18
Give love a
try.
‘ชานยอลจ๊ะ อันนี้ม๊าให้นะ ^__^’ เสียงของผู้เป็นแม่ดังขึ้น
ชานยอลให้ไปตามเสียงเรียกก่อนที่จะเห็นตุ๊กตาหมี Teddy Bear ของแท้ขนาดเท่าคนจริง
เด็กน้อยยิ้มออกมาอย่างร่าเริง
‘ขอบคุณฮับหม่าม๊า
ชานยอลจะเก็บไว้อย่างดีเลย >O<’ พลันสายตาเหลือบไปเห็นสีหน้าของ ลูกพี่ลูกน้อง
ที่เขารักมากที่สุด... คิมมินซอก
ซึ่งกำลังนั่งมองตุ๊กตาหมีด้วยสายตาที่ไม่ได้ริษยาอะไร
เพียงแต่อยากได้บ้างเท่านั้น
พี่มินซอกสนิทกับเรา...
เราควรจะให้พี่มินซอก
‘พี่มินซอก
ผมยกให้ฮับ’ เด็กน้อยชานยอลลากตุ๊กตาหมีไปให้มินซอกซึ่งกำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟา
แล้วมินซอกก็ได้กอดตุ๊กตาหมีนั้นสมใจ ความจริงพ่อแม่ของทั้งสองก็รวยไม่ต่างกัน
เพียงแต่มินซอกนั้นมีนิสัยอยู่อย่างหนึ่ง...
ชานยอลมีอะไร
เขาก็ต้องมีเหมือนชานยอล
และเมื่อชานยอลค้นพบนิสัยส่วนตัวของมินซอกได้ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ
เมื่อชานยอลมีอะไร เขาก็แทบจะยกให้หรือซื้ออีกอันหนึ่งมาเผื่อเสมอ
แต่
บยอนแบคฮยอน...
มีคนเดียวบนโลก
เขายกให้ไม่ได้โดยเด็ดขาด
แม้จะทำร่างโคลนนิ่งแบ่งไปให้พี่มินซอกก็ไม่ยอม
เพราะบยอนแบคฮยอนต้องมีคนเดียวเท่านั้น
“ชานยอล
แกกำลังทำอะไรอยู่” เมื่อเห็นว่าแบคฮยอนกลับไปนานแล้ว
แต่ชานยอลยังพิรี้พิไร นั่งกินซูชิกับปลาดิบอย่างกับเป็นบุฟเฟ่ต์ มินซอกจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็กินข้าวไงพี่”
“ไม่ใช่...” เขาส่ายหัว “เรื่องแบคฮยอนน่ะ อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกแกนะ”
“...”
“นิสัยบ้าบอของพี่น่ะ
พี่เลิกได้แล้วนะชานยอล”
มินซอกย้ำก่อนที่จะก้มหน้านิ่งด้วยความละอาย “เพราะฉะนั้น
แกไม่ต้องกังวลว่าพี่จะอยากได้แบคฮยอนหรอก”
“O_O”
ชานยอลเงยหน้าขึ้นจากจานด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าพี่มินซอกจะสัมผัสได้ว่าเขากำลังทำอะไรและไม่คาดคิดว่าพี่มินซอกจะแก้ไขนิสัยตัวเองแล้ว
“เฮ้อ
แต่แกก็พูดแรงไปนะชานยอล คนฟังเค้าไม่ทันตั้งตัว เค้าเลยงอนหนีกลับบ้านไปแล้วเนี่ย”
มินซอกพูดขึ้น
“ไม่หรอกครับ...
