30
We will make it together.
“เดินดีๆ นะพี่ลู่”
เซฮุนพูดพลางเปิดประตูรถแท็กซี่ให้ ตอนนี้ลู่หานกลับมาอยู่ที่ชองซูอพาร์ตเมนท์แล้วเลยนั่งแท็กซี่ขนของกันมา
แต่ว่าโอเซฮุนกลับทำเหมือนลู่หานเป็นเมียท้องแก่ ค่อยระวังถนนหนทางให้ตลอด -*-
“พี่ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นฮุน”
ลู่หานบ่นก่อนจะยกลังกระดาษหลังรถ แต่เซฮุนก็รีบเข้ามายกแทน
“ไม่ต้องเลย อยู่เฉยๆ
อันนี้ไม่เกี่ยวว่าพี่เจ็บไม่เจ็บ แต่มันเป็นหน้าที่ที่ผมควรทำ” เซฮุนพูด (ทำเป็น)
เสียงเข้ม
ลู่หานเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้จึงไปยืนรออยู่หน้าประตูจนเซฮุนขนของเสร็จและจ่ายตังค์ค่าแท็กซี่เรียบร้อย
ทั้งคู่จึงช่วยกันเอาของใส่ในรถเข็นของทางอพาร์ตเมนท์
“หอมแก้มหน่อยดิ...” จู่ๆ
ไอ้โรคจิตเซฮุนก็มากระซิบข้างหูลู่หาน
“อย่าาาา เดี๋ยวคนเห็น”
“หน่าๆ” เซฮุนพูดจบก็ไม่รอความเห็นใดๆ
เขาหอมแก้มลู่หานเข้าไปเต็มปอด
แชะ!
แชะ! แชะ!
“ฮุน!!
O_O พี่ว่าพี่ได้ยินเสียงแฟลช” ลู่หานพูดไปตามที่ตัวเองได้ยิน
เพราะเมื่อกี้เขาได้ยินเสียงแฟลชรัวกระหน่ำ
พยายามไม่มองไปรอบตัวเพราะเดี๋ยวปาปารัซซี่อาจจะได้ภาพที่เห็นหน้าเขาชัดมากกว่าเดิม
“งั้นรีบไปเหอะ”
เซฮุนเองก็เริ่มเครียดขึ้นมานิดหน่อย
ทั้งคู่ช่วยกันยกของใส่รถเข็นแล้วรีบจ้ำอ้าวเข้าไปในอพาร์ตเมนท์ทันที
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า... วันพรุ่งนี้ต้องพบเจอกับอะไร
**********
ตะดึ๊ง!
ข้อความเข้า จาก อิแรดแบค
‘เหี้ยฮุน! เปิดเน็ตดูข่าวบันเทิงเดี๋ยวนี้!!!
มึงกับพี่ลู่!! เหี้ยเอ๊ยยยยย ไม่ระวังเลยมึง’
“ข่าวเหี้ยอะไรวะ”
เซฮุนสบถออกมาก่อนจะเปิดข่าวบันเทิงในไอโฟนดูทันที
เขากับลู่หานกำลังนั่งกินข้าวเช้ากันงุ้งงิ้งๆ
แต่พอเจอข้อความจากแบคฮยอนแบบนี้ก็ถึงกับหงายเงิบ
‘นักแสดงหน้าใหม่ OSH... พี่ชายหรือเพื่อนชาย!!!!?’
‘นักแสดงชื่อย่อ SH
อาจทำให้สาวๆ ใจสลายได้ เพราะเขาไม่ได้มีพี่ชายแต่มี ผู้ชาย!
อยู่ที่บ้าน!!!’
‘ฉาว!!! นักแสดงดังหน้าใหม่ที่ละครพึ่งจบไปจะเป็น XX หรือไม่!!!!’
