วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 23 One-Day Boyfriend.




23

One-Day Boyfriend.




หลายวันผ่านไป

                “ห่ะ... น้ำหน้าอย่างกูเนี่ยนะ... ติด Harvard จริงๆ หรอ” เสียงเล็กๆ พูดขึ้นขณะที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาถูกเปิดไว้นานแล้วแต่เขายังคงตกใจกับผลที่ได้รับ เสียงเครื่องปรับอากาศดังเบาๆ แข่งกับเสียงพึมพำของเขา ใครมันจะไปรู้วะ... ว่าการหนีคิมจงอินมันจะประสบผลสำเร็จอย่างรวดเร็วขนาดนี้

                “ใช่ ต้องโทรบอกแบคก่อน” เขาพูดกับตัวเองก่อนจะกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิท 

                (มีไรรรรร อย่าบอกว่าติด Harvard!

                “เออดิ -_-;” 

                (จริงอ่ะ O[]O!! เฮ้ย มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะเว้ยมึง ทำไมทำเสียงแบบนั้นวะ) 

                “มึง...” เสียงเล็กๆ เริ่มขาดตอน เพราะเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่ลำคอ คิ้วเริ่มขมวดเป็นปมเมื่อรู้ว่าน้ำใสๆ เริ่มก่อขึ้นที่ดวงตาตัวเอง “มึง... กูไม่อยากไปแล้วอ่ะแบค ฮึก... กูกลัว”

                (เฮ้ยใจเย็นๆ โด้ ตอนนี้ไอ่ไก่ดำอยู่ไหน)

                “มันกำลังลงไปซื้อขนมที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างๆ ต... แต่กูไม่กล้าบอกมันอ่ะแบค” คยองซูปาดน้ำตาตัวเองทิ้ง แต่มิวาย... น้ำตาหยดใหม่ก็ไหลลงมาทับอีก

                (มึงใจเย็นๆ ก่อน เรื่องนี้มันเป็นอนาคตทั้งชีวิตของมึงนะเว้ย กูรู้ว่ามึงอยากหนีมันแต่หนีไปหนีมาแม่งกลายเป็นว่ามึงจะได้ไปเจอกับอนาคตที่ดีกว่า ตอนนี้โอกาสมาถึงตรงหน้ามึงแล้วนะ ขอแค่มึงขึ้นเครื่องบินไปโอกาสก็จะเป็นของมึงทันที)

                “...”

                (อันนี้กูก็ไม่ได้อยากจะไล่มึงหรอกนะ แต่กูรู้ว่าเรื่องแบบนี้ถ้ารั้งไปก็บาปกรรมกูอีก อนาคตการศึกษามึงก็จะได้เชิดหน้าตัวเอง พ่อแม่ด้วย)

                “กูควรจะไปใช่มั้ย...”

                (ใช่ แต่กูว่ามึงควรบอกมันได้แล้วนะ)

                “บ้าหรอ... คนอย่างมันจะไปรู้เรื่องอะไรวะ แม่งไม่ให้กูไปแน่อ่ะ” 

                (ก็จริงว่ะ -_-^ แล้วมึงจะบอกมันเมื่อไหร่ ใจคอจะบอกกันวันสุดท้ายเลยหรอ) 

                “มีโอกาสเมื่อไหร่กูค่อยบอกมันทีหลังแล้วกัน แต่ว่ากูมีเวลาให้พวกมึงแค่สองอาทิตย์นะ”

                (หาาา O[]O!! โด้! วันนี้มึงทำกูจะช็อคตายหลายอย่างแล้วนะห่า)

                “ความจริง... มีให้อาทิตย์เดียว เพราะอีกอาทิตย์นึงกูขออยู่กับมันได้มั้ย” 

                (เออๆ จะทำอะไรกันก็ทำ -_-; อย่าท้องก่อนไปเรียน Harvard แล้วกัน)

                “ฮ่าๆๆ บ้าว่ะมึงอ่ะ! แค่นี้นะ...”

