วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 6 The Frog Mascot Prince VS the Sleeping Forever Beauty.




6

The Frog Mascot Prince VS the Sleeping Forever Beauty.


The Frog Mascot Prince…

ย้อนกลับไปเมื่อตอนเย็น

                “เอาล่ะค่า พวกเราฝั่ง Prince วิธีการเล่นก็อย่างที่ได้ฟังไปแล้วเน้ออออ งั้นพี่จะแจกชุดแล้วนะจ๊ะ” พี่สต๊าฟประกาศขึ้น ผมอยู่กับชานยอลแบบเหงาๆ เพราะคนอื่นค่อนข้างจะสนิทกัน แต่กลุ่มเรานั้นชอบปลีกวิเวกก็เลยนั่งแกร่วกันอยู่สองคน

                “มึง วันนี้มึงจะได้กับไอ้แบคปะวะ” ผมหันไปถาม มันถึงกับหัวเราะพรืดออกมา

                “ฮ่าๆๆ แบคฮยอนเค้าไม่ยอมง่ายๆ หรอกครับ”

                “แหมมึง ก็โทรไปฟ้องแม่มันว่ามันไม่ให้มึงเอาก็จบละ” ผมให้คำแนะนำ

                “ผมสัญญากับแบคฮยอนไปแล้วว่าจะไม่ให้คุณแม่มาช่วยผมอีกแล้วล่ะครับ ผมจะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ^^

                “เหยดดดดดด แมนเหี้ยๆ” 

                “อะไรรรร หนุ่มๆ คุยอะไรกันจ๊ะ” พี่สต๊าฟเข้ามาขัดขึ้น ก่อนที่จะมองใบรายชื่อแล้วหยิบชุดออกมาจากกล่อง “อันนี้ของน้องชานยอลน้า เจ้าชายจากเรื่องสโนไวท์ ><

                “แสดงว่าคู่ผมเค้าเป็นสโนไวท์หรอครับ *O*” ตาชานยอลดูเป็นประกายขึ้นมาทันใด

                “ก็ใช่น่ะสิ ^^ ส่วนของน้องแบคฮยอน...” เจ๊แกมองใบรายชื่อนิดนึงก่อนที่จะหัวเราะออกมานิดหน่อย “ฮ่าๆ น้องแบคฮยอนจ๊ะ อย่าโกรธพี่นะ แต่คนอื่นเค้ากำหนดมาอีกทีอ่ะ T^T” 

                แล้วเจ๊แกก็หยิบมาสคอตหัวกบเขียวๆ หน้าตาฮาๆ ออกมา

                “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ไอ้ชานยอลหัวเราะเสียงดังลั่น คือมึงสะใจมากใช่ปะเหี้ยนี่

                “เจ๊! ทำไมของผมมันเป็นอย่างเงี้ย! แล้วของไอ้เหี้ยชานเอาซะหล่อ” ผมตัดพ้อ 

                “ม่ายช่าย~ น้องเป็นเจ้าชายกบอ่ะน้องแบคฮยอน” ฮะ? เจ้าชายกบ -O-?

                “แล้วผมต้องใส่ชุดมาสคอตนี่ไปทั้งวันเลยไง๊?” ผมถาม เริ่มกวนตีนนิดๆ

                “อย่าพึ่งโกรธพี่สิ T^T พี่ไม่ได้เป็นคนกำหนดนะ แต่ในนี้เค้าเขียนว่า ถ้าได้รับจุมพิตจากเจ้าหญิงแล้วก็จะได้ใส่ชุดเจ้าชายอย่างหล่อเลยแหละ ><” 

                “แล้วไหนชุดเจ้าชาย -_-?

                “คือ... น้องต้องมีรอยลิปสติกรูปปากอยู่บนแก้มน้องอ่ะ ซึ่งต้องเป็นของคู่น้องด้วยนะ ห้ามมาเนียนเอาของคนอื่น” 

                เหี้ยละ -_-^ กูต้องให้ไอ้โด้มาจุ๊บแก้มกูงั้นซิ?

                “อ้าวพี่ แต่ในนิทานมันเป็นจุ๊บปากไม่ใช่หรอ” ไอ้เหี้ยชานยอลลลลลล! มึงจะท้วงพี่เค้าทำอะไรรรร?