“เหี้ยไรวะเนี่ย!!!!!!!” เซฮุนตะโกนลั่นเมื่อเห็นหัวข้อข่าวพร้อมรูปฉากหอมแก้มเมื่อวานที่รู้ว่ามาจากคนถ่ายคนเดียวกันเต็มไปทั่วทุกเว็บ
ลู่หานคว้าไปอ่านบ้างแล้วก็ต้องตกใจตามเซฮุนไปอีกคน
“อะไรกัน...” เขาพึมพำออกมาเบาๆ
“ทำไมใจร้ายกันแบบนี้”
“มันไม่ได้เรียกใจร้ายหรอกพี่ลู่
มันเรียกว่าหากินบนความทุกข์ของคนอื่น! พี่ลู่ไม่ต้องกังวลนะ ยังไงซะในรูปก็เห็นหน้าพี่ลู่ไม่ชัด ผมสัญญาว่าผมจะปกป้องพี่ลู่...”
กริ๊งงงงงงงง!
‘ผู้จัดการชเว’
พูดไม่ทันขาดคำ
โทรศัพท์ของเซฮุนก็ดังขัดขึ้นมา
ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากผู้จัดการที่จัดการเรื่องของเขามาตลอด
แต่ตอนนี้เซฮุนไม่อยากจะรับสายเพราะรู้ว่ารับไปก็โดนด่าอยู่ดี
“รับเถอะ... ถ้ามันด่ามา
พี่จะช่วยด่าให้” ลู่หานพูดเป็นเชิงบังคับให้เซฮุนรับสาย
เซฮุนจึงรับแล้วเปิดเป็นสปีกเกอร์โฟน
(โอเซฮุน!!!!
ไหนบอกว่าเป็นพี่ชายไง!! แล้วทำไมกลายเป็นแบบนี้!
ไอ้แฟนคนนั้นที่คอยทำให้การงานแกเสียหายคือคนๆ นี้ใช่มั้ย!! นี่ตอนนี้พี่อยู่กับท่านประธานนะ เปิดสปีกเกอร์โฟนอยู่ จะเอายังไงก็พูดมา! พี่จะได้ให้แกแถลงข่าวว่าเขาเป็นแค่พี่ชายแต่สกินชิพกันเฉยๆ
เข้าใจที่พี่พูดใช่มั้ยเซฮุน...) ผู้จัดการชเวใส่มาไม่ยั้ง
จนเซฮุนต้องเบ้ปากอย่างขุ่นเคือง
“ก็ดีเหมือนกัน
เพราะผมก็เปิดสปีกเกอร์โฟนอยู่กับพี่ลู่หาน... คนในข่าว”
(โอเซฮุน)
เสียงท่านประธานเข้ามาในสาย (เธอต้องบอกว่าเป็นแค่พี่ชายแล้วสกินชิพกันเฉยๆ นะ
เข้าใจที่ฉันพูดมั้ย)
“ไม่ครับ” เซฮุนปฏิเสธแทบจะทันที
“ผมจะบอกทุกคนว่าพี่ลู่หานเป็นแฟนผมมาได้ปีนึงแล้ว เรารักกันมาก
และถ้าท่านประธานจะขัดขวาง ผมขอร้อง...”
(...)
“ฉีกใบสัญญาระหว่างเราทิ้งเถอะครับ”
เซฮุนยื่นคำขาดจนลู่หานต้องยกมือขึ้นมาป้องปากตัวเอง
(เซฮุน
เธอกำลังจะท้าทายวงการมายานะ เธอยังเด็กนัก
วงการนี้ทำให้ดาราตกอับหลายต่อหลายคนต้องฆ่าตัวตายมาไม่นับไม่ถ้วน...
เธออยากจะเป็นแบบเค้าพวกนั้นใช่มั้ย) เสียงท่านประธานดูนิ่งราวกับน้ำนิ่งไหลลึก
สุขุมแต่ฟังแล้วเจ็บ
“มันไม่จำเป็นว่าผมจะต้องตกอับซะหน่อย
ผมจะเป็นนักแสดงอิสระเองก็ได้! ผมหาผู้จัดการคนใหม่ก็ได้!”
(...)
“แต่สามเดือนที่ผมถูกปิดกั้นไม่ให้เจอกับพี่ลู่หาน
มันทำให้ผมรู้ว่าผมปล่อยพี่เค้าไปไม่ได้อีกแล้ว แม้กระทั่งโกหกว่าเค้าไม่ใช่แฟนผม
ผมก็ไม่อยากทำ” เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กลับไป
“ฮุนนา...”
