วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 10 3310.




10

3310.



สองอาทิตย์ผ่านไป

                ขณะที่ผมกำลังก้าวเท้าเข้าไปในคณะเพื่อไปหาเพื่อนที่นั่งรอกันอยู่ที่โต๊ะ 

                ครืด... ครืด...
                โทรศัพท์สั่น

                “ว่า?” ผมรับโทรศัพท์อย่างขี้เกียจก่อนที่จะยังไม่เดินเข้าไปที่โต๊ะ ผมรู้ตัวดีว่าสามอาทิตย์ที่ผมเคยขอไว้ ได้จบลงมาอาทิตย์นึงแล้ว

                (สามอาทิตย์แล้วนะครับพี่ ทำไมพี่ไม่โทรมาหาผมซักทีล่ะครับ นี่พี่ต้องให้ผมเป็นฝ่ายโทรเองใช่มั้ย พี่ลืมผมแล้วหรอ พี่เบื่อผมแล้วสินะ) ปลายสายพูดไม่หยุดจนผมต้องเอามือถือออกห่างจากหูและเมื่อเห็นว่าเงียบไปแล้วจึงพูดต่อ

                “พี่เหนื่อยๆ น่ะ ไปค่ายแล้วมันปวดเนื้อปวดตัว” ผมตอบอย่างเนือยๆ 

                (พี่ปวดตัวเป็นอาทิตย์เลยหรอครับ นี่พี่เบื่อผมแล้วใช่มั้ย ตอบผมสิ พี่เบื่อผมแล้วใช่มั้ย) 
                “...”
                (พี่ไค...)

                “อือ” ผมตอบอย่างงัวเงีย “แค่นี้นะ”

                (ไม่ครับพี่ไค) ปลายสายยังไม่ยอมวาง (พี่มีคนใหม่ใช่มั้ย)

                “ก็ไม่เชิงหรอก” ผมพูดก่อนที่จะมองไปที่โต๊ะที่แก๊งค์หลังห้องของผมนั่งกันอยู่

                เพื่อนเก่าเพื่อนแก่คนหนึ่งที่ผมชอบมองมันเวลามันหลับเสมอ
                ตอนนี้กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข ฮึ... หัวเราะเรื่องอะไรอยู่นะ...

                (พี่ไคอธิบายผมมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนๆ นั้นมันเป็นใคร มันมาตีสนิทพี่หรอ)

                “เปล่า” ผมตอบยิ้มๆ เพราะยังคงยิ้มค้างกับภาพนั้น “พี่ตีสนิทเค้าเอง”

                (นี่พี่นอกใจผมหรอเนี่ย เฮอะ! บ้าชะมัด! แล้วนี่ไปถึงขั้นไหนแล้วล่ะ?)

                “ก็ไม่ถึงไหนร้อก พี่ต่างหากเป็นฝ่ายแอบมอง” ผมตอบไปตามความเป็นจริง หัวใจแอบตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเล็กน้อย

                (เฮอะ! ไม่รู้ล่ะ! ผมไม่มีวันปล่อยพี่ไปแน่ ถ้าพี่กับคนนั้นเป็นแฟนกันเมื่อไหร่ต้องนัดมาเจอกับผม ถ้าคนนั้นเหมาะสมพอ ผมก็จะยอมเลิกกับพี่!) ปลายสายดูเอาแต่ใจ ผมจึงทำได้แค่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

                “เฮ้อออออ... แทมิน ฟังดีๆ นะ พี่จะพูดครั้งเดียวเท่านั้น”
                (...)
                “ไม่ต้องโทรมาเบอร์นี้อีกแล้ว เพราะพี่เปลี่ยนเบอร์ทุกครั้งที่เลิกกับแฟน แต่พี่จะเมมเบอร์แทมินไว้นะ ถ้าถึงเวลานั้นเมื่อไหร่พี่จะโทรนัดแทมินเอง” ผมวางสายทิ้งก่อนจะปิดเครื่องทันที 

                เอาล่ะ... กูควรหันมามองคนใกล้ตัวซักที

**********

                ผมแบคฮยอนครับ...

                คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดอะไรบางอย่างมั้ยครับ -_-?

                ตั้งแต่ที่ผมมานั่งที่โต๊ะ ไอ้ชานยอลยิ้มให้ผมก็จริง แต่มันก็หุบยิ้มอย่างรวดเร็วแล้วก็นั่งทำหน้าเครียดลุกลี้ลุกลนอยู่นานแล้วล่ะครับ

                ยิ่งไอ้ไคเดินเข้ามาสมทบ มันก็ยิ่งกลุ้มใจใหญ่ ถึงกับฟุบโต๊ะไปเลย
                อะไรของมันฟะะะะะะะ =[]=!!

                “นี่! สองอาทิตย์ที่ผ่านมากูแอบซุ่มหัดขับรถมาแหละ” ไอ้เซฮุนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าทุกคนมาครบ

                “เหยดดดดด ยี่ห้อไรวะ” ผมถามอย่างสนใจ

                “ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่โตโยต้า พรีอุสเอง” มันตอบหน้าตาย เดี๋ยวครับ... ใช้คำว่า เองหรอ ไอ้ห่านี่

                “จะหัดขับทำไมวะ” ไอ้โด้ถามขึ้น

                “กูจะได้ไปรับไปส่งพี่ลู่หานสุดน่ารักของกูทุกวันไงงงงง~ ฝันกูเป็นจริงละ” มันทำหน้าชื่นอกชื่นใจมาก (เพราะพี่ลู่หานไม่ได้อยู่ที่นี่ไง 555555)

                “ทุกคนครับ!” จู่ๆ ไอ้ชานยอลก็ตบโต๊ะแล้วก็ลุกขึ้นยืนพรวด “ผมขอความกรุณา (_ _)

                “กรุณาเหี้ยไร” ไอ้ไคถาม

                “ผมให้พวกคุณคนละหมื่นวอนนะครับ” มันแจกจ่ายเงินให้ทุกคนก่อนที่จะพูดต่อ “ไปหาอะไรกินกันเดี๋ยวนี้เลยครับ!

                “แล้วกูอ่ะ?” ผมถามขึ้น เพราะผมไม่ได้หมื่นวอนน่ะเสะ!

                “แบคฮยอนไม่ต้องครับ ส่วนคนอื่น ผมขอร้องครับ... ได้โปรดไปหาอะไรกินกันเดี๋ยวนี้เถอะ T^T” พอมันพูดจบ ไอ้สามหน่อนั่นก็เริ่มจะเข้าใจเลยลุกไปหาอะไรกินตามคำสั่ง

                “เฮ้ออออออออออ~ กว่าจะไปกัน นี่ผมคิดแทบตายเลยนะว่าจะให้สามคนนั้นลุกจากโต๊ะนี้ยังไงดี” มันพึมพำ คือมึงคิดแล้วใช่มั้ย? การแจกเงินคนละหมื่นวอนให้ไปหาอะไรกินเนี่ยยยย!

                “กูก็เห็นมึงนั่งกลุ้มใจมานานละ มีไร” ผมเอาแขนทั้งสองข้างวางบนโต๊ะแล้วจ้องหน้ามัน

                “แฮะๆ ^^; แบคฮยอนก็เห็นหรอ” มันพูดก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบกล่องบางอย่างจากถุงกระดาษ... กล่องของขวัญ

                “วันเกิดกูเลยมานานละ” ผมยังคงจ้องหน้ามัน อยากรู้ว่าจะมาไม้ไหน

                “ผมรู้ครับว่าแบคฮยอนเกิดวันที่ 6 พฤษภา แต่อันนี้เป็นของขวัญ... เอ่อ...” มันเงียบไปนิดหน่อยก่อนที่จะเกาหัวแก้เขิน “ของขวัญที่เรารู้จักกันครับ”

                หืมมมมม... มันจะเป็นอะไรนะ

                “แกะเลยนะ >O<” เรื่องของฟรีแบคฮยอนไม่เคยพลาดดดดด! ชานยอลพยักหน้าหงึกๆ ผมจึงรีบแกะทันที

                และเมื่อเห็นของขวัญ...