                “นั่นแหละ พี่ก็อยากให้มันเป็นไปตามนิทาน แต่แหม พวกน้องเป็นผู้ชายด้วยกันนะ พวกพี่ก็สงสาร ก็เลยเอาที่แก้มก็พอ ^^; โอเค พี่ไปละ” แล้วพี่แกก็เดินไปแจกคนอื่น ซึ่งแต่ละคนได้อะไรดีๆ กันทั้งน้านนน ทำไมต้องกู ไม่เข้าใจ~
 
                “เหี้ยชาน เรามาแลกชุดกันมะ”

                “ผมก็อยากแลกนะ แต่ผมว่าไคใส่แล้วน่ารักดีออก” เอิ่ม... กูจะเชื่อดีมั้ย 

                แต่ก็เอาเหอะ คู่กูก็ไม่ใช่สาวสวยหรือเคะน้อยที่ไหน

                ก็แค่เพื่อนผู้ชายคนนึง
                ใส่ก็ใส่วะ -*-

                “เออ ใส่ก็ได้วะสัส” ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นแล้วใส่ทันที ถึงมันจะร้อนหน่อยแต่พอใส่แล้วก็กลายเป็นจุดสนใจไปทีเดียว 55555 แต่ว่าไอ้ตัวแย่งซีนมันไม่ใช่ใครที่ไหน... ไอ้เหี้ยชานยอล -_-^

                “ชานยอลลลล เราขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะ >O<” มีผู้หญิงมาขอถ่ายรูปครับคิดดู! เอาจริงๆ ผมว่ามันหล่อมากเลยนะ ถ้าอีแรดแบคเห็นต้องใจเต้นแหง็มๆ -_-; แต่ทว่าความจริงคือ...     

                แม่งถอดแว่น แล้วมองเหี้ยอัลไลไม่เห็นเลย =_=!!

                “ไค ผมจะเดินยังไงล่ะเนี่ย” มันบ่น คิดดูดิ แค่มันมองหน้าผมมันยังไม่มองตาผมเลยอ่ะ คือตากูตี่จนมึงหาไม่เจอหรือสายตามึงสั้นเหี้ยๆ วะ?

                “มึงก็แตะๆ ผนังเอาแล้วกัน กูก็อยากจะจูงมึงอ่ะนะ แต่แบบ... พี่เค้าไม่ให้ไปด้วยกัน กูขอโทษ” 

                “ฮ่าๆๆ ความจริงผมก็อยากหาแบคฮยอนคนเดียวอยู่แล้ว ผมอยากพยายามทำอะไรให้เต็มที่เพื่อแบคฮยอน ^_^” โถ่ กูอยากอัดเสียงแล้วส่งไปทางคลื่นอินฟราเรดให้อีแรดแบคจริงๆ ถ้าแม่งได้ยินคงจะดิ้นเร่าๆ รักไอ้เอ๋อนี่ตายห่า

                หลังจากแต่งตัวเสร็จ เราก็เริ่มออกตามหากันทันที แน่ล่ะว่าผมกับไอ้ชานยอล ออกตัวช้ามาก เพราะผมหนักชุด -*- แถมต้องมองทางจากช่องแคบอันเล็กๆ T^T ส่วนไอ้ชานยอลก็เอาแต่แตะๆ ผนังไปเรื่อยๆ ชาตินี้จะถึงปะวะ -O-

                ผมหาไปเรื่อยๆ ลองไขกล่องแล้วกล่องเล่าก็หาไม่เจอ จนมาหยุดพักที่กล่องใบหนึ่งข้างๆ ลานกางเต้นท์ ผมถอดหัวกบปัญญาอ่อนนี่ออกก่อนที่จะนั่งพิงกล่องนั้นอย่างเหนื่อยหอบ

                “ใครครับ?” เสียงทักดังมาจากในกล่อง หืมมมม... เสียงผู้ชายหรอ

                “เอ่อ... กู เอ๊ย คือ... เราชื่อไค ไม่ๆ เราชื่อแบคฮยอน -_-^” ผมตอบ

                “ไค!! กูโด้เองงงงง!!

                สัสโด้ของพวกกู TT^TT!!!!!!!

                “โด้มึงงงงง มึงไปอยู่ไหนมาวะสัสสส กูตามหามึงสุดหล้าฟ้าเขียว แถมกูต้องใส่ชุดเหี้ยๆ นี่อีก” ผมบ่นไปไขกุญแจไป และก็รีบเปิดฝากล่องออก

                นี่มันใครวะเนี่ยยยยยยย O[]O!!!
                ทำไมแม่งสวยอย่างเงี้ย !!