ลู่หานเอื้อมมือมาจับมือหนาที่กำแน่นด้วยความโกรธ
จนเซฮุนต้องยอมปล่อยมือที่กำแน่นนั้นให้คลายลง
อารมณ์ที่กำลังเดือดดาลถูกระงับไว้ได้เพราะมือเรียวของคนๆ เดียว...
(ผู้จัดการชเว... ฉีก...)
“เดี๋ยว!!” ลู่หานรีบขวางเมื่อได้ยินเสียงท่านประธานสั่งให้ผู้จัดการฉีกใบสัญญา
“ไม่มีเดี๋ยวครับ
ถ้าจะให้ผมบอกว่าพี่ลู่หานเป็นพี่ชายก็ฉีกเลย!!!” เซฮุนตะโกนเข้าไปในโทรศัพท์
(แคว่ก...) เสียงกระดาษถูกฉีกช้าๆ
เหมือนจงใจให้พวกเขาได้ยินชัดๆ เซฮุนหลับตาลง คิ้วขมวดเข้าเป็นปมตามเสียงฉีก
ลู่หานจึงบีบมือเซฮุนเบาๆ
เพื่อผ่อนคลายและแน่นอนว่าคิ้วที่ถูกผูกเป็นปมอยู่ก็คลายลงอัตโนมัติ
“ขอบคุณครับ... อ้าว!
วางไปแล้วอีก!!”
เซฮุนหันไปขอบคุณก่อนจะพบว่าฝ่ายนั้นวางสายไปแล้วโดยไม่ได้กล่าวลาอะไรซักคำ
“ฉีกสัญญานี่ไม่เคืองเลยนะ เคืองตรงวางโทรศัพท์ไม่บอกกูเนี่ยแหละห่าเอ๊ย =___=”
แล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความเงียบ
“ฮุน...”
“หืม?”
“พี่จะเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ฮุนเอง”
ลู่หานพูดพลางมองตาเซฮุนอย่างจริงจังจนเซฮุนตกใจกับคำพูดนั้น
“พี่ลู่!
ไหนบอกว่าจะเป็นผู้กำกับไง
เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่เป็นผู้จัดการไม่ใช่หรอ”
“ไหนๆ
มันก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว... พี่ไม่ยอมให้เซฮุนต้องพายเรือคนเดียวหรอกนะ ฮ่าๆๆ
พี่จะช่วยพาย” ลู่หานเล่นสำนวนเปรียบเทียบซะเกือบงง แต่สุดท้ายก็เข้าใจ
“ฮ่าๆๆ แล้วฝันล่ะ...
ฝันที่พี่ลู่จะเป็นผู้กำกับ พี่จะทิ้งมันง่ายๆ เลยหรอ...”
เซฮุนบีบมือคนตรงหน้าเบาๆ ลู่หานส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะยิ้มให้
“พี่ยอมทิ้งฝันส่วนตัว
มาสานฝันส่วนรวมดีกว่า ^___^”
ลู่หานพูดพลางบีบมือกลับ “เราต้องช่วยกันนะ อยู่ด้วยกันแล้ว
เดินหนทางเดียวกันแล้ว... ต้องสู้ต่อไป! เข้าใจมั้ยจ๊ะ?”
“เข้าใจครับ แต่...”
“...”
“แต่ฮุนเป็นคนทำให้ภาพหลุดออกไป...
เพราะฮุนหอมแก้มพี่ลู่โจ่งแจ้ง ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ ทำให้พี่ลู่ไม่ได้สานฝันต่อ”
“ดีแล้วที่รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ!
เพราะฉะนั้น...
ก็รับผิดชอบฝันพี่ด้วยการให้พี่เป็นผู้จัดการส่วนตัวฮุน แล้วก็เดินหน้าไปด้วยกัน
โอเคมั้ย?”