                (อือๆ) แล้วแบคฮยอนก็วางสายไป เป็นจังหวะเดียวกับที่จงอินเข้ามาในห้องนอนพอดี มือสองข้างเต็มไปด้วยถุงขนมที่เขาและคยองซูชอบ แต่เมื่อเห็นจมูกแดงๆ และแววตาที่ดูเศร้า จงอินจึงต้องทักขึ้น

                “อะไรอ่ะะะะ กูลงไปซื้อขนมหน่อยเดียวร้องไห้คิดถึงกูเลยหรอ”

                “พ่อง -_-^ ไม่ได้ร้องเว่ย! ฝุ่นมันทำให้กูแสบตา” คยองซูบอกปัด ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงขนมแทน “แล้วนั่นอะไร ซื้อมาอย่างกะจะแดกทั้งเดือน”

                “อือออออ จะได้ไม่ต้องไปซื้อหลายรอบไง เดี๋ยวเดือนหน้าก็เปิดเทอมละ มึงก็เอาขนมกูใส่กระเป๋ามึงนะ ถ้ากูหิวจะได้ขอมึงแดกสะดวกๆ ฮ่าๆๆๆ” จงอินพูดอย่างมีความสุข แต่เมื่อพูดถึงอนาคตที่เกาหลีเมื่อไหร่ คยองซูก็แทบทรุด เพราะเดือนหน้าเขาคงไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว

                “อ่อ อืม”

                “เออนี่! กูเห็นพี่ลู่บอกว่าเทอมหน้าพวกพี่เค้าก็จะทำละครเวทีคณะนิเทศอีก ยังไงครั้งนี้เราต้องไม่ยอมเป็นลูกกระจ๊อกแล้วนะเว่ยโด้ ขนาดชานยอลยังเป็นพระเอก เหี้ยฮุนยังเป็นพระรอง อีแรดแบคยังได้เป็นนางเอกหนึ่งฉาก พวกเราอยู่เฉยไม่ได้เว่ยยยย!” จงอินประกาศกร้าว เขากะจะเตรียมเสริมหล่อตั้งแต่เนิ่นๆ เผื่อว่าจะเข้าตากรรมการบ้าง

                “ฮ่าๆ จริงด้วยเนอะ ^__^” คยองซูตอบไปอย่างนั้น ทั้งที่ในใจอึดอัดเป็นที่สุด

                “เออ เห็นวันนี้ไอ่ฮุนมันว่าง มันคงจะมานอนเล่นที่นี่ล่ะมั้ง เดี๋ยวกูไปโทรชวนไอ้พวกที่เหลือก่อน จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ดีมะ?” จงอินถามด้วยสีหน้าร่าเริง 

                ทำไมมันต้องมาทำตัวรักเพื่อนอะไรตอนนี้
                ทำไมมันต้องมาพูดเรื่องเปิดเทอม ทั้งที่ปกติไม่เคยคิดจะสนใจมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ

                “อื้อ ^^” คยองซูตอบรับด้วยความยินดี เขาพยายามทำตัวเองให้เป็นปกติที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าเขาพูดน้อยลงและรอยยิ้มฝืนๆ นั่นก็สังเกตได้ง่ายเหลือเกิน จนคนที่คุยด้วย... สงสัยขึ้นมานิดๆ




                “โหยยยยยย นานๆ จะมากันครบว่ะ กูซึ้ง น้ำตาจะไหล T^T” ทันทีที่เปิดประตูก็เจอแบคฮยอนกับชานยอลที่มาด้วยกัน ก่อนจะพูดน้ำตาคลอเบ้า จนคนเปิดประตูให้อย่างจงอินแทบจะถีบออกนอกอวกาศ

                “ไอ่ห่า อย่าแรด เข้ามานี่!” เมื่อแบคฮยอนกับชานยอลเดินเข้ามาก็เจอเซฮุนที่ช่วงนี้ออร่าดาราจับกับพี่ลู่หานกำลังนั่งกันอยู่ที่โซฟาหัวเราะสนุกสนาน

                “คิดถึงฮุนนี่จังเลยยยย~ หล่อขึ้นนะมึงอ่ะ เดี๋ยวนี้แดกกลูต้าใช่มะ ขาววิ๊งเชียว” แบคฮยอนถลาเข้าไปกอดเซฮุนด้วยความคิดถึง เพราะพวกเขาไม่ได้เจอกันครบหน้าแบบนี้มานานแล้ว 