เค้าก็ไม่ได้คิดอะไรกับผมอยู่แล้ว”
ชานยอลยังคงก้มหน้าก้มตากินซูชิ
เขารับรู้มาตลอดว่าแบคฮยอนคือคนที่เขาชอบอยู่ฝ่ายเดียว
ไม่ใช่คนว่าชอบกันทั้งสองฝ่าย
“อะไรของแกชานยอล
พี่ดูยังไงแบคฮยอนเค้าก็ชอบแก แถมทั้งหึงทั้งหวงออกนอกหน้า -_-^” มินซอกพูดตามจริงที่เขาเห็น เพราะดูยังไง๊ยังไงแบคฮยอนก็แสดงออกเต็มที่
“พี่พูดอะไรของพี่เนี่ย
-O- แบคฮยอนเค้าเบื่อผมจะตายที่ผมคอยตามต้อยๆ ทุกวัน”
“แกนั่นแหละพูดอะไรของแก
=[]=! มีการกระแทกเสียงตรงคำว่าเพื่อน
แถมยังอวดแหวนคู่ด้วยนะ! แล้วไหนจะแอบถอดแหวนอีก” มินซอกพูดเป็นฉากๆ เพราะเขานั่งสังเกตตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“จ... จริงหรอพี่ O_O”
ชานยอลพูดตะกุกตะกัก เขาไม่ทันสังเกตแบคฮยอนเลยซักนิด
“อ้อ! พอดีแบคฮยอนเผลอ พี่ก็เลยหยิบมา” เมื่อพูดจบ
มินซอกก็หยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อ
“ว... แหวน O[]O!!
เอามาให้ผมนะ TOT”
เมื่อเห็นแหวนคู่ของแบคฮยอนอยู่ในมือลูกพี่ลูกน้อง ชานยอลก็ถึงกับงอแง
รีบแบมือไปเอาแหวน มินซอกยื่นให้อย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะหัวเราะลั่น
“ฮ่าๆๆๆ ชานยอลอ่า
พี่เข้าใจแล้วว่าทำไมแกถึงหวงนักหวงหนา ของทุกอย่างบนโลกใบนี้แกยกให้พี่ได้หมด
แต่คนนี้ไม่ยักจะยกให้แถมปิดเป็นความลับอีก หึหึ แสดงว่ารักจริงอะไรจริงนะเนี่ย ^_^”
“ก... ก็...” ชานยอลถึงกับไปไม่เป็นเมื่อมินซอกพูดตรงไปตรงมาซะขนาดนี้
“คนสำคัญขนาดนี้แล้วยังมัวแดกอีก!
รีบไปง้อเซ่!” มินซอกร้องลั่น
“แล้วพี่มินซอก...”
“เออน่ะ ช่างพี่เหอะ!
เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว แต่พี่ขอเรื่องเดียว...”
“...”
“ถ้าเจอหน้าแบคฮยอนแล้ว
เค้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เรื่องแหวนก็เลิกชอบซะ
แต่ถ้าเจอหน้ามึงแล้วเค้าพูดเรื่องแหวนทันที... ก็แปลว่าเค้าแคร์มึงมากเลยนะ”
“ครับ ^O^!! ผมไปก่อนนะ!” ชานยอลรับคำ
ก่อนที่จะรีบวิ่งออกมาโดยในมือของเขาก็กำแหวนเล็กๆ วงนั้นไว้แน่น
แล้วคิดว่าคนอย่างคุณชายปาร์คจะวิ่งไปงั้นหรอ? ลีมูซีนสิครั่บ...
**********
“เฮ้อออออออออออออออ” ผมลากเสียงยาวเมื่อเห็นแม่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่ในบ้าน
ผมเหวี่ยงกระเป๋าสะพายไว้ข้างโซฟาแล้วลงไปนั่งข้างๆ แม่อย่างแรง
“อะไรของเมิงงงง”
แม่ทักขึ้นอย่างเซ็งๆ เพราะทำให้แม่ต้องนั่งโยกเยกไปด้วย
“แม่...