                “เอ่อ... มึงคือโด้ปะครับ -_-?” ผมลังเลนิดนึงและตั้งใจว่าจะปิดฝาคืน 

                “ก็กูเนี่ยแหละ! มึงบ้าปะเนี่ย” แล้วมันก็ลุกขึ้นยืนจนผมได้เห็นหน้ามันชัดๆ 

                อ่ะโหววววว -O- แต่งหน้าจัดเต็ม ใส่วิกอีกอะไรอีก เหี้ยยยยย น่ารักเหี้ย
                เอ่อ =_= กูเผลอคิดอะไรปายยยยย

                “ไอ้โด้ - / / -” ผมเรียกมันแบบเขินๆ เมื่อเห็นความน่ารักและนึกถึงคำพูดของพี่สต๊าฟที่ต้องให้มันมาจุ๊บแก้มผม
                “ไร”

                “มึงทาลิปสติกมาปะ?”

                “ทา แต่กูกินข้าวมาแล้วอ่ะ ไม่รู้หลุดรึยัง” ว่าพลางเอาหลังมือถูปากตัวเอง

                “หยุดดดดด! มึงต้องรักษาลิปสติกบนปากมึงไว้ดีๆ เลย” ผมจับแขนมันแน่นจนมันมองหน้าผมแบบงงๆ

                “อะไรของมึงวะไค -*-

                “มึง”

                “...”

                “ต้องจุ๊บแก้มกู”

                O / / O” มันเบิกตาโตก่อนแก้มจะระเรื่อขึ้นมาและมันก็ต้องหลบตาผม

                “อะไรไอ้โด้ มึงคิดอะไรไปไกลอีกแล้วใช่ปะ พี่เค้าบอกว่าต้องให้มีรอยลิปสติกเป็นรูปปากบนแก้มกู ไอ้ครั้นจะไปขอผู้หญิงที่ไหนจุ๊บแม่งก็เหี้ยไป ก็เลยต้องเอามึงเนี่ย”

                “อือ” มันเงียบไปถนัดตา ก่อนที่จะยืนก้มหน้านิ่งๆ

                “แล้วมึงจะรอช้าอะไรล่ะสัสสสส จุ๊บกูเร็วๆ” ผมเร่ง แต่มันก็ยืนนิ่ง

                “โหยโด้ มึงจะคิดอะไรมากวะ เล่นกันสนุกๆ แค่จุ๊บแก้มกูเสร็จแล้วก็จบๆ ไป” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งจิต ก่อนที่จะมองหน้ามัน แต่มันก็หลบตาต่ำ

                “งั้นมึงก็อยู่เฉยๆ หันแก้มมา” มันพูดทั้งที่ยังหลบตาอยู่อย่างนั้น ผมส่งเสียงในลำคอนิดหน่อยด้วยความรำคาญ แต่เพื่อความอยู่รอดและหลุดพ้นจากชุดมาสคอต ผมก็เลยย่อตัวลงนิดนึงก่อนที่จะหันแก้มซ้ายให้

                ปลายจมูกรั้นกดลงบนแก้มผมอย่างลังเล ก่อนที่จะตัดสินใจฝังปากลงบนแก้มผมอย่างแผ่วเบาแล้วก็รีบถอนออก

                “รอยติดปะเนี่ย -_-^” ผมหันไปถามมัน มันมองที่แก้มผมนิดหน่อยก่อนที่จะตาเหลือกเล็กน้อย

                “ไม่ติดอ่ะ O_O!!

                “ก็มึงอ่ะแหละโด้ อย่าเล่นตัวเยอะ จะจุ๊บก็รีบๆ เอาให้มันติด” ผมบ่น แต่ผมก็แอบเห็นว่าหน้ามันตอนนี้หงุดหงิดมาก

                “...”

                “โด้ มึงรีบๆ อย่ามาทำเป็นโกรธ”

                “ไค กูถามจริง เวลามึงให้แฟนมึงจุ๊บแก้มมึงอ่ะ มึงเร่งเค้าขนาดนี้มั้ย?” มันถามคำถามแปลกๆ มา ผมอึ้งไปนิดหน่อยก่อนที่จะตอบแบบงงๆ

                “เอ่อ... กูไม่เคยขอจุ๊บแบบนี้อ่ะ เค้ามาจุ๊บเอง... แล้วมึงจะถามทำไมเนี่ย!!” หลังจากเล่าอะไรให้ฟังนิดหน่อย ผมก็นึกขึ้นได้ว่าทำไมผมต้องเล่าให้มันฟัง

                “อือ นั่นแหละ มึงต้องทำตัวยังไงก็ได้ให้กูรู้สึกอยากจะจุ๊บมึงเอง” แล้วมันก็เดินไปเฉยเลย -O-!! 