                “กลูต้าบ้านพ่อง! พี่ลู่เค้าดูแลกูดีเว่ย ใช่มั้ยคะตัวเองงงง~” พูดเสร็จก็ไปซุกหน้าไปที่คอพี่ลู่อย่างหื่นกระหาย ถึงมันจะเป็นดารายังไงแต่พออยู่กับเพื่อนมันก็เป็นไอ้เหี้ยฮุนสุดจะกากเหมือนเดิม -_-;

                “กูเช่าหนังมาดูด้วยยยย!” แบคฮยอนหยิบซีดีหนังออกมาจากกระเป๋าชานยอล ก่อนจะโชว์ชื่อเรื่องพร้อมรอยยิ้มแสยะ “ชัตเตอร์~ หนังผีไทยเรื่องนี้เค้าว่าหลอนโคตรพ่อโคตรแม่ ไอ่ไก่ดำ ปิดม่านดิ๊ สร้างบรรยากาศสลัวๆ หน่อย”

                “มึงเรียกใครไก่ดำนะ -_-?” จงอินทวนถาม

                “มึงแหละ เร็วๆ! เดี๋ยวโด้โมโหไม่ให้ดูนะมึง” แบคฮยอนใช้ชื่อคยองซูมาขู่และแน่นอนว่ามันได้ผลเสมอสำหรับจงอิน

                “จะเปิดแล้วน้าาาาา” แบคฮยอนใส่แผ่นซีดีลงไปในเครื่อง 

                “พี่ลู่ ฮุนกลัวจังเลย~ ขอซุกหน่อยยย T^T” เซฮุนได้ทีก็รีบกอดพี่ลู่ไว้แน่นทั้งที่ยังไม่กดเพลย์เลยด้วยซ้ำ แต่พี่ลู่กลับหัวเราะเขินก่อนจะปล่อยให้มันกอดไว้อย่างนั้น           
     
                 เมื่อหนังเล่นไปได้ไม่นาน ผีก็เริ่มจะออกมาให้เห็นบ้าง ทุกคนไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้นั่งดูหนังผีครบคู่ขนาดไหน แบคฮยอนเองก็แอบสะดุ้งเบาๆ จนชานยอลถือโอกาสนี้เอาเข้ามากอดไว้แนบตัว ซึ่งแบคฮยอนก็ว่าอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้ตัวเองก็อยากหาที่พึ่งยึดเหนี่ยวเหมือนกัน

                แต่คยองซูของเราเนี่ยสิ...

                ได้แต่นั่งเอามือเล็กๆ สองข้างปิดตาตัวเองเมื่อผีโผล่มา จนทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ อยากคันไม้คันมือ อยากจะปลอบยังไงไม่รู้...

                “โอ๋~ ไม่เป็นไรน้า” จงอินใช้โอกาสนี้ดึงคยองซูเข้ามาไว้ในอ้อมอกตัวเองจนคนตัวเล็กต้องมองมือซ้ายของจงอินที่จับแน่นอยู่บนไหล่ซ้าย แบคฮยอนเห็นทั้งคู่แบบนี้ก็อดเขินแทนเพื่อนไม่ได้ 

                “จ... จำเป็นต้องนั่งท่านี้ด้วยหรอ O / / O” คยองซูกระซิบถาม 

                “เออ” จงอินตอบห้วนๆ สั้นๆ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดของตัวเองให้แน่นขึ้นไปอีก ไม่รู้ทำไมคยองซูถึงตัวเล็กน่ารักขนาดนี้ เขาว่าคยองซูก็กินเยอะอยู่นะ -_-;

                พระเจ้าครับ...
                ถ้าผมไม่ได้ฝันไป ผมขออยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ นี้ตราบนานเท่านานเลยได้มั้ยครับ...



                เมื่อหนังจบ จงอินก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กกำลังหลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง รอยยิ้มบางๆ ที่ผุดขึ้นบนใบหน้าแสดงให้เห็นว่ากำลังหลับฝันดี จงอินจึงเลือกที่จะไม่กวนและนั่งมองคยองซู

                ก็พอคยองซูหลับทีไร... เขาก็ชอบมองทุกทีเลยนี่นา
                นี่เขารู้สึกอะไรแปลกๆ กับเพื่อนซี้คนนี้รึเปล่านะ...