แบคมีเรื่องจะถามแหละ” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
ชานยอลหาย
แหวนก็หาย
“ว่ามา”
“แม่อยากให้แบคเป็นแฟนกับชานยอลมั้ย”
ผมหันไปถามแม่อย่างจริงจัง
นางวางนิตยสารลงก่อนที่จะเท้าคางมองหน้าผม
“อยากสิ
เพราะชานยอลน่ารัก สุภาพเรียบร้อย รู้จักกาลเทศะ เวลาไหนควรอ้อนแม่
เวลาไหนควรอยู่เงียบๆ ไม่เหมือนอีพวกชะนีเก่าของมึง
แต่ละคนนี่จะเอาส้นตีนวางบนหัวแม่ได้ละ -_-^” เหมือนแม่จะเกลียดแฟนเก่าหนูมากนะ
55555555
“งือ...” ผมตอบสั้นๆ ยิ่งทำให้แม่สนใจเข้าไปอีก
“อะไรอ่ะอะร๊ายยยยยย
ชานยอลขอแกเป็นแฟนหรอ >O<?”
“เปล่าอ่ะ แต่ว่า...”
ผมเงียบไปนิดหน่อย เพราะจมูกที่จู่ๆ
ก็แสบขึ้นมาและเหมือนตาผมจะเต็มไปด้วยน้ำแฮะ “แหวนหายอ่ะแม่
แหวน... แหวนที่ชานยอลซื้อให้ มันหายอ่ะแม่”
“...” แม่ผมไม่พูดอะไร
คงเป็นเพราะเห็นน้ำตาที่ไหลออกมา บ้าฉิบ...
“ฮึก...
เพราะแบคเล่นตัวเยอะแยะ มันก็เลยหายไปแล้วอ่ะแม่ แล้วชานยอลก็เหมือนจะหายไปด้วยอ่ะ
ฮึก... แบค... แบคกลัวชานยอลหายไป” ผมร้องไห้เหมือนเด็กๆ
มือสองข้างนำมาปาดน้ำตาที่ไหลตลอดเวลา แม่ค่อยๆ
เขยิบเข้ามาใกล้ผมก่อนที่จะลูบหัวเบาๆ
“โอ๋...
แบคเป็นซุปเปอร์แมน แบคต้องไม่ร้องไห้นะคะ”
แม่พูดปลอบด้วยประโยคที่ปลอบผมเวลาร้องไห้มาตั้งแต่จำความได้ เมื่อได้ยินประโยคนี้ทีไรผมเป็นอันต้องหยุดร้องทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้...
“ฮึก... ฮืออออ
แม่จ๋า แหวนมันหายอ่ะแม่” ผมยังคงร้องไม่หยุด
แม่ยิ้มให้ผมบางๆ ก่อนที่จะพูดขึ้น
“เฮ้อ
สงสัยชานยอลจะกลายเป็นคริปโตไนท์ของซุปเปอร์แบคซะแล้วสิ ^_^”
“...”
“ไม่เอาไม่ร้อง
พอถึงเวลาเค้ามาจีบก็อย่าเล่นตัวสิ อยากได้ก็เอาเลย จะมัวเล่นตัวอะไรเยอะแยะ
คิดว่าชีวิตนี้จะมีคนเริ่ดๆ แบบนี้มาจีบร้อยคนรึไง” นี่สอนแล้วใช่มั้ย
T^T นี่คือสอนให้ลูกหาผัวใช่มั้ย
“แต่...
แบคเป็นเมะนะแม่ (._.)” น้ำตาเริ่มหยุดไหลเมื่อเริ่มอยากจะฮาประโยคที่แม่พึ่งพูด
“มึงอ่ะเคะ
ไม่ต้องเถียง” แม่ผมกลับไปเข้าโหมดแม่แบคจอมโหดอีกครั้ง
“หรอ...”
