๆๆ” 

                เฮ้ยยยยยยย! หน้าอย่างไอ้เอ๋อจะเป็นกูจุนพโยเรอะ!

                “หัวมึงก็หยิกดีนะชานยอล เออ เข้ากับบทดี” พี่ลู่หานพูดปลอบใจ แต่ไอ้ชานยอลตอนนี้ตัวแข็งทื่อไปแล้ว 555555 มันเคยบอกผมว่ามาเรียนนิเทศเพราะอยากเป็นเบื้องหลัง ไม่ได้อยากมาเป็นเบื้องหน้าแบบนี้ ! 555555

                จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมากระซิบพี่ลู่หานแล้วชี้มาแถวพวกเรา พี่ลู่หานทำหน้าเซ็งไปในทันที ก่อนที่จะประกาศใส่ไมค์แบบเครียดๆ

                “โอเซฮุน จะเล่นเป็นยุนจีฮูมั้ย -*- พระรองน่ะ” เมื่อพี่เค้าประกาศเสร็จ ไอ้ชานมไข่มุกก็ยิ้มปากฉีกแล้วก็วิ่งออกไปด้านหน้าเลย!           

                สรุปก็คือ...
                ผม, ไค, โด้ ต้องเป็นแค่ทีมงานลูกกระจ๊อกเท่านั้นแหละ

                ส่วนไอ้ชานยอลกับไอ้เซฮุนก็กลายเป็นคุณชายขึ้นมาทันใด!

                หลังจากนั้น ชานยอลกับเซฮุนก็ไปรับบทพูดกับรุ่นพี่ทันที ส่วนพวกเราก็ต้องเริ่มตอกตะปู T^T ไอ้ไคช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ ทำตัวแม๊นแมน ถือไม้เดินไปเดินมา พอโด้จะตอกตะปูก็ไม่ให้ตอกอีก! บอกว่าเดี๋ยวโด้มือเจ็บ แล้วกูล่ะไอ้ห่าไค!

                “ไม่เอาอ่ะ กูจะตอกเอง มึงดูไอ้แบคดิ๊ งอนใหญ่ละน่ะ” ไอ้โด้บอกปัดไค แต่ไคก็ยังดื้อดึง

                “ไม่ได้! มึงไปนั่งเฉยๆ เลย ส่วนมึงไอ้หมาแบค! มึงจะงอนทำไม ก็ผัวมึงมันไปเป็นพระเอกเองนี่หว่า ช่วยไม่ได้” 

                “แล้วไม่ทราบว่ามึงเป็นผัวไอ้โด้หรือครับถึงได้ดูแลประคบประหงมซะ...” ผมเบ้ปาก 

                “เออ ผัวมัน ไอ้โด้ มึงเดินไปซื้อน้ำให้พวกกูหน่อย เอานี่เงิน...” ไอ้ไคหยิบกระเป๋าตังค์ให้โด้ “มึงแดกอะไรกูก็แดกแบบนั้นแหละ ส่วนไอ้แบคก็เอาแบบกู”

                “เอิ่ม... กูยังไม่อยากแดกอะไรอ่ะ” ไอ้โด้ตอบ

                “จิ๊! ถ้างั้นเอาน้ำแดงโซดาสองแก้ว” เมื่อสั่งไอ้โด้เสร็จ ก็หันมาพูดกับผม “กูเลี้ยงมึงละ พอใจยัง”

                “พอใจแล้วจ้ะจงอิน ^O^” ว่าแล้วผมก็มีกำลังใจตอกตะปูขึ้นมาอีกเยอะ

                “แบคฮยอนครับ” จู่ๆ ก็มีคนมาสะกิดผมจากด้านหลัง ไอ้ชานยอลนั่นเอง!

                “มีไรอีกล่ะกูจุนพโยอปป้า 555555” ผมหันไปตอบ

                “ไม่เอาอ่ะ แบคฮยอนอย่าเรียกผมแบบนี้สิครับ ผมไม่อยากเป็นกูจุนพโยเลยจริงๆ นะ แล้วทำไมแบคฮยอนต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ ดูสิ เหงื่อออกหมดแล้ว” พูดจบก็เอาทิชชู่มาซับหน้าผมด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยสุดๆ จนไอ้ไคต้องแกล้งทำหน้าอ้วกแตกออกมา

                “เอิ่ม - / / - กูไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นเหวย” ผมจับมือมันเพื่อให้หยุดซับ ก่อนที่จะตั้งใจตอกตะปูต่อ

                “แบคฮยอนครับ” มันจับมือผมที่กำลังตอกตะปูไว้
                “ไรอีกล่ะ”

                “แบคฮยอนท่องบทให้ฟังหน่อย ผมไม่ชอบอ่านเอง” มันยื่นบทมาให้ผม

                “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวตอกตะปูไม่เสร็จพี่เค้าจะด่าเอา”

                “เดี๋ยวผมตอกเอง” มันว่าแล้วก็คว้าค้อนกับกล่องใส่ตะปูไปหน้าตาเฉย 

                “เอ่อ... ให้กูอ่านบทให้ฟังหรอ” ผมเกาหัวงงๆ ก่อนที่จะเปิดบท

                “ครับ อ่านบทละสองรอบนะ ^_^” มันพูดเสร็จก็เริ่มตอกตะปูขยันขันแข็ง ผมรู้ว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองมากไป มันคงจะ... ไม่อยากให้ผมตอกตะปู?