                ใครเสียงดัง กูเอาตายเลยเอาดิจงอินพูดออกมาเบาๆ จนทุกคนถึงกับหัวเราะ แต่ร่างเล็กก็ขยับตัวนิดหน่อย ก่อนจะลุกขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง

                “อ้าว หนังจบแล้วหรอ”

                “ว้ายยยย! มึงอ่ะแหละไอ้ห่าจงอิน ทำโด้ตื่น ฆ่าตัวตายคว้านท้องฮาราคีรีไปเลยมึงอ่ะ” เซฮุนได้ทีรีบขู่จงอินทันที จงอินจึงมองหน้าคยองซูเซ็งๆ ว่ามึงไม่น่ามาตื่นตอนกูพูดจบเลย -_-^

                “มีอะไรกันอ่ะ -_-” ตัวการยังคงไม่รู้เรื่อง กลับเกาหัวงงๆ ก่อนจะนึกบางอย่างออก “อ้อ! กูทำสปาเก็ตตี้ให้กินเอามั้ย กะจะทำให้ไคมันกินไปซักวันสองวัน เอามาทำวันนี้ทีเดียวเลยแล้วกัน”

                “เย้! เอาาาาา~” ทุกคนประสานเสียง ยกเว้น...

                “ทำไมกูไม่ได้กินคนเดียวอ่ะ T^T กูอยากกินคนเดียวววววว”




                “กูมาช่วย” แบคฮยอนพูดขึ้นขณะที่คยองซูกำลังต้มเส้นสปาเก็ตตี้อย่างคล่องแคล่ว แต่คยองซูก็หัวเราะลั่นครัว ก่อนจะชี้ไปที่ตู้เก็บจาน

                “มึงไปจัดจานเหอะ สภาพมึงนี่ไม่ควรเข้าครัว ฮ่าๆๆๆ” 

                “มึง ตกลง Harvard นี่จะไปใช่ปะ?” แบคฮยอนพูดขึ้นขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาเลือกจาน

                “อะไร ใครจะไปฮาร์วาร์ด” เซฮุนที่แวะเข้ามาหาน้ำกินได้ยินเข้าพอดี คยองซูจึงถือโอกาสนี้เล่าให้ฟังโดยไม่ได้โกรธแบคฮยอนที่หลุดปาก เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกเซฮุนตอนไหน 

                “โถถถถถถถ งั้นไอ้ห่าจงอินก็เหงาเปล่าเปลี่ยวเอกาอ่ะสิ” เมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมด เซฮุนก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

                “ไม่นานนักหรอกน่า -O- แต่มึงอย่าพึ่งบอกมันนะ เดี๋ยวมันห้ามไม่ให้กูไป”

                “ห้ะ O_O! นี่มันยังไม่รู้อีกหรอ หวายยยย สมน้ำหน้ามัน ฮ่าๆๆๆๆ นี่กูรู้ก่อนมันอีกใช่ปะ มันสะใจตรงนี้ กร๊ากๆ” เซฮุนถึงกับหัวเราะชอบใจที่ตัวเองได้นำหน้าจงอินมาก้าวนึง

                “หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอะไรกันครับ ผมร่วมวงด้วยสิ” ชานยอลที่บังเอิญได้ยินเสียงหัวเราะเดินตามเข้ามาติดๆ เซฮุนจึงรีบออกไปนั่งกับลู่หานเพราะกลัวว่าจงอินจะปล้ำพี่ลู่ คยองซูจึงเล่าให้ชานยอลฟังอีกคน

                “โหววววว O_O! เรื่องนี้เรื่องใหญ่นะครับเนี่ย แบคฮยอนจะไปเรียนเป็นเพื่อนคยองซูมั้ยครับ เดี๋ยวผมออกทุนให้” 

                “ไม่ต้อง -_-; ถึงกูจะมีตังค์เรียนแต่หัวสมองกูไม่มี รีบทำกับข้าวเหอะโด้ เดี๋ยวไอ่ห่านั่นโมโหหิว” แบคฮยอนรีบปฏิเสธก่อนจะกระตุ้นให้คยองซูทำอาหารต่อ ส่วนเซฮุนก็รีบกระซิบบอกข่าวกับพี่ลู่ทันที โดยปล่อยให้จงอินนั่งเล่นเกมอยู่คนเดียว

                งั้นตอนนี้...
                คนที่ไม่รู้เรื่อง Harvard ก็มีมึงคนเดียวแล้วสินะจงอิน =______=





                เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก               
                อยากหยุดเวลาแต่ทำไม่ได้...