“ไปๆ
ไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้ว ดูซิ ตาบวมแล้วเนี่ย เอาแตงกวาในตู้เย็นไปแปะตาด้วยนะ
แล้วก็นอนเร็วๆ เดี๋ยวตาบวมหนักกว่าเดิม” แม่ไล่ให้ผมไปนอน
ผมจึงคว้ากระเป๋าสะพายใบนั้น เดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบแตงกวาที่ฝานสำหรับแปะตา
แล้วก็เดินขึ้นห้องนอนอย่างเหนื่อยอ่อน
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จ
ผมก็เอาแตงกวาแปะไว้บนตาตามคำสั่งของแม่ ในใจตอนนี้มันทั้งว้าวุ่นและสับสน
อยากจะไปหาแหวนที่บ้านชานยอล แต่ทิฐิเราก็มีน้อยซะที่ไหนล่ะ...
แกร๊ก...
“แม่หรอ” ผมพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาในห้อง
แต่คนที่เปิดเข้ามาก็ไม่ตอบกลับเดินเข้ามานั่งข้างเตียง เตียงยวบลงจนผมรู้สึกได้
“แบคฮยอนครับ...”
ช...
ชานยอล O[]O!!!!!!!
ย้อนกลับไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว...
“ใครมาอยู่หน้าบ้านวะ”
แม่แบคฮยอนพึมพำเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ว่ามีคนมายืนอยู่หน้าบ้าน
(ไม่ได้มองนะ สัมผัสเอา5555) เมื่อเปิดประตูออกไปก็เจอชานยอล ว่าที่ลูกเขยกำลังยืนเดินไปเดินมา
เหมือนกำลังลังเลว่าจะเข้าบ้านดีมั้ย
“ชานยอลลูก >O<
มาหาแบคหรอ” นางทักว่าที่ลูกเขยอย่างอารมณ์ดี
ก่อนจะเปิดประตูรั้วให้ ชานยอลโค้งให้ก่อนที่จะยิ้มแห้งๆ
“ครับ ^^; ขอโทษที่มารบกวนกลางดึกครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก
ชานยอลมาก็ดี เหมือนแบคมันจะซึมๆ ไปเพราะเรานั่นแหละ ^^ เดี๋ยวนี้ชานยอลมีอิทธิพลต่อแบคมากเลยนะ”
แม่แบคฮยอนพูดยิ้มๆ ถึงลูกชายตัวเองจะร้องไห้
แต่ถ้าลูกชายร้องไห้เพราะไม่รู้ใจตัวเองนี่มันก็เป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งสำหรับคนเป็นแม่เหมือนกัน
“จริงหรอครับ O_O
งั้น... ผมขอเข้าไป...”
“ได้จ้า ><
อยู่ข้างบนแน่ะ ห้องไม่ได้ล็อคหรอก มันเป็นคนไม่ชอบล็อคห้องน่ะ” แม่แบคฮยอนพูดก่อนที่จะเปิดทางให้ชานยอลได้เดินเข้าไปในบ้าน
ชานยอลเองก็รีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าไปในบ้านทันที
“อย่าลืมน้า! ทำอะไรกันก็อย่าส่งเสียงดังรบกวนแม่นะจ๊ะชานยอล >O<!!” แม่ตะโกนไล่หลังมา
ชานยอลหันกลับไปยิ้มให้แล้วรีบเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องใต้หลังคาของแบคฮยอนทันที
ไม่ได้ล็อคห้องจริงๆ
ด้วย...
“แม่หรอ” แบคฮยอนทักขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้อง
แต่ผู้มาใหม่ไม่ได้ตอบอะไร แอบอมยิ้มกับแตงกวาสองแผ่นบนหน้าแบคฮยอนด้วยซ้ำ
เขานั่งลงบนเตียงก่อนที่จะพูดขึ้น
“แบคฮยอนครับ...”
เพียงแค่ได้ยินเสียง...
เพียงแค่รู้ว่าใครมาหา
หัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะเสียแล้ว
“มึงมาทำไมวะ!!?” เจ้าของห้องลุกขึ้นมานั่งพลางเหวี่ยงแตงกวาบนตาทิ้ง
ทำให้เห็นชานยอลเต็มๆ ตา ความรู้สึกน้อยใจที่ชานยอลไม่สนใจตัวเองก็ผุดขึ้นมาในสมอง
เขานั่งกอดเข่าตัวเองก่อนที่จะจ้องหน้าชานยอล
“กูมีเรื่องจะบอกมึง”
เขาพูดเบาๆ
“ครับ?”