“ครับ...” เซฮุนตอบคอตก
เขารู้สึกผิดมากจริงๆ
แต่ลู่หานก็ดูไม่สะทกสะท้านกับเรื่องนี้เพราะเขาก็เต็มใจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เซฮุนอยู่แล้ว
ลู่หานหยิบไอโฟนตัวเองขึ้นมาก่อนจะเข้าไปเช็คข่าวสารในแฟนเพจโอเซฮุน
“ฮุน... พี่ว่าเราวินนะงานนี้”
“ทำไมอ่ะ?”
“แฟนคลับทุกคนเห็นด้วย ชอบมาก
แถมยังโพสต์รูปพี่อีก TOT บอกว่าน่ารักดี
สมกันเหมือนคู่แท้กลับชาติมาเกิด ฮ่าๆๆ” ลู่หานพูดพลางยื่นไอโฟนให้ดู
ก่อนที่รอยยิ้มของคนทั้งคู่จะผุดพรายขึ้นบนใบหน้า...
อืม!
อย่างน้อยเราก็มีแฟนคลับเนี่ยแหละที่คอยเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป >O<!!
**********
“คุณชายแบคฮยอนมานอนค้างหรอคะ ^^” ป้ามุนอาทักขึ้นขณะที่ผมกำลังก้าวเข้าไปในตัวบ้าน
เดี๋ยวนี้แม่ผมชอบแกล้งหนีออกจากบ้านแบบจู่ๆ
ก็หายไปเลยโดยขโมยกุญแจบ้านของผมไปด้วย แถมยังมีกระดาษแปะไว้หน้าบ้านว่า...
ถึง บุรุษไปรษณีย์:
โยนจดหมายหรือพัสดุเข้าไปในรั้วเลยค่ะ
ถึง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน:
แม่เอากุญแจบ้านไปด้วย ไปนอนกับชานยอลนะคะลูก ปุอิ๊งๆ
ผมเลยระหกระเหินมานอนกับชานยอลอยู่บ่อยๆ
วันนี้ก็เช่นกัน...
“ป้ามุนอาครับ
สั่งห้ามไม่ให้ใครผ่านบ่อน้ำพุร้อนเลยนะ ผมจะใช้” ชานยอลหันไปสั่งกับป้ามุนอา แต่ป้าก็ดูงงๆ
เพราะที่ผ่านมาจะใช้ยังไงก็ไม่เห็นจำเป็นต้องสั่งห้ามไม่ให้ใครผ่าน
“ค่ะ แล้ว...
จะอนุญาตเมื่อไหร่คะ”
“เมื่อเห็นผมเดินไปที่ห้องนอนครับ”
ชานยอลตอบก่อนจะจูงผมให้เดินเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อน
ผมถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือบ๊อกเซอร์ตัวเดียวเหมือนครั้งที่แล้ว และชานยอลก็เช่นกัน
เราเดินลงไปในบ่อพร้อมๆ
กันก่อนที่ผมจะเอาหัวพิงกับขอบบ่อแล้วหลับตาพริ้ม...
สบายจังเลยยยยยย~
แต่จู่ๆ!!!
ชานยอลก็เขยิบเข้ามานั่งซะติดชิดอย่างกับกลัวผมจะหายตัวไป
“อ... อะไร O_O!!?” ผมหันไปถามด้วยความตกใจ แต่ชานยอลก็เอาแขนซ้ายเข้ามาโอบไหล่ผมแล้วดึงให้ผมไปติดกับแผงอกมัน
TOT ฮรืออ เขินนนนน
“หน้าแบคแดงมากใช่ป่าว - / / / -”
ผมหันไปถามก่อนจะเอามือลูบหน้าตัวเอง
“ใช่ น่ารัก”
ชานยอลหยิกจมูกผมเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่เราสองคนจะเงียบ...
อืม... ให้มันแก้ตัวดีมั้ยนะ...
หลังจากที่วันนั้นมึงทำกระดูกสันหลังกูแตกร้าว
-_-;
มึงควรจะรับผิดชอบกูด้วยการทำใหม่ใช่มั้ย คริคริ
“นี่...”