                “จงอินอ่า วันนี้เรามาเป็นแฟนกันวันนึงเถอะ” คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนจะมองเขาตาแป๋ว 

                วันนี้เป็นวันสุดท้าย... พรุ่งนี้ต้องไปแล้วจริงๆ

                “อะไรของมึงเนี่ย -_-?

                “เหอะน่า ลองดูมั้ย ไหนๆ เราก็อยู่ด้วยกันมานานแล้ว” คนตัวเล็กเขย่าแขนก่อนจะอ้อนด้วยสายตาจนจงอินทนไม่ไหว ต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราะเขิน

                “เอออออ เป็นก็เป็นน แล้วถ้ากูติดใจอยากเป็นตลอดชีวิตก็รับผิดชอบกูด้วยนะคร๊ะ >___<” 

                “ฮ่าๆๆๆ ^O^ เอออออ ได้ รับผิดชอบบบบ” คยองซูรับคำ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “ไปเที่ยวกันมะ”

                “เที่ยวที่ไหน”

                “เดินเล่นแถวนี้แหละ ไปกัน >O<!” ร่างเล็กฉุดมือจงอินขึ้นมาจากโซฟานิ่ม จงอินส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ก่อนรอยยิ้มจะผุดขึ้นบนใบหน้า

                เป็นแฟนกันตลอดไปเลยก็ได้นะ...



                “มึงงงงง กูอยากกินไอติม” คยองซูกระตุกชายเสื้อของจงอินอย่างเด็กๆ ก่อนจะชี้ไปที่ร้านขายไอติม

                “หนาวจะตายห่าอยู่ละ ยังจะแดกไอติม” ร่างสูงบ่นแต่ก็เดินปรี่ไปที่ร้านขายไอติมทันที

                “เอาช็อกโกแลตชิพครับ” ร่างเล็กรีบสั่งไอติม “อืมมม เอาเชอรี่ด้วยครับ”

                “ไม่กินเชอรี่ไม่ใช่ไง๊?” จงอินหันมาถามด้วยความสงสัยในขณะที่มือก็ยื่นเงินให้พนักงาน เพราะคยองซูเคยบอกเขาว่าเหม็นกลิ่นเชอรี่ที่สุด

                “ก็มึงชอบไม่ใช่ไง๊?” คยองซูถามกลับ ก่อนจะรับไอติมมาถือและยื่นเชอรี่ให้จงอิน เขายิ้มบางๆ ก่อนจะค่อยๆ กินเชอรี่นั้น

                สายตาประสานกัน...

                “รีบๆ แดกซิ” เมื่อสบตากัน ร่างเล็กก็รีบเร่งให้จงอินกินไวๆ เพราะความเขิน เขาจึงรีบกัดเชอรี่ก่อนจะโยนก้านเชอรี่ทิ้งข้างทาง เมื่อเห็นคยองซูเลียไอติมทีละนิดจึงยิ้มออกมา มือหนาเลื่อนไปจับมือเล็กอย่างระวังก่อนจะพูดขึ้น

                “เป็นแฟนกันก็ต้องจับมือกัน”

                “อือ - / / -” คยองซูได้แต่ปล่อยให้ร่างสูงจับมือไว้อย่างนั้น ไม่นานไอศกรีมก็ถูกกินจนหมด ทั้งคู่ต่างเดินจับมือกันเงียบ

                คนหนึ่งคิดว่า... จะบอกความจริงเมื่อไหร่ดี
                อีกคนก็คิดว่า... จะบอกรักเมื่อไหร่ดี

                “มึง!” สายตาของคนตัวเล็กพลันเหลือบไปเห็นตุ๊กตาหมีในตู้กระจก ป้ายโฆษณาข้างๆ เขียนว่า อัดเสียงและฟังได้นั่นทำให้คยองซูตาโตด้วยความอยากได้

                “จะเอาอีกอ่ะดิ” จงอินถามอย่างรู้ทัน ก่อนจะพาร่างเล็กเดินเข้าไปในร้าน “เอาตัวนี้ครับ”