                “แบคฮยอนอย่าเงียบสิครับ T^T อันนี้ผมประมูลมาแพงนะเนี่ย! ผมเห็นว่าหน้าจอไอโฟนแบคฮยอนแตกเป็นเสี่ยงๆ ขนาดนั้น ผมก็เลยคิดว่าแบคฮยอนต้องเป็นคนซุ่มซ่ามชอบทำมือถือตกแน่ๆ”
                “...”
                “อันนี้มันก็ทนดีนะครับ อึด ถึก ทน นาน!! เหมือนความรักที่ผมมีให้แบค ฮยอนไงล่ะ (._.)
                “...”
                “มีเกมงูด้วยนะ (._.)

                “คือ... มึงจะประมูลทำซากอะไร๊!!!? ตลาดนัดแถวบ้านกูขายเครื่องละพันวอนเนี่ยยยย!” ผมโวยวาย

                “ก็... อันนี้มันมือหนึ่งเลยน้า! ผมประมูลมาแพงนะแบคฮยอน T^T

                “ไอ้ Nokia 3310 มันจะประมูลกันทำแป๊ะอะไรไม่ทราบวะ! มึงมาซื้อแถวบ้านกูดิโหยยยย! วางขายกันเกลื่อนอ่ะ!” ผมยังคงโวยวายต่อไป

                “แบคฮยอนไม่ชอบหรอครับ T^T” เราสบตากัน... สายตามันเหมือนจะร้องไห้อยู่ละ

                ไอ้ชอบน่ะ ชอบมากเลยนะ แต่แม่งจะไปประมูลหาซากอะไรวะ
                ไงดีล่ะเนี่ย...           

                “คิก ^O^” ผมหลุดหัวเราะออกมา “แค่ไม่ชอบที่มึงโง่ไปซื้อของแพงแค่นั้นเอง”
                “...”
                “ชอบสิ ชอบมากเลย กูจะใช้ทุกวันเลย ^____^!!” ผมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และสายตาของชานยอลก็เปลี่ยนไป

                “แบคฮยอน...”
                “หืม?”
                “อย่ายิ้มแบบนี้ให้ใครเห็นนะครับ...” 

                “- / / -”

                “ให้ผมเห็นคนเดียวก็พอ”

**********


                ในขณะที่ผมกำลังนั่งเรียนอยู่ในห้องจดเลกเชอร์ 

                “เฮ้ยเลี่ยวลู่” ไอ้เลย์สะกิดก่อนที่จะชี้ออกไปนอกห้อง “หนูน้อยโอเซฮุนมายืนรอหน้าห้องแล้วว่ะ กร๊ากๆ” 

                ผมเลยหันไปมองตามที่มันชี้
                อ่ะหือ... ยืนเก๊กหน้าเข้ม เหม่อมองออกไปไกลแสนไกล หล่อจ้ะหล่ออออ 

                “โอเคคค วันนี้เลิกได้จ้า ^_^” เมื่ออาจารย์ประกาศผมก็รีบเก็บของทันที

                “แฟนหรอ” ไอ้จงแดหันมาถาม ดูมัน พูดมากกว่านี้กูก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ

                “ไม่ใช่เว่ย!” ผมหันไปตอบก่อนจะรีบเดินออกไป ไม่ใช่ว่าอยากเจอหรอกนะ... แต่กลัวเพื่อนร่วมห้องออกมาเจอกันมากเข้าแล้วมันจะตกเป็นประเด็นอีก

                “มานี่เลยยยยย มายืนทำตัวเด่นอะไรตรงนี้เนี่ยมึง” ผมลากมันไปที่อื่นที่เพื่อนเค้าไม่ค่อยเดินกัน 

                “มารับกลับบ้านคร้าบบบบ”

                “หรา เลี้ยงแท็กซี่กูด้วยแล้วกัน” ผมตอบส่งๆ แล้วก็เดินตามมันไปเรื่อยๆ แต่เอ๊ะ! นี่มันไม่ใช่ทางออกนอกมหาลัยนี่นา แต่มันเป็นทางที่เดินไปที่ลานจอดรถ

                ปิ๊บ!
                มันกดรีโมทรถ

                เดี๋ยววววว! รถหรอออออ O[]O!!