                ไอ้โด้ มึงเล่นตัวนักใช่มั้ยยยยยยย
                เดี๋ยวเหอะมึง กูจะตัวควีโยมีใส่มึง เอาให้มึงเขินตายห่ากันไปข้าง!

                ว่าแต่... หน้าอย่างกูเนี่ยนะ ทำตัวควีโยมี -_-?       *ควีโยมี = น่ารัก
                มันต้องลองซักตั้งแล้วล่ะ T^T

                “โด้จ๋า” ผมเรียกชื่อมัน ไอ้โด้หยุดเดินเล็กน้อยก่อนที่จะหันมามองหน้าผม

                “ทำไม”

                “โด้รีบไปไหนอ่ะ รอเค้าด้วย” อี๋ กูอยากจะหยิกปากตัวเองชิบเป๋ง

                “หึ แค่คำพูดกูไม่ใจอ่อนหรอกนะสัส” 

                “อุ๊ยยยยย โด้อย่าพูดสัสเสิสอะไรอย่างงี้สิ ไม่ดีนะตัวเองงง” ผมพูดแล้วตีปากโด้นิดหน่อย กูว่ามันจะไม่ใช่ควีโยมีละ แม่งตุ๊ดแดกแล้วอ่ะตอนนี้ 

                “พึ่งเห็นมึงเป็นแบบนี้อ่ะ ฮ่าๆๆ” ไอ้โด้หัวเราะชอบใจใหญ่ ผมเท้าสะเอวด้วยความเซ็งเล็กน้อยก่อนที่จะหยิบหัวกบขึ้นมาใส่ แล้วกระโดดโลดเต้นไปมาข้างหน้ามัน นี่กูทำขนาดนี้เพื่ออะไรวะ กูลืมวัตถุประสงค์หลักไปละ -_-;

                “ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้โด้หัวเราะอย่างร่าเริง ทำเอาผมเต้นหนักกว่าเดิม 

                ไม่รู้ว่า... อยากให้มันจุ๊บผมเร็วๆ จะได้เสร็จๆ
                หรือ อยากเห็นมันหัวเราะแบบนี้ไปนานๆ

                “ขอโทษนะครับ ชื่อคยองซูใช่ปะ” ขณะที่ผมกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่งอยู่หน้ามัน ก็มีผู้ชายล่ำบึกเดินมาทักไอ้โด้ ท่าทางมันเมะแดกแน่นอน แถมสายตามันยังพร้อมจะแดกไอ้โด้ได้ตลอดเวลา

                “อ่า... ครับ”

                “พี่ขอเบอร์ได้มั้ยอ่ะ แอบดูน้องมานานละ ฮะๆ ^O^; น้องน่ารักดี” โหยอีเหี้ย จะขอเบอร์ทั้งทีแม่งสารภาพซะหมดเปลือก กากจริง!

                ผมไม่รู้ว่าเพราะความกากของมัน ทำให้สะกิดใจผมหรือเพราะเบื้องลึกอะไรในใจ ผมจึงถอดหัวกบออก วางมันไว้บนพื้นก่อนจะยิ้มให้คุณพี่ล่ำบึกนั่น

                “เอ่อพี่ครับ นี่แฟนผมอ่ะ แหะๆ” เอิ่ม... กูพูดอะไรลงไปปปปปป TOT!

                “อ๋อ ถ้างั้นขอโทษครับ” แล้วคุณพี่ก็จากไปแต่โดยดี 

                นั่นละ -_-; ความตึงเครียดก็ครอบงำสองเรา      

                “เอ่อ... พอดีมันเป็นระบบอัตโนมัติน่ะมึง กูเห็นว่าไอ้พี่ล่ำนี่มันไม่เข้ากับมึง กูก็เลยออกตัวปกป้อง แค่นั้นเองแหละ” ผมพูดพลางเกาหัวแกรกๆ ด้วยความรู้สึกแปลกๆ

                “คิก...” เสียงมันหัวเราะเบาๆ “เฮ้ย! นั่นอะไรวะ!” จู่ๆ มันก็ชี้ไปอีกทาง ผมจึงหันตามว่าเกิดอะไรขึ้น

                มันเขย่ง ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้แก้มผม ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่อง ก็เลยจะหันกลับไปด่ามันว่าไม่เห็นมีอะไรเลย แต่!
                ปากผมกับปากมันดันโดนกันซะนี่!!