“กูทำแหวนมึงหาย...
แหวนที่มึงซื้อให้อ่ะ... มัน...” เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ
จมูกกลับมาแสบอีกครั้ง
และเมื่อรู้ว่าน้ำตากำลังก่อตัวขึ้นจึงรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
มือเรียวเล็กปิดหน้าตัวเองไว้เพราะอายที่ต้องให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้
ชานยอลยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ
คำพูดที่พี่มินซอกพูดไว้...
พี่มินซอกครับ...
แบคฮยอนเขาพูดถึงแหวนก่อน เขาพูดถึงแหวนด้วยครับพี่...
“แบคฮยอนครับ” ชานยอลเอ่ยปากพร้อมรอยยิ้ม
เขาจับคางแบคฮยอนให้หันกลับมาหาเขา
แบคฮยอนยอมหันมาหาก็จริงแต่มือเล็กสองข้างก็ยังปิดหน้าตัวเองอยู่
และเหมือนจะยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นมากขึ้น
“ฮึก... กูทำหาย
ทำแหวนหายไม่พอ... กูยังทำมึงหายด้วย”
“ผมไม่ได้หายไปไหนซักหน่อย
ร้องไห้ทำไมครับหืม” ชานยอลขยี้ผมแบค ฮยอนเบาๆ
“ฮึก...
กูร้องไห้เพราะเสียดายเพชรในแหวนหรอกนะเว่ย! กูไม่ได้เสียดายมึง
ไม่ได้เสียดายความผูกพัน! -^-” แบคฮยอนปาดน้ำตาทิ้งแบบเด็กๆ
พลางพูดด้วยสีหน้าที่เย่อหยิ่ง
“ฮ่าๆๆๆ
ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะครับ” ชานยอลขำให้กับคำแก้ตัวของแบคฮยอน
ก่อนยื่นหน้าเข้าไปหอมหน้าผากคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังตัวหอมสบู่สุดๆ
“ฮื่อออออ” แบคฮยอนเอามือลูกหน้าผากตนเองป้อยๆ ก่อนจะค้อนขวับ “มึงไม่ต้องมาทำแบบนี้เลย
เดี๋ยวพี่มินซอกโกรธเอานะ”
“เค้าจะโกรธผมทำไมครับในเมื่อเค้าเป็นลูกพี่ลูกน้องผม”
ชานยอลแอบขำกับความเข้าใจผิดของแบคฮยอนในใจ
ก่อนที่จะพูดความจริงออกมา
“ฮะ -0-?” แบคฮยอนถึงกับเลิกร้องไห้เมื่อได้ยินคำว่า ‘ลูกพี่ลูกน้อง’
ชานยอลจึงเล่าเรื่องนิสัยของมินซอกและเรื่องที่มินซอกจับสังเกตแบคฮยอนได้
และยังบอกอีกด้วยว่าคนที่มินซอกชอบคือผู้จัดการสาขาที่ญี่ปุ่นต่างหาก
“พี่มินซอกร้ายกาจมาก
T^T” แบคฮยอนพูดขึ้นเมื่อรู้ความจริงทั้งหมด
แน่นอนว่าเขาสบายใจไปหนึ่งเรื่อง
ชานยอลไม่หายไปไหนแล้ว
แต่แหวนยังหาย
T^T
“อืม... จะว่าไปแล้ว...” ชานยอลนิ่งคิดพลางหยิบบางอย่างในกระเป๋าเสื้อ
แหวนคู่...