                “สามหมื่นวอนค่ะ” พนักงานร้านบอกราคา จงอินไม่ได้อยากจะต่อราคาให้มากนักจึงยื่นบัตรเครดิตให้ ระหว่างที่กำลังรูดบัตร พนักงานก็รีบบอกวิธีใช้ “หูซ้ายไว้อัดเสียงนะคะ หูขวาไว้ฟังค่ะ ถ้าอัดเสียงทับแล้วจะฟังอันเก่าไม่ได้นะคะ”

                “ครับ ขอบคุณมากครับ” คยองซูเอ่ยขอบคุณก่อนจะกอดตุ๊กตาหมีอัดเสียงได้ไว้แน่น เมื่อจ่ายเงินเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินเล่นมาเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง คยองซูลากจงอินให้ไปนั่งบนม้านั่งก่อนจะหยิบตุ๊กตาหมีขึ้นมาแอบอัดเสียงตัวเอง

                “จงอินบ้า” เมื่ออัดเสร็จก็ยื่นให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ฟัง 

                “นี่คือจุดประสงค์ของการเสียตังค์ของกูใช่มั้ยครับ =_____=” จงอินพูดเซ็งๆ คยองซูจึงยิ่งได้ใจ อัดเสียงทับเข้าไปอีก

                “จงอินบ้าบอคอแตกแบร่ๆๆ” 

                =_=” ร่างสูงถึงกับเซ็งจึงคว้าตุ๊กตาหมีนั่นมาอัดเสียงบ้าง “โด้ตาเหลือก”

                “ไอ่จงอินนนนนน -_-^” เมื่อได้ยินเสียงที่อัดก็เคืองหนัก จึงคว้าตุ๊กตาหมีแล้ววิ่งออกไปตั้งใจว่าจะแอบด่าหลังต้นไม้แล้วไปเปิดให้มันฟัง

                “จงอินไม่หล่อ ดำก็ดำ น่ารำคาญชิบเป๋งเล้ยยยยย” เมื่ออัดเสร็จก็เดินกลับมาหาพร้อมรอยยิ้มขบขัน กะจะให้จงอินเคืองเต็มที่ แต่เจ้าตัวกลับไม่ฟังหมี คว้าตุ๊กตาไปก่อนจะพูดทิ้งท้าย

                “เอามานี่เลยยยย ด่ากูมาอีกใช่มะ ขอกูอัดบ้างเถ๊อะ” พูดจบก็เดินหายไปหลังต้นไม้พร้อมกับตุ๊กตาหมีทันที       
   
                เมื่อนั่งอยู่คนเดียวก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องทำอะไร...
                ใช่... เราต้องบอกมันว่าพรุ่งนี้เราจะไปจริงๆ แล้วนะ...

                “มาแล้ว ^_____^ ฟังซะ” จงอินมาพร้อมรอยยิ้มที่หาดูได้ยาก เขายื่นตุ๊กตาหมีให้คยองซู แต่ร่างเล็กก็แค่รับมันมาถือไว้ในมือ ก่อนจะก้มหน้านิ่ง

                “กูมีเรื่องสำคัญจะบอก”

                “สำคัญอะไรตอนเน้ TOT ฟังที่กูอัดก่อนเด๊” จงอินท้วง 

                “เรื่องกูสำคัญจริงๆ นะ...” ร่างเล็กเริ่มเสียงแผ่วลง จงอินจึงสัมผัสได้ถึงความตึงเครียด เขานั่งลงข้างๆ คยองซูก่อนจะมองหน้าอย่างตั้งใจ

                “อะไร พูดมาเร็วๆ”

                “จงอิน...” คยองซูตัดใจเงยหน้าขึ้นมาสบตากับร่างสูง แววตาแข็งแกร่งนั้นที่หลงรัก... ที่รักมานานสามปีกว่าแล้ว... 

                เขาเลือกแล้วว่าเขาจะหนีแววตานี้ไป

                “...”
                “พรุ่งนี้กูจะไป Harvard” เขากลั้นใจพูดประโยคนี้ประโยคเดียวก็แทบขาดใจ

                Harvard? มหาลัยในอเมริกาอ่ะนะ? ไปทำอะไร? ทัศนศึกษา?” ร่างสูงยังคงไม่เข้าใจ

                “ไปเรียน”

                “กี่วัน?” ร่างเล็กถึงกับสะอึกกับหน่วยเวลาที่ร่างสูงถาม 

                “สี่...”
                “...”
                “ปี”
                “...”