                “ไอ้ไค! มึงจะหันหน้ามาทำไมวะ กูจะจุ๊บแก้มให้มึงอยู่ละ - / / / -” มันบ่น ทั้งที่หน้าแดงก่ำ

                “ก็มึงจะหลอกกูให้หันไปทางนั้นทำไมละ! กูก็กำลังจะหันกลับมาด่ามึงอ่ะเด่ะ! โอ๊ยช่างแม่งละ -_-; ไปมันทั้งสภาพนี้แหละ กูขี้เกียจใส่ชุดเจ้าชายละ ไปรวมตัวเหอะ” ผมลากแขนมันก่อนที่จะพาเดินไปที่หอประชุมใหญ่ เพื่อให้พี่เค้าเช็กว่าเราหากันเจอแล้ว

                “อุ๊ย! น้องแบคฮยอนคะ พี่บอกแล้วใช่ปะว่าจุ๊บแค่แก้มก็พอ ปากไม่ต้องค่ะน้อง >O<” พี่สต๊าฟทักขึ้น

                “เดี๋ยวพี่ ก็มันมีแค่ปากนี่ไง” ผมชี้ที่ปากตัวเอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าปากผมก็ต้องมีรอยลิปสติกติดบ้าง

                “จ้าาาา พี่เห็นแล้วว่ามีรอยลิปสติกที่ปาก แต่แก้มมันก็ชัดขนาดนี้ ที่ปากจะเพิ่มมาอีกทำไมล่ะจ๊ะ”

                เอิ่ม เดี๋ยวนะ

                ไอ้โด้!! นี่มึงหลอกแต๊ะอั๋งกูหรอออออออ -O-!!!
                ไหนมึงบอกว่าที่แก้มไม่ติดไงสัสสสสสสสส!

                และเหมือนมันจะรู้ความในใจของผมที่กำลังเดือดดาล ก็เลยพูดประโยคนึงพร้อมก้มหน้างุดด้วยความเขิน

                “ก็มันมืดนิ มองไม่เห็น (._.)

                คร้าบบบบบ มืดคร้าบบบบบบ
                เอาเป็นว่าครั้งนี้กูโดนมึงแต๊ะอั๋งไปก่อนนะ
                ครั้งหน้ามึงโดนเละแน่ไอ้โด้!!



The Sleeping Forever Beauty…

                สวัสดีครับ ผมคือลู่หานนนนน >O<!!

                วันนี้ผมมาแคมป์ครับ แน่นอน หลังจากที่แยกจากแก๊งค์ลิงกังนั่น ผมก็รีบขึ้นรถบัสรุ่นพี่ปีสี่ทันที ไม่ใช่อะไรหรอกครับ กลัวไอ้บ้าโอเซฮุนจะเกาะผมไปไหนมาไหนตลอดเวลา 

                หลังจากที่ถึงแคมป์แล้ว ผมก็พยายามแทรกตัวเองอยู่กับแก๊งค์ปีสี่ โดยพยายามประกบเพื่อนสนิทตัวเองไว้นั่นก็คือไอ้เลย์กับจงแด ^O^ โดยก่อนจะมาที่แคมป์ ผมก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าจะมีกิจกรรมอะไร นั่นก็คือเล่นซ่อนหา Prince & Princess นั่นเอง ผมก็เลยใช้ใบหน้าแอ๊บแบ๊วๆ ไปขอพวกผู้หญิงว่าผมจะอยู่ฝั่ง Prince ซึ่งพวกนางก็ยอมแต่โดยดี หึหึ ~_~

                แต่พอเริ่มกิจกรรม ไอ้เลย์ก็หายตัวไป ทิ้งผมไว้กับไอ้จงแด แสดงว่า...

                เลย์อาจจะเป็นคู่กับผมก็ได้ O_O!!