แรดตัวไหนจากทุ่งแอฟริกาก็ไม่รู้สิงผม นิ้วเล็กๆ
ของผมไต่ไปตามตัวชานยอลเหมือนปูไต่ “ไม่คิดจะทำอะไรหน่อยหรอ”
“ทำอะไร O_O” มันสลัดผมทิ้งแทบจะทันที -_-;
“ไม่คิดจะแก้ตัวเลยหรอ
ที่เคยทำกับแบคไว้อย่างนั้นอ่ะ” โอยอีเหี้ย =O= แรดมากๆ กูว่าแรดไม่ได้มาแค่ตัวเดียว แม่งมาทั้งฝูงอ่ะ
“ค... คือ...”
ชานยอลเริ่มพูดตะกุกตะกัก “ช... ชานกลัวแบคเจ็บ”
“โอยยยยยย” ผมตีน้ำในบ่อเซ็งๆ
“เจ็บเจิบอะไรก็ช่างมันละ ตอนนั้นแบคเจ็บเพราะแบคไม่เต็มใจต่างหาก แต่ตอนนี้แบคเต็มใจนะ
>O<”
“ตรงนี้เลยมะ” จู่ๆ มันก็ถามครับ TOT
“ต... ตรงนี้เลยหรอ”
กลายเป็นกูที่ตะกุกตะกักและเริ่มเขิน ก็ตรงนี้มันบ่อน้ำพุร้อนนี่หว่า!!!
“ตรงนี้เลยเหอะ”
ชานยอลหันมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่พวกเราก็แอบเอ๋อไปซักพักเพราะไม่รู้จะทำกันอีท่าไหน
(ประโยคนี้เป๊ะกับสถานกาณ์มากจริงๆ T^T)
“เอาไงอ่ะ”
ผมหันไปถามก่อนจะเกาหัวงงๆ
“ปล่อยให้มันเป็นไปแล้วกัน ^^” ชานยอลส่งยิ้มละมุนมาให้ก่อนที่ผมจะพยักหน้าตอบ
เอาวะ!!
เป็นไงเป็นกัน!!
จะตายคาบ่อน้ำพุร้อนกูก็ยอม
>O<!!!!
ชานยอลลุกจากบ่อน้ำพุร้อนไปหยิบผ้าขนหนูมาสองผืนแถมยังมีเจลหล่อลื่นเวอร์ชั่นผสมซิลิโคนอีกต่างหาก
(คือถ้ามันผสมน้ำ มันก็จะละลายอ่ะนะ) มันจะทำอะไรแปลกๆ พิเรนทร์ๆ รึเปล่า TOT
แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรพิเรนทร์อย่างที่คิด
มันจัดให้ผมนั่งพิงขอบบ่อ ผ้าขนหนูสองผืนนั้นก็เอามารองหลังผม ฮรือ เขิลลลลล - / /
/ / / - เป็นห่วงแม้กระทั้งเรื่องเล็กๆ อิจฉากูล่ะสิพวกมึงอ่ะ555555555
“มันมาถึงขั้นนี้แล้วไม่เห็นต้องเอาผ้ามารองเลย”
ผมพูดออกมา
“เถอะน่า
ไม่อยากให้แบคเจ็บตัวแม้แต่นิดเดียว...” เสียงที่พูดเหมือนเสียงกระซิบหวานหู
โอโม่ะ~ แม่ครับ ขอบคุณที่แกล้งหนีออกจากบ้าน
แบคจะเป็นเคะอย่างเต็มภาคภูมิแล้วนะครับคุณแม่ ~O~
“ไม่เจ็บหรอก
แบคเต็มใจทั้งทีจะเจ็บได้ยังไง” ผมตีไหล่มันเบาๆ ก่อนจะเอาแขนโอบรอบคอชานยอล
ยิ้มกว้างเต็มที่จนรอยบุ๋มที่ใต้ตาออกมา ชานยอลจึงจูบเบาๆ
ที่รอยบุ๋มนั้นก่อนจะเลื่อนปากมาที่ปากผม
เราจูบแช่กันไว้อย่างนั้น
แน่นิ่งแต่ก็ทำให้หัวใจวูบวาบ
มันใช้ลิ้นแทรกเข้ามาในโพรงปากก่อนจะส่งลิ้นมาทักทายผม
ลิ้นของเราทั้งสองไม่รีบร้อน แต่ก็ไม่เชื่องช้า
เกี่ยวพันกันไปมาเหมือนปลากัดตอนกำลังจะได้กัน (?) มือหนาลงไปใต้น้ำ
ถอดบ๊อกเซอร์ของผมออกช้าๆ แล้วก็ถอดบ๊อกเซอร์ของตัวเองออกเหมือนกัน
เหรี้ยยยยยยย กูไม่อยากจะลืมตา
กูเขิน
> / / / / <
แต่เอาเถ๊อะ กูลืมตาก็ได้
พวกมึงจะได้รู้ว่ากูเห็นอะไรบ้าง 555555
คือพวกมึงลองนึกชานยอลตอนที่ผมเปียกๆ
แล้วเปิดเถิกดิ กูรู้พวกมึงเขิน กร๊ากๆ แต่ถ้ามึงเป็นกูมึงเขินไม่ออกหรอก
เพราะหูมันกางออกมา5555555555 เอาเป็นว่ากูไม่มีรูปแนบให้ดูนะ
เพราะตอนนี้กูไม่ว่าง!