                “กูตั้งใจจะบอกมึงนานแล้วนะ แต่กูบอกไม่ได้ซักที... กู...” เอาอีกแล้ว เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่ลำคออีกแล้ว หัวใจเหมือนโดนฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทีละน้อย... 

                แต่คยองซูไม่รู้หรอกว่าหัวใจของคนตรงหน้าก็อยู่ในสภาพเดียวกัน

                “...” ร่างสูงถึงกับนิ่งเงียบ ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากนั้น

                “พรุ่งนี้กูจะไปถึงที่สนามบินสิบเอ็ดโมง เกท G ไปส่งกูด้วยนะ...” ร่างเล็กยังคงเห็นแก่ตัว อ้อนวอนเขาจนวินาทีสุดท้าย

                “มึงยังจะให้กูไปส่งอีกหรอ”
                “...”

                “กูสำคัญพอใช่มั้ย” ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ตัวเขาเองก็เหมือนมีอะไรมาจุกที่ลำคอเหมือนกัน แววตาที่แข็งแกร่งกลับอ่อนแอลง... น้ำใสๆ เริ่มก่อขึ้นในดวงตาทั้งสองข้างโดยที่ไม่รู้ตัวเลย

                “จงอิน...”

                “ไม่ดิ กูเป็นอะไรสำหรับมึงวะ แม้แต่เพื่อนก็ยังไม่ใช่เลยใช่ปะ...”

                “ฮึก... ฮืออออ”
                “มึงไม่รอบอกกูพรุ่งนี้ก่อนขึ้นเครื่องบินเลยอ่ะ แบบนั้นดีกว่าอีกนะเว้ย มึงจะได้ไม่ต้องเห็นว่ากูทำหน้าแบบไหนอยู่”

                “จงอิน... ฮึก...” ร่างเล็กเริ่มสะอื้น น้ำตาไหลลงมาไม่หยุดหย่อน 

                “กูกำลังทำหน้าแบบนี้ไง... กูกำลังเสียใจแบบนี้ไง... มึงเคยเห็นกูแบบนี้มั้ยฮะโด้” จงอินพูดพลางน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมา สร้างความตกใจให้กับคยองซูไม่น้อย 

                “จ... จงอิน...”

                “มึงมองว่ากูเป็นคนบ้าบอคอแตกใช่มั้ย ถ้ามึงบอกกู กูก็จะรั้งมึงไว้ใช่มั้ย...”

                “...” ร่างเล็กถึงกับเงียบ เพราะมันเป็นความจริงที่เขาคิดแบบนั้น

                “มึงรู้ไว้เลยนะ ถึงกูจะบ้าบอคอแตกขนาดไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องของมึง... กูจริงจังเสมอ”
                “...”
                “แค่บอกว่ามันเป็นเรื่องของมึงอ่ะ... แค่นั้น... กูก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อมึง”
                “ฮึก...”

                “แต่เอาเถอะ... มึงจะไปไหนก็ไป” ร่างสูงพูดก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้น “โชคดี”

                “ม... มึงจะไปไหน” ร่างเล็กพูดขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าจงอินกำลังเดินออกไป แต่ร่างสูงก็ไม่ได้หันกลับมาพูดอะไร เขาเดินคอตกออกไปจากสวนสาธารณะอย่างเงียบเชียบ 

                เมื่อเห็นว่าจงอินเดินหายไปแล้ว ร่างเล็กก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น... ใช่ เราควรจะบอกให้เร็วกว่านี้สิ ทำไมเรามันงี่เง่าแบบนี้...



                ตุ๊กตาหมี...

                ร่างเล็กหยิบตุ๊กตาหมีขึ้นมาอย่างเบามือก่อนจะแนบหูตัวเอง แล้วกดที่หูขวา


                โด้ นี่กูจริงจังนะ กู...

                กูรักมึงว่ะ เป็นแฟนกันตลอดไปเลยได้มั้ยครับ


                เพียงคำพูดประโยคเดียวที่ถูกอัดทิ้งไว้...
                ก็ทำให้ผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งน้ำตาไหลไม่หยุด


                หัวใจ... โดนฉีกหมดแล้ว...
                ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น