                เอาจริงๆ คือตั้งแต่เข้ามาในแคมป์ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าผมนอนกับใคร เพราะทำตัวให้ยุ่งตลอดเวลา ไอ้เซฮุนจะได้ไม่เข้ามารบกวน ฮ่าๆๆ

                “มึง คู่นอนของเราคือคู่เล่นซ่อนหาใช่ปะ” ผมหันไปถามจงแด มันก็พยักหน้าหงึกหงัก เยส! ไอ้เลย์! กูจะนอนกับมึงงงงง >O<

                “อาลู่ นี่ชุดจ้ะ” ยอนเจ เพื่อนรุ่นเดียวกับผมเอาชุดเจ้าชายมาให้ ชุดหล่อเหมือนกันนะเนี่ย!

                “นี่ชุดคู่กับเจ้าหญิงนิทราจ้ะอาลู่ ^^” นางบอก ก่อนจะหันไปหยิบให้อีจงแด “ส่วนของจงแดก็ชุดนี้เลยจ้า เจ้าชาย คู่กับเมอร์เมดน้า” มันหยิบชุดมาก่อนที่จะพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ คือมันไม่ได้เป็นใบ้นะครับ -_-; แค่ขี้เกียจพูดเยอะ

                “กูแต่งตัวละ” ผมพูดก่อนที่จะลุกขึ้นแต่งตัว และเมื่อแต่งตัวเสร็จก็หันไปมองหน้าไอ้จงแด ซึ่งกำลังชูนิ้วโป้งให้ผม แปลว่ากูหล่องั้นสิ? ดีมาก 55555

                “ฝั่ง Prince เริ่มหาได้แล้วจ้า” เสียงสต๊าฟคนหนึ่งประกาศ แต่ก็มีผู้หญิงกลุ่มใหญ่วิ่งเข้ามาหาผม

                “อาลู่ >< น่ารักอ่ะ ขอถ่ายรูปหน่อยสิ” 

                “อาลู่! ถ่ายกับเค้าด้วยยยย”

                “อาลู่~

                ผมได้แต่ยิ้มแล้วมองกล้อง นี่กูหล่อมากใช่ไหม? ปลื้ม~

                พลั่ก!
                แล้วจู่ๆ ผู้หญิงสองสามคนก็ล้มลงกับพื้นเหมือนมีใครมาผลักให้ล้มลง

                “หลบบบบบบบบ! นี่พี่ลู่หานของชั้นนนนนน!” เสียงแหบพร่าราวกับผู้ชายดังขึ้น ผู้หญิงเหล่านั้นเลยหลีกทางให้ ทำให้ผมเห็นผู้หญิง ไม่สิ... ผู้ชายใส่วิก สูงประมาณ 180 cm. แหวกทางเข้ามาอย่างเริ่ดเชิด

                “หน้าคุ้นๆ นะ” เสียงพวกผู้หญิงกระซิบกัน อืม... กูก็ว่างั้น

                นะ... นี่มัน!
                โอ เซ ฮุน O[]O!!!

                “พี่ลู่หานของชั้นนนน พวกหล่อนมาทำอะไร เดี๋ยวแม่เอาขนหน้าแข้งโรยใส่ปาก เดี๊ยะๆๆ” ไอ้เซฮุนพล่ามไม่หยุดด้วยเสียงทุ้มๆ แต่พยายามบีบให้เล็กซะน่ากลัว ดูยังไงมันก็กะเทยควายชัดๆ อ่ะ =[]=!!

                “ไปละจ้าๆ ^O^;” และพวกผู้หญิงก็ถอยห่างออกไปแต่โดยดี ไอ้เซฮุนเห็นดังนั้นก็หันหน้ามาหาผมทันที

                “พี่-หลบ-หน้า-ผม”

                “เออ”

                “ผม-หงุด-หงิด-มาก”

                “เออออออ หลบทางเลยมึง กูจะไปหาคู่กู” ผมพูดและพยายามเขี่ยมันให้ออกไปพ้นทาง แต่มันก็พูดลอยๆ ขึ้นมาว่า

                “เฮ้อออ เดี๋ยวก็รู้เองแล๊ะะะะะ~” แล้วมันก็วิ่งออกจากหอประชุมพร้อมโปรยจูบให้หนึ่งที -O-; ผมพยายามไม่สนใจกับคำพูดมัน รีบออกตัวหาไอ้เลย์ทันที แต่ระหว่างทางผมก็เจอไอ้ชานยอลกำลังแตะผนังอยู่ -_-; น่าสงสารฉิบ 5555555