                “เฮ้ย นี่มึงมีรถหรอเนี่ย!” ผมร้องลั่น เมื่อมันพาผมเดินไปที่รถโตโยต้าคันใหม่

                “แน่นอนนนน! สองอาทิตย์ที่ผ่านมาผมแอบไปหัดขับรถมาเพื่อพี่ลู่หานเลยนะ >O< ขึ้นรถๆ” มันเปิดประตูให้ผม ผมก้าวกล้าๆ กลัวๆ เข้าไปในรถ โหยยยยย กลิ่นเบาะยังใหม่อยู่เลยอ่ะ =O=!!

                “มึงจำทางไปบ้านกูได้หรอ” ผมหันไปถามเมื่อเห็นว่ามันขึ้นรถมาแล้ว และกำลังสตาร์ทเครื่อง

                “อื้ม วันที่ไปบ้านชานยอลนี่ผมนั่งจำซะสมองจะแตก” มันตอบ ผมจึงคาดซีทเบลท์ก่อนที่จะหันไปทางมัน เห็นว่ามันยังไม่ได้คาด

                “คาดซีทเบลท์ด้วย”

                “ไม่เอาอ่ะ อึดอัด”

                “นี่! แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง คาดเดี๋ยวนี้!” ผมสั่งในขณะที่รถเริ่มออกตัวช้าๆ

                “คาดให้หน่อย” มันพูดหน้านิ่ง ด้วยความไม่ได้เอะใจอะไรผมจึงโน้มตัวไปหยิบซีทเบลท์โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าหน้าของเราตอนนี้ใกล้กันมากขนาดไหน...

                มันยื่นแก้มเข้ามาใกล้ปากผม แต่ผมรู้ทัน เอามืออีกข้างดันหัวมันไว้

                “ไม่ต้องเลย มึงไม่ต้องคาดละซีทบ๊งซีลเบลท์เนี่ย แกล้งกูตลอด” ผมงอนขึ้นมาทันที มันหัวเราะลั่นก่อนที่จะลูบแก้มตัวเอง

                “อดเลยเรา ฮิฮิ” แล้วมันก็หยิบซีทเบลท์มาคาดหน้าตาเฉย หนอยย! ที่แท้ก็หลอกกู!
 
               
                ในระหว่างทาง ผมไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพราะเกร็งกับรถใหม่ของมันและกลัวว่ามันจะพาเข้าผิดซอย ไปเข้าซอยบ้านมันขึ้นมาจะทำยังไง -_-; แต่สุดท้ายแล้วมันก็พามาถูกอย่างน่าเหลือเชื่อ

                “พี่ลู่ ผมขออะไรอย่างได้มั้ย” มันพูดขึ้นขณะที่กำลังเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้านของผมกับชานยอล
                “ไร” 

                “ผมขอมารับมาส่งพี่ทุกวันเลยได้ปะ”
                “...”
                “นะ” เมื่อพูดคำว่า นะ เสร็จก็หันมาหาผม ทำสายตาวิงวอนเสียจนน่าฟัด  (?)