“แหวน...” แบคฮยอนพึมพำออกมาเบาๆ ด้วยสีหน้าที่ตกใจอย่างมาก
เขารู้ว่าเขาถอดไว้ที่บ้านชานยอล แต่ไม่คิดว่าคนที่เอามาคืนจะเป็นชานยอล
“ใส่อีกครั้งนะครับ”
ชานยอลจับมือขวาแบคฮยอนไว้อย่างเบามือ
ก่อนที่จะเป็นคนใส่แหวนนั้นด้วยตัวเอง แบคฮยอนยิ้มบางก่อนที่จะจับมือชานยอลไว้แน่น
“อือ จะไม่ถอดอีกแล้ว
สัญญาด้วยเกียรติของซุปเปอร์แมน >O<”
แบคฮยอนตะเบ๊ะน่ารัก
เมื่อเรื่องสองเรื่องคลี่คลายลงก็ทำให้แบคฮยอนกลายเป็นแบคฮยอนคนเดิม
จนชานยอลอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มนิ่มเบาๆ
“ฮึ่ยยยยย น่ารักจังงงง
><”
“แง่งงงงง! อย่ามาหยิกแก้มกูนะเฟ่ยยยยย!” แบคฮยอนรีบปัดมือชานยอลออก
มือเรียวเล็กลูบแหวนวงนั้นอย่างเบามือ
ก่อนที่จะอมยิ้มที่เห็นแหวนนั้นกลับมาอยู่กับตัวเองเสียที
“แบคฮยอนครับ
เรามาเป็นแฟนกันเถอะ” ชานยอลพูดขึ้น
“ฮะ O[]O!!!? พ่องง ไม่อ๊าวว มึงไม่ต้องมาทำเหมือนไอ้เซฮุนเลยนะ!
แค่คู่นั้นกูก็เครียดพอละ แล้วกูก็ไม่ใช่เคะนะเว่ยยย กูเมะ ได้ยินมั้ย” แบคฮยอนรีบปฏิเสธ
“นะ” ชานยอลอ้อนง่ายๆ ด้วยคำพูดสั้นๆ คำเดียว
“ไม่เอาเว้ย!”
“(._.)”
“...”
“TT____TT”
“จิ๊! ก็ได้! แต่...” แบคฮยอนเหมือนจะยินยอม
แต่ก็ยังพูดขัด
“แต่อะไรครับ >O<
ผมรับได้หมดแหละ!” แค่เพียงได้ยินคำว่าก็ได้
ชานยอลก็แทบจะขึ้นไปบอกพระอินทร์บนสวรรค์ว่า เขาได้เป็นแฟนกับแบคฮยอนแล้วนะ!
“วันคู่กูเป็นเคะ วันคี่กูเป็นเมะ หึ ข้อเสนอนี้ยอมรับมั้ยจ๊ะ” แบคฮยอนทำหน้าเจ้าเล่ห์ ก็วันนี้มันวันที่ 19 เขาจะได้เป็นเมะสมใจอยาก!
“...”
ชานยอลเงียบไปพลางมองนาฬิกาบนผนังเหมือนกำลังคำนวณอะไรบางอย่าง
“ทำไม
แค่นี้ถึงกับคิดไม่ตกเลยไง๊? งั้นก็ไม่ต้องเป็น วะฮะฮ่าๆๆ”
แบคฮยอนหัวเราะสะใจ
“เปล่าครับ ผมโอเค ^O^ แค่นี้ผมก็ชื่นใจแล้ว” ชานยอลตอบพร้อมรอยยิ้มเดิมๆ
รอยยิ้มที่ทำให้แบคฮยอนน้อยคนนี้หวั่นไหวได้
“ถ้าอย่างนั้น...
หนูชานยอลมาซบอกพี่ซะ ฮ่าๆๆๆๆ” แบคฮยอนทุบเบาๆ ที่อกตัวเอง
ชานยอลจึงเข้ามาซบด้วยท่าทางที่เคะเต็มที่
“แบคฮยอน ฝากตัวด้วยนะ” แถมยังพูดแบบเคะอีกต่างหาก -O-!!