                “แฮ่ม! จะอ่านล่ะนะ...” ผมเงียบไปเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มท่องบทให้ฟัง “ฉากหนึ่ง ม่านเปิด กูจุนพโยพร้อมเพื่อนสามคนนั่งอยู่บนโซฟา กูจุนพโยทำหน้าขรึม...”

                “ขอโทษนะคะ” จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งพูดแทรกขึ้น เธอมองหน้าผมอ “คือว่า เรารับบทเป็นนางเอกน่ะ ขอเราซ้อมบทกับชานยอลได้มั้ยอ่ะ”

                “อ้อ ได้สิ ^^” ผมลุกให้เธอคนนั้นนั่งลงแทนผม ชานยอลหันมามองด้วยสีหน้าเคืองนิดๆ แต่ก็ยังตอกตะปูต่อไป

                “ชานยอลอ่า บทอยู่ไหนล่ะ แล้วทำไมมาตอกตะปูแบบนี้” ผู้หญิงคนนั้นจับแขนไอ้ชานยอล แต่ชานยอลก็ค่อยๆ แกะอย่างสุภาพ

                “บทอยู่กับแฟนเราน่ะ” มันพูดแล้วพยักเพยิดมาทางผม เหี้ยยยย! มึงพูดอะไรออกปายยยย T^T

                “ฮะ!? คนนี้แฟนชานยอลหรอ” นางมองมาที่ผมด้วยสีหน้าตกใจสุดๆ

                “ไม่ใช่ๆๆ ฮ่าๆๆ ชานยอลมันแค่หลอกเล่นน่ะ อ่ะนี่บท มึงก็รีบไปซ้อมได้ละ ลุกเลย กูจะตอกตะปู” ผมรีบปฏิเสธนางก่อนที่จะดันตัวชานยอลให้ลุก ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆ มันเงียบ ไม่พูดอะไรซักคำ

                “จะซ้อมมั้ยครับ” มันมองหน้านางก่อนที่จะถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นางดูหวาดกลัวไปนิดๆ ก่อนที่จะตอบโอเคแล้วลุกตามชานยอลไป โดยที่ชานยอลก็ไม่ได้หันมามองหน้าผมเลย

                “เอาแหล่ววววววว~ ผัวของขึ้นค่ะ” ไอ้ไคตอกไปก็แซวไป

                “ฮะ -O-!!? มันของขึ้นหรอ?” ผมถาม ก็คนมันงงนี่หว่า -*- 

                “แหม่คุณนายปาร์คครับ มึงไม่เห็นหรอครับว่ามันไม่อยากให้มึงตอกตะปูขนาดไหน คนเหี้ยอะไรจะจำบทพูดได้จากการฟังบทล่ะควาย มันก็แค่อยากให้มึงหยุดตอกแล้วมันจะตอกเอง ก็แค่น๊านนนน~” มันอธิบายให้ผมฟัง เมื่อผมมองตามหลังมันไปก็เห็นมันกำลังยืนซ้อมบทกับผู้หญิงคนนั้นอย่างจริงจัง โดยไม่ได้หันมาทางนี้เลย

                “หรอวะ...” ผมพึมพำออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่โด้เอาน้ำมาให้

                “อ่ะ แดกซะ” มันยื่นน้ำแดงโซดามาให้ผม ผมรับน้ำทั้งๆ ที่ยังมองชานยอลอยู่อย่างนั้น

                “แล้วมันทำไมวะไค ก็มันเป็นหน้าที่ของกูปะที่ต้องมาตอกตะปูอ่ะ แล้วมันก็เป็นหน้าที่ของมันปะที่ต้องไปซ้อมบทอ่ะ ก็ถูกแล้วไม่ใช่ไง๊” ผมถามขึ้นแล้วลงมือตอกตะปูอีกครั้ง

                “ตายล่ะ แรดแบคคะ เค้าโกรธมึงอยู่นี่มึงจะโกรธเค้ากลับหรอคะ” ไอ้ไคถามกวนๆ โด้ผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ได้แต่นั่งมองเอ๋อๆ

                “ก็มันจริงมั้ยล่ะ!” ผมขึ้นเสียง

                ก็มันจริงมั้ยล่าาาาาา!
                กูตั้งใจจะทำหน้าที่ของกูแล้วกูผิดงั้นเหรอออออออออ =[]=!!!?

1 ความคิดเห็น:

  1. ผิดไม่ผิดหนูก็ผิดค่ะแบค~จบนะคะ 555

    ตอบลบ