                “ไง ชานยอลน้องพี่”

                “อ้าว เอ่อ... พี่ลู่!” มันไม่ได้มองตาผมด้วยซ้ำ -O- กูว่ารายนี้อาการหนักละ ผมหยิบใบรายชื่อแหล่งซ่อนขึ้นมา แหงล่ะ ผมมีแค่ใบแหล่งซ่อน แต่ใบคู่นอนผมไม่มี    -_-^ ก่อนจะหาชื่อแบคฮยอนแต่ก็หาไม่เจอ

                “มึง ไม่เห็นมีชื่อแบคฮยอนเลย”

                “พี่ต้องหาคนชื่อไคครับ ตอนนี้แบคฮยอนเค้าชื่อไค” มันแนะนำมา เมื่อผมหานิดหน่อยก็เจอชื่อไค -> กลางป่า ใต้ต้นไทร อ่ะหืม -_-; คู่นี้น่าสงสารจริงๆ 

                “เอ่อ... กูใบ้ให้ว่ากลางป่า ใต้ต้นไทร ไปหาเองละกัน สู้ๆ นะไอ้น้อง ฮ่าๆๆ” ผมจากมันมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะเดินผ่านผู้ชายสองคนไป

                “เออมึง... กูว่านะ...” เอ๊ะ! เสียงคุ้นๆ!! พอหันไปมองก็...

                เหี้ยเลย์!!

                “ไอ้เหี้ยเลย์! ทำไมมึงไม่ซ่อนตัววะ กูกำลังจะไปหามึงเนี่ย!” ผมทักขึ้น มันมองหน้าผมงงๆ ก่อนที่จะชี้ไปที่ผู้ชายข้างๆ... ไอ้แป๊ะจงแด O_O!!

                “กูคู่ไอ้ห่านี่ มึงอย่ามามั่ว” มันพูดแบบง่วงๆ

                “หาาาาาา -O- แล้วกูคู่ใครฟระ!?” ผมร้องลั่น ไอ้เลย์ (สภาพเมอร์เมด) หยิบกระดาษออกมาจากเกาะอกอย่างเซ็งๆ แล้วหาชื่อผมก่อนที่จะพูดขึ้น     

                “ใครวะ โอเซฮุน”

                อะ
                ไร
                นะ

                “เลย์ กูขอร้องให้มึงอ่านชื่อใหม่อีกครั้ง มันไม่ใช่คิมจงแดหรือจางอี้ชิงอะไรอย่างงี้เรอะ?”

                “โอยอีเหี้ยนี่ โอ-เซ-ฮุน ไปหามันไป๊ๆ” แล้วไอ้เลย์กับไอ้จงแดก็เดินหายไปกับสายหมอก แต่ผมไม่ยอมแบบนี้หรอกนะ!! ถึงผมจะนอนคู่กับมัน แต่ผมก็จะไม่หามัน   -^-!! ผมก็เลยเดินกลับหอประชุมใหญ่ทันที โดยไปนั่งหามุมเงียบๆ คนเดียว 

                คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ

                ไอ้ไคกับโด้ก็มากันแล้ว มาแบบสภาพจะทะเลาะกันตายห่า
                ซักพักไอ้ชานยอลกับแบคฮยอนก็เข้ามา สภาพแบคฮยอนที่จูงชานยอลเข้ามานี่น่ารักเฟ่อๆ ><

                “อีกสองนาทีหมดเวลานะค้า อย่าลืมโทษนะจ๊ะ >< ใครหาคู่ไม่เจอนอนริมทะเลกับคู่ตัวเองงงง” เสียงสต๊าฟประกาศขึ้น       

                อะไรนะ TTOTT?
                เมื่อได้ยินแบบนั้นผมก็ไม่รอช้า กูต้องรีบละ ไอ้เหี้ยเซฮุนมึงอยู่หนใดดด TOT?

                พลันสายตาผมก็ไปเจอกล่องโลหะที่ยังไม่ได้เปิด 

                มึงแน่ๆ เหี้ยเซฮุน!

                ผมรีบไขกุญแจออกอย่างลนลาน และเมื่อเปิดออกมา...