“แหม่! ของแบบนี้ มันได้อยู่แล้วจ้ะน้องชานยอล
วะฮะฮ่าๆๆๆ” ดูเหมือนแบคฮยอนจะยังชอบใจไม่เลิก ก็แหม...
ตอนแรกที่ไอ้ชานยอลมาจีบ มันบอกว่ายังไงๆ มันก็จะเป็นเมะ
แต่ไหงตอนจบกลายเป็นเคะน้อยง่ายๆ ขนาดนี้ O_O!
“แบคฮยอนจ๊ะ
เราลงไปดูหนังกันมั้ย”
ชานยอลค่อนข้างเกร็งมากกับการเป็นเคะในครั้งนี้ ทุกคำที่พูดนี่แทบอยากจะตีปากตัวเอง
แต่เขาก็ปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร เพราะเขาวางแผนร้ายเอาไว้แล้วน่ะสิ...
“หนังหรอ อือๆ ไปดูดิ”
แบคฮยอนตกลง ก่อนที่จะออกจากห้องนอนแล้วเดินลงไปข้างล่าง
แม่แบคฮยอนแกล้งทำเป็นดูละคร
แต่ความจริงแล้วนั่งรอว่าสองคนนี้จะจบลงอย่างไรต่างหาก
“ได้กันยัง” นางพูดขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้หันมามองหน้า
“ได้แล้วครับแม่ ^_^”
ชานยอลตอบยิ้มๆ
“จริงหรอ!” แม่ร้องลั่นด้วยความดีใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหน้าแบคฮยอน
“ไม่ได้ได้กันแบบนั้นนะแม่
-^-!!”
“งั้นก็...
ได้เป็นแฟนกันใช่มะ”
“งือ (._.)” แบคฮยอนเป็นคนตอบ ก่อนจะก้มหน้าอายๆ
“วรั๊ยยยยยยย
อีแบคคคค สุดท้ายแล้วมึงก็ต้องยอมเป็นเคะให้ชานยอลลูกเขยแม่จนได้”
“ต...
แต่แบคไม่ได้เป็นเคะ 100% นะแม่! เป็น 50% ฮ่าๆๆๆ” แบคฮยอนหัวเราะชอบใจก่อนที่จะเล่าข้อเสนอให้แม่ฟัง
แม่เองก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะบังเอิญไปเห็นสายตาของชานยอลที่ร้ายกาจ... เป็นสายตาที่อ่านได้ว่า
‘ไม่ต้องห่วงครับคุณแม่
แบคไม่รอดหรอกครับ อิอิ’
“เออออ ฮ่าๆๆๆๆ จะทำอะไรก็ทำเถอะแบค แม่ไปนอนดีกว่า บะบุยยย” แม่รีบเดินขึ้นห้องนอนไปเพื่อหลีกทางให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน
แบคฮยอนจึงหยิบหนังเรื่อง ‘Letter to Juliet’ ออกมาจากชั้นวางซีดีหนัง
ก่อนที่จะนั่งดูกัน ชานยอลดูหนังบ้างนิดหน่อย แต่สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือ...
นาฬิกา
“ฮ้าาาา~ จบแล้วววววว >O< เรื่องนี้น่ารักเนอะ
มึงเคยดูยัง” เมื่อหนังจบ
แบคฮยอนก็ลุกไปเก็บซีดีก่อนที่จะพูดขึ้น
“ยังครับ
ก็น่ารักดีนะ โรแมนติคดี แบคฮยอนอยากได้แบบนี้บ้างมั้ยครับ ฮ่าๆๆ” ชานยอลตอบอย่างอารมณ์ดี
เพราะเจ้านาฬิกาที่เขาเฝ้าเพียรจ้องได้ทำให้เขาสมความปรารถนาแล้ว
“ไม่อยากได้วุ้ย -_-^
กี่โมงแล้วเนี่ย” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาหลังจากเก็บซีดีเสร็จ
“เที่ยงคืนแล้วหรอเนี่ย พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย รีบนอนเหอะ”
“ครับ” ชานยอลตอบสั้นๆ ก่อนที่จะเดินตามแบคฮยอนขึ้นห้องนอนไป
และเมื่อประตูปิดลง...