“ชานยอลอ่า...”
เมื่อปากของผมเป็นอิสระ ผมก็เรียกชื่อคนตรงหน้าออกมา
เงยหน้าขึ้นเพื่อให้ชานยอลได้ทำอะไรกับคอของผมให้เต็มที่ ทั้งถูกหอม ถูกจูบ ถูกดูด
โอ๊ย ระทวยมากบอกตรงๆ
“แบค...” ชานยอลตอบกลับมาแต่กูก็ไม่รู้ว่าพี่แกพูดทางหูหรือยังไง
เพราะปากก็ยังไม่หยุดดูดคอผมซักที นี่พี่เป็นแดร๊กคิวล่าใช่มั้ยครับ
พี่ดูดเลือดผมให้หมดตัวเลยครับ ผมยอม ~O~
ชานยอลจับให้ผมขึ้นไปนั่งบนขอบบ่อ
ก่อนที่ตัวเองจะระดมจูบท่อนบนผมไม่หยุด
ผมก้มมองลงมาก็เห็นว่าตอนนี้ผมตัวแดงไปหมดแล้ว
ไม่ใช่เพราะเขินจนเลือดลงตัวนะเข้าใจมั้ย แต่มันเป็นเพราะชานยอลทำไว้อ่ะนะ หึหึ
มันจับให้ผมอ้าขาออก
ก่อนที่จะมุดหัวลงต่ำ ค่อยๆ บรรจงเลียแก่นกายของผมจนสยิวขึ้นสมอง
ลิ้นหนาดูดดุนส่วนหัว ก่อนจะโลมเลียมาถึงส่วนปลาย โอ้แม่เจ้า!
รู้งี้กูยอมเป็นเมียมันตั้งนานละสรึดดด
“ชานยอล... อึก...”
ผมครางออกมาก่อนจะจับกลุ่มผมของชานยอลไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว
แต่ชานยอลก็ผละออกมาโดยที่ผมยังไม่เสร็จเบย T^T จัดการทาเจลหล่อลื่นให้ผมตรงช่องทางรัก
ก่อนจะอุ้มผมให้ลงมานั่งที่เดิม แล้วจับขาสองข้างของผมไว้
“เกี่ยวเอวชานไว้นะ”
“หา O_O!?
นี่ชานจะเล่นท่ายากใช่ไหมมมม?”
ผมรีบร้องถามขณะที่ขาสองข้างเกี่ยวเอวมันเรียบร้อยแล้ว
“มันยากตั้งแต่จะเอากันในบ่อแล้วไงแบค
ฮ่าๆๆ” ชานยอลหัวเราะก่อนจะปาดเหงื่อ อืม กูเริ่มสงสารผัว
กูขอโทษที่รีเควสผิดที่ผิดทาง T^T
“เอาล่ะนะ
ชานรับรองว่าท่านี้ไม่เจ็บ สะดวกขึ้นด้วย”
ชานยอลรีบพูดให้กำลังใจเพราะผมเริ่มหน้าเสีย
“แล้วแขนเอาไว้ไหน?” ผมถาม
“โอบคอไว้”
ชานยอลรีบตอบ
พวกมึง...