                ก็เห็นภาพอีตุ๊ดนางนึง นั่งเล่นปลูกผักในไอโฟนอย่างสบายใจเฉิบๆ

                “อ้าว พี่มารับผมแล้วหรอ มาๆ เชิญนั่ง” มันเก็บมือถือก่อนที่จะเขยิบตูดให้ผมเข้าไปนั่งข้างใน คือมึงเข้าใจวิธีการเล่นเกมไหมมมมม? จะให้กูนั่งในนั้นทำม๊ายยยยย

                “มึงลุกดิไอ้เหี้ยนี่ T^T กูจะร้องไห้อยู่แล้วนะ เราต้องรีบไปที่หอประชุมใหญ่เฟ่ยยยยย จะให้กูมานั่งในนี้ทำส้นอะไรวะ!” ผมดึงตัวมันขึ้นมาจากในกล่อง เป็นจังหวะเดียวกับที่...

                “หมดเวลาจ้าาาาา” เสียงดังมาจากในหอประชุมใหญ่ “ลู่หาน-โอเซฮุน คู่นี้อยู่ไหนเอ่ยยยย? มีคู่เดียวเลยน้า ไม่ต้องหนีไปไหน กลับมาที่หอประชุมด่วน~” 

                เหี้ยยยยยยย! ประจานเหี้ยๆ T^T

                “ฮ่าๆๆๆๆ สนุกอ่ะ” มันหัวเราะเสียงดังก่อนที่จะทำตัวร่าเริงสุดๆ แล้วก็จูงมือผมวิ่งไปที่หอประชุมอย่างน่ารัก แต่ตอนนี้ตัวผมไม่เหลืออะไรละ -_-; 

                เมื่อเราเดินเข้าไป ก็ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในหอประชุม ผมไม่รู้อะไรแล้วตอนนี้ T^T       
                



                “ยุงกัดป่าว” เสียงไอ้โอเซฮุนพูดขึ้น ขณะนี้เรากำลังนั่งอยู่กลางชายหาดครับ นอนบนทรายของแท้เลยจริงๆ ไม่มีเสื่อ ไม่มีฟูก มีแค่ผ้าห่มกับเสื้อกันหนาวเท่านั้น T^T

                “ไม่กัด กูหนาว” ผมตอบก่อนที่จะนั่งกอดเข่า 

                “อ่ะ” มันถอดเสื้อกันหนาวของมันมาให้ผม ผมหรี่ตามองเสื้อกันหนาวมันอย่างระแวง

                “ไม่ต้องมาทำตัวสุภาพบุรุษ กูไม่ต้องการ”

                “เออ งั้นก็ไม่ต้องเอา” มันพูดก่อนจะตั้งท่าใส่กลับคืน แต่ความหนาวชนะศักดิ์ศรีครับ T^T ผมก็เลยกระชากเสื้อกันหนาวมันมาใส่ซะเลย

                “อย่าแอบดมกลิ่นตัวเค้าบนเสื้อนะ” มันกระซิบข้างหูผม 

                “อี๋ อีห่านี่ กูไม่ดมหรอก อ้วกแตกตายพอดี”

                “แล้วนี่จะไม่นอนใช่ปะ จะนั่งกอดเข่าอย่างงี้ถึงเช้า?” มันหันมาถาม

                “เออ! กูจะไม่นอน!” ผมประกาศลั่น มันก็เลยนั่งกอดเข่าข้างๆ ผม 

                และมันก็เงียบลง...
                บรรยากาศเริ่มนำพา... ให้ผมหลับ...


                “ว่าแล้ววววว” เสียงคนพูดขึ้นข้างหูผม ก่อนที่ตัวผมเองจะถูกจับให้นอนลงกับพื้นทราย ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ยังมีหมอนแข็งๆ เรียวๆ อยู่ดี... 

                ผมปรือตาขึ้นนิดหน่อย เพราะอยากรู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนอะไร     

                ต้นแขนไอ้เซฮุน...

                ผมตะแคงข้างมาทหามัน ก่อนที่จะคู้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดนั้น มือหนาลูบหัวผมอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่ผมจะหลับลึก... ก็ได้ยินเสียงมันกระซิบเบาๆ 

                “ราตรีสวัสดิ์ครับ” 

                พร้อมฝังริมฝีปากลงบนหน้าผากผมอย่างแผ่วเบา

                อืม... วันนี้กูง่วงมาก
                ฝาก... ไว้ก่อนเหอะมึง ZZzz

1 ความคิดเห็น:

  1. ไคไม่เอาค่ะ แก้แค้นอะรายยย จะลวนลามหนูโด้ก็พูดมาตรงๆซี่~555

    ตอบลบ