“แบคฮยอนอ่า”
“อะไร
เรียกกูแบบนั้นทำไม” แบคฮยอนเริ่มขนลุกเมื่อได้ยินชานยอลเรียกแปลกๆ
“วันนี้
วันที่เท่าไหร่เอ่ยยยย?”
แบคฮยอนเองสัมผัสได้ว่าชานยอลเข้าโหมดเพลย์บอยอีกแล้ว แต่เขาก็ยังฝืนสู้
ก็วันนี้มันวันที่เขาเป็นเมะนี่!
“วันที่ 19! ไม่ต้องมาเพลย์บอยแดกเลยนะ
ออกจากร่างชานยอลเดี๋ยวนี้!” แบคฮยอนเดินเข้าไปเขย่าตัวชานยอล
โดยหารู้ไม่ว่ายิ่งเขย่าตัว ชานยอลก็ยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้น
“หรอครับ...
ไม่ใช่ว่าเป็นวันที่ 20 แล้วหรอ” ชานยอลยิ้มเจ้าเล่ห์ แน่นอน...
เขานั่งรอดูหนังโรแมนติคเอื่อยๆ อะไรนั่นมาสองชั่วโมงก็เพื่อรอให้วันที่ 20
เดินมาถึงเสียที
“ฮะ -0-? ย... ยี่สิบแล้วหรอ ” แบคฮยอนถึงกับชะงักไปเมื่อตัวเองเป็นฝ่ายถูกกอดแทน
“มึงวางแผนมาอย่างดีแล้วใช่มั้ยไอ้ชานยอลลล TOT”
“ก็ นิดนึงครับ อิอิ”
ชานยอลตอบยิ้มๆ ร่างเพลย์บอยออกจากตัวเขาไปแล้ว
แต่ถ้าเขาเป็นไอ้เอ๋อชานยอลเหมือนเดิมแล้วยังคงความเพลย์บอยได้อยู่นี่น่า
กลัวมากกว่ารึเปล่านะ...
“อื้อออ ปล่อยเลยย
กูง่วงงง”
แบคฮยอนรีบดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดที่หนาแน่น ชานยอลยอมปล่อยให้เป็นอิสระ
เพราะตัวเขาต้องยืนย่อเข่าเป็นเวลานานจนแอบเมื่อย
จึงรีบเดินไปหยิบเก้าอี้ตัวเดิมมาต่อที่ปลายเตียงแล้วล้มตัวลงนอน
“ไม่เห็นจะทำอะไรเลย
โด่วววว” แบคฮยอนท้าทาย โดยไม่รู้ถึงหายนะที่ชานยอลจะมอบให้
“ท้าผมหรอ” ชานยอลตะแคงมาหาแบคฮยอนก่อนที่จะจับตัวไว้แน่น
“ม...
ไม่ได้ท้าเว่ยยยยยยย TOT” แบคฮยอนเริ่มเจอลางร้าย
แต่ชานยอลก็ไม่สนใจ เขาจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากของแบคฮยอนก่อนจะเลื่อนลงมาสู่คอขาว
กดเน้นลงไปจนเกิดเป็นรอยแดง
“หึ...” ชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆ
“เหี้ยยยยยยยย
ทำอะไรของมึงอ๊ะะะะ O / / O ฮืออออออ” แบคฮยอนร้องลั่นเมื่อถูกทำให้เสียวซ่าน
เขารีบคว้ากระจกเล็กๆ ที่อยู่บนโต๊ะหัวนอนก่อนจะส่องมาที่คอตัวเอง
คิส
มาร์ค
เต็มๆ
“ปาร์คชานยอลลลลลลลลลลลลลลลลล!!!!”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น