กูว่าพวกกูจะไม่มีอารมณ์ทำอะไรต่อแล้วล่ะ5555555
กว่าจะจัดท่าจัดทางให้เข้าที่
แต่!!
พวกมึงอย่าพึ่งดูถูกพวกกูแบบนั้น!
ยังไงซะผัวกูก็มีดีนะคะ มันจะเอาก็ต้องปล่อยให้มันเอาต่อ
=___=
ชานยอลเริ่มปฏิบัติการท่ายาก
โดยการต้านแรงดันน้ำ (?) แล้วเอาแกนกายสุดจะบิ๊กบึ้มเข้ามาในช่องทางรักของผมช้าๆ
“เออว่ะ ไม่เจ็บ”
ผมรีบพูดก่อนจะยิ้มให้ชานยอลซึ่งตอนนี้หน้ามืดตามัว จะเอากูอย่างเดียว -_-;
พวกมึงว่า... กูเป็นตัวทำให้อารมณ์ทางเพศหดปะวะ555555555
ช่างเฮอะ
เหมือนการมีอะไรกันในน้ำจะทำให้ยากขึ้น
ไหนจะทั้งท่า ไหนจะความฝืดเคือง แต่พวกมึงไม่ต้องมาเป็นห่วงชีวิตกู
เพราะผัวกูได้ทำการจัดท่าและทาเจลหล่อลื่นให้เรียบร้อย กร๊ากกกกกกกกก
“อ๊ะ...”
ผมหลุดครางออกมาเมื่อแก่นกายของชานยอลดันเข้ามาจนเกือบสุดแล้วค่อยๆ ซอยถี่ขึ้นๆ
จนผมเริ่มปรับตัวได้ มันไม่ได้เจ็บอย่างที่คิดเลยนี่นา *เสียงแอ๊บ ตอแหล*
“ช... ชาน”
ผมเรียกชื่อคนตรงหน้าออกมา “อ... อ๊ะ... ชาน อึก...”
ผมเข้าใจแล้วว่าท่ายิ่งยากยิ่งมันส์5555555555555
“หืม” ชานยอลพูดออกมา แต่พวกมึงเข้าใจกูใช่ปะ
เวลาผู้ชายทำเสียงต่ำๆ แล้วพูดว่า ‘หืม’ อ่ะ แม่งโคตรจะสยิวกิ้วอ่ะ~
“ล... ลึกอีกนิดนะ”
“ได้ครับ”
เมื่อได้รับคำสั่งก็จัดการกระแทกเข้ามามิดด้ามจนกระดูกสันหลังกูจะร้าวอีกรอบ -_-;
แต่ความรักและความละมุน (เขินจัง) ก็เหมือนเป็นกาวมาช่วยต่อให้กระดูกสันหลังกูไม่ร้าว!
(เหยดดดดดด พูดดีๆ)
“อ่ะ... อ่ะ... ช... ชานยอลอ่า”
ยิ่งโดนกระแทกเข้าไปตามจุดกระสันก็ยิ่งเสียวซ่าน ชานยอลเวลาเหงื่อออกนิดๆ
นี่เท่ชิบหายตายโหง
ผมหลับตาปี๋ก่อนจะกระตุกเกร็งและปล่อยน้ำรักออกมาให้ไหลไปตามสายน้ำ
ชานยอลเองก็เช่นกัน มันรีบเอาแก่นกายตัวเองออกจากร่างกายผม
เอาขาผมที่เกี่ยวเอวมันไว้ออกด้วย ก่อนจะไปฟุบหอบเหนื่อยที่ขอบบ่อ
“แฮ่ก เหนื่อย... โอยยยย เมื่อยด้วย” ชานยอลบ่นพึมพำ
ผมจึงค่อยๆ เคลื่อนตัวไปหาชานยอลก่อนจะจูบที่ขมับมันเบาๆ
“เมื่อยมากมั้ย เดี๋ยวแบคนวดขาให้...”