                “เซฮุนอ่า” ผมขยี้หัวมันก่อนที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ เซฮุน”

                “พี่เรียกผมซะเพราะแล้วยังมาขยี้หัวผมอีก นี่ผมเขินนะเห้ย! ตอบเลย!” มันเร่ง ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างที่เหลือจับหูตัวเอง เพราะตอนนี้มันแดงมากแล้วน่ะสิ

                “ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะหนักกว่าเดิม จนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านผม

                “ห้ามลงงง! ตอบก่อน!” มันสั่ง ผมจึงเปิดประตูรถก่อนที่จะพูดขึ้น

                “ขอบคุณที่มาส่งนะ ^^
                “...”
                “กูเริ่มเรียนเก้าโมง เลิกบ่ายสอง ถ้ามาไม่ทันกูก็กลับเอง” ผมพูดก่อนที่จะรีบลงจากรถ เพราะสัมผัสได้ว่าตอนนี้หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ

                แต่ก่อนปิดประตูรถ ผมก็ได้ยินเสียงมันตะโกนลั่น...

                “เยสสสสสสสสส! ได้มารับแล้ววววววว!         

                ฮ่าๆๆ เด็กคนนี้นิ...
                นี่กูจะกินหญ้าอ่อนสินะ โนวววววววว - / / -

**********

                ผมแบคฮยอนครับ กำลังเล่นเกมงูเป็นครั้งแรกใน 3310 ของผม

                “อี๋” เสียงไอ้ไคดังขึ้นก่อนที่มันจะนั่งลงข้างๆ “แต่ก่อนแรดแบคแตะ 3310 ไม่ได้ มือพองงงง~ จะลงแดงร้องหามือถือหน้าจอสี เดี๋ยวนี้อะไรครับ นอกจากจะแตะแล้วยังเล่นเกมงูอีกด้วยยยย ใครให้มึงมา บอกกูเดี๋ยวนี้”

                “ไม่บอกเว่ย!” ผมตอบกลับ “มึงอย่าพูดมากดิ๊ไค นี่กูพึ่งเล่นครั้งแรก... เชี่ย! ตายห่าเลยยย! แต่ก็เอาวะ ได้ตั้ง 2856”

                แต้มสูงสุด
                1: 3264
                2: 2856

                “เหี้ยยยย! ไหนไอ้ชานยอลบอกว่าของมือหนึ่งไงงง! แล้วนี่แต้มใครวะห่า” ผมโวยวาย

                “น่ะ! สุดท้ายก็หลุดปากชื่อผัวออกมาจนได้ แหมมมม~ ถ้าไม่ใช่ผัวให้ แบคไม่ใช้นะคะ” ไอ้ไคแซวไม่หยุดปาก แต่ผมก็ไม่สนใจรีบค้นกล่องของขวัญ ก็เจอโพสอิท...


                แบคฮยอนครับ ^^ สุขสันต์วันเจอกันครั้งแรกครับ ในมือถือมีเบอร์ผมเป็นเบอร์แรก, ข้อความจากผมเป็นข้อความแรก แล้วก็สถิติเกมงูอันดับแรกของผมด้วย ลบสถิติผมให้ได้ละกันนะ ถ้าลบได้ผมจะให้หอมแก้มมมม~ อิอิ


                “กูไม่เล่นละะะะะะะ เดี๋ยวกูชนะแล้วต้องไปหอมแก้มมัน!” เมื่ออ่านจบผมก็วาง 3310 ทันที

                “โหยไอ้ห่า มึงคิดว่ามึงจะชนะแต้มมันได้หรอวะ 3264คะแนนนี่กูยังไม่เคยทำได้อ่ะ แม่งทำได้ไงวะห่า” ไอ้ไคบ่น เออก็จริงของมัน... ถ้างั้นกูจะเล่นต่อไปละกัน อย่างน้อยมันก็เพลินๆ มือดี
 
                “เออ เดี๋ยวกูมา ไปหาไรกินก่อน” ผมลุกออกจากโต๊ะก่อนที่จะไปหาของกิน โดยทิ้ง 3310 ไว้


                “ไอ้ชานยอลนี่ก็น้า ทำสถิติซะต่ำเลย คงจะอยากให้ไอ้แบคหอมตัวเองมากสิท่า ไม่เป็นไรนะไอ้กากแบค เทพเจ้าเกมงูอยู่นี่แล้ว เดี๋ยวกูทำ 5000 คะแนนให้มึงเลยดีมั้ย ฮ่าๆๆๆ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น