“ไปนวดต่อที่ห้องดีกว่า”
ชานยอลยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นจากน้ำ
ผมจึงลุกตามและเราทั้งสองคนก็เดินไปใส่ผ้าคลุมอาบน้ำ ขณะที่เราเดินออกมา
สาวใช้ที่ยืนอยู่ไกลลิบๆ ก็ยิ้มแล้วตะโกนถาม
“คุณชายคะ!
ดิฉันเข้าใกล้บ่อน้ำพุร้อนได้แล้วใช่มั้ยคะ!!”
“ครับ!!” ชานยอลตะโกนตอบกลับไป ก่อนจะโอบเอวผมไว้
แล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะช่วยกันเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน
ผมหยิบชุดนอนชานยอลมาใส่ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่
“ฮ้าาา~ สบายจังเลยยยยย”
“เจ็บมั้ย”
ชานยอลล้มตัวลงนอนข้างๆ ก่อนจะถามผม
“นิดนึง แต่เจ็บแบบมีความสุขนะ >O<” ผมหันไปตอบก่อนที่จะอ้าแขนสองข้าง “จะกอดหมีๆ”
“หมีมาให้กอดแล้วคร้าบ”
ชานยอลอ้าแขนมากอดผมตอบ ก่อนที่ผมจะซุกหน้าลงไปบนหน้าอก
“แบค ความจริงแล้ว...”
ชานยอลพูดขึ้น “ความจริงชานก็กะจะแก้ตัวในบ่อน้ำพุร้อนนั่นแหละ แต่ตอนแรกก็เขิน
ไม่กล้าพูด จู่ๆ แบคก็มาชวนเฉยเลย ชานก็เลยรีบโอเค ฮ่าๆ” ชานยอลพูดไปก็เกาหัวไป
ผมจึงเงยหน้าขึ้นไปมองหน้ามันเคืองๆ
“นี่ถ้าไม่พูด แบคแรดเลยนะเนี่ย”
“แรดนานแล้วแบคอ่ะ -_-;”
“ย๊าาาา
เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งใช่มั้ยยยยย!” ผมร้องโวยวายเพราะโดนผัวด่าว่าแรด55555555
“เออจะว่าไป...” แล้วมันก็เปลี่ยนเรื่องทันที
-O- “เมื่อไหร่เราจะไปเกาะเชจูกันซักทีอ่ะ”
“นั่นดิ -*- ไว้ไปว่างๆ แล้วกันนะ
>___<”
“เออใช่ เดี๋ยวนี้แบคไม่เห็นด่าว่าชานเอ๋อเลยอ่ะ”
เออว่ะ =____=
ก็ดูแม่งดิ กูว่าตอนนี้กูต่างหากที่เป็นคนเอ๋อแดก
“อืม -*-
ช่างมันเถอะเรื่องเอ๋อน่ะ”
“แบค...” ชานยอลเปลี่ยนเรื่องอีกรอบ
“จำฉายาชานที่ชื่อ ‘ฟันเยอะ’ ได้มะ?”
“จำได้ ทำไมอ่ะ”
“ความจริงแล้วมันไม่ได้มาจากฟันในปากหรอกนะ
มันมาจาก... น้องชายผมที่ไม่ชอบฟันใครครั้งเดียว อิอิ”
มันพูดแล้วก็ก้มมองน้องชายมันที่ตอนนี้นูนออกมาจากกางเกงนอนเรียบร้อย =___=
“ฉายาชาน...
เด็ดมากจริงๆ”
“แล้วแบคจะช่วยทำให้มันสมฉายาชานหน่อยได้มั้ยอ่า...”
มันกระซิบข้างหูก่อนจะหอมแก้มเบาๆ
“น้องชานเด้งออกมาขนาดนี้
จะให้แบคใจร้ายไม่ตอบสนองได้ยังไงล่ะ >O<” ผมตอบก่อนจะยิ้มหวานหยด
อืม... แล้วพวกเราก็...
อื้มมมมมม นั่นล้ะ~
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น