2
OH GOD! How beautiful HE is!
“เคะพ่องงงงงง!” ด้วยความปรี๊ดแตก แบคฮยอนก็ถึงกับลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง (ตามปกติที่มันชอบทำ)
คนแถวนั้นจึงมองมากันใหญ่เพราะประโยคที่ตะโกนมันไม่ธรรมดาอ่ะดิ๊~
“อะแฮ่ม…
แคะพ่อง! กูไม่ได้แคะขี้มูก สัส!” ด้วยความเขินอายจึงเปลี่ยนสระเอ เป็น สระแอ แทน -*-
แต่นั่นยิ่งทำให้ชานยอลฮาหนักไปอีก
“ฮ่าๆๆๆ ก็ได้ครับก็ได้
เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาเนอะ ^__^”
“ใช้เวลาหาเตี่ยมึงสิครับ
เรื่องแบบนี้มันถูกกำหนดมาจากเบื้องบนแล้วว่าใครมันจะเป็นฝ่ายไหนต่างหาก”
ว่าพลางตักต๊อกโบกกีเข้าปาก โดยไม่รู้เรื่องเลยว่ามีใครกำลังนินทาถึง...
“มึง...
กูไม่รู้ว่าไอ้หมาแบคมันบ้าหรือมันควายวะ มันบอกว่าไม่ชอบไอ้เอ๋อนั่น
แต่แม่งก็ยังนั่งร่วมโต๊ะได้ตั้งนาน”
เซฮุนผู้ยืนมองเหตุการณ์ตั้งแต่แรกแอบกระซิบกับไคเบาๆ
“เออมันบ้า แต่ก็ไม่แน่หรอก
มันอาจจะถูกใจไอ้เอ๋อนี่โดยไม่รู้ตัวแล้วก็ได้ ฮ่าๆๆๆ” เมื่อไค,
เซฮุนและคยองซูซื้ออาหารเสร็จก็รีบมานั่งที่โต๊ะทันที ไม่ใช่อะไร... อยากจะรู้ว่าไอ้สองคนนี้มันจะจีบกันอีกนานไหม
“ไอ้สัสชานยอล
กูบอกมึงแล้วว่ากูเป็นเมะไงวะ กูบอกมึงรอบที่ร้อยแล้วเนี่ย”
ประโยคแรกที่ได้ยินจากปากแบคฮยอนก็เกือบเอาทำขำกลิ้ง
เพื่อนเหี้ยทั้งสามไม่เข้าใจเลยว่า
คนที่ความอดทนน้อยอย่างแบคฮยอนทำไมถึงได้นั่งกับคนบ้าๆ บอๆ อย่างชานยอลได้นานขนาดนี้
“ผมก็จะพูดไปเรื่อยๆ อ่ะครับ
จนกว่าแบคฮยอนจะใจอ่อน ^^”
“พวกมึงจะจีบกันอีกนานมั้ยวะ?”
ไคถามด้วยน้ำเสียงขำๆ
“นานครับ
จะจีบจนกว่าแบคฮยอนจะเป็นเคะ” ชานยอลตอบยิ้มๆ
“โถ ไอ้หอยสังข์ชานยอล
ชาตินี้กูไม่มีวันจะเป็นเคะ และแม้ว่าจะต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้กูต้องเป็นเคะ
กูก็จะไม่เป็นให้มึง เข้าใจ๊?” แบคฮยอนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
เขาคงจะชินเสียแล้วที่จะต้องตอบชานยอลด้วยประโยคซ้ำๆ ซากๆ
“เออ
กูลืมบอกมึงว่ากูชื่อไค นี่ชื่อโด้หรือคยองซู แล้วไอ้ห่าหน้าหล่อนี่ก็ชื่อเซฮุน”
ไคแนะนำตัว ชานยอลมองทุกคนยิ้มๆ ก่อนจะเมมโมรี่ชื่อเพื่อนใหม่อย่างรวดเร็ว
“เอ่อ... ชานยอล ^^ กินข้าวด้วยได้ปะวะ?” จู่ๆ
บรรยากาศรอบโต๊ะก็พลันเงียบไปเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ
แต่ทำเป็นเข้มของบุคคลผู้มาใหม่ ตัวเล็กๆ
ที่มาพร้อมกับตากลมโตนั่นทำให้ทุกคนหยุดจับจ้องทันที
กูดูปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นเคะ!!
“อ้าว! พี่ลู่หาน! โหย
ทำไมเมื่อเช้าเราไม่มาพร้อมกันล่ะเนี่ย? นั่งเลยพี่ๆ นี่เพื่อนใหม่ผม”
ชานยอลต้อนรับเป็นอย่างดีแบบนี้ ยิ่งทำให้คนทั้งโต๊ะสงสัยหนักขึ้น
“สวัสดีทุกคน
พี่ชื่อเสี่ยวลู่หานนะ อยู่ปีสี่ คณะนิเทศ ^^” บุคคลผู้มาใหม่แนะนำตัวกับทุกคน ทุกคนจึงแนะนำชื่อตัวเองอีกครั้ง
“พี่เป็นอะไรกับไอ้ฟันเยอะหรอครับ?”
แบคฮยอนถาม
“แน่ะ อีแรดนี่
ปากบอกว่าเกลียดมันแต่เสือกซะจริง” ไคแซว
แต่พอคนอื่นได้ยินก็นึกขึ้นได้ว่าจริงของไอ้ไคมัน
“ฮ่าๆๆ แฟนมึงหรอวะชาน?
พอดีว่าพี่เป็นเพื่อนบ้านน่ะ เป็นคนจีนแต่ว่ามาเรียนที่นี่ตั้งแต่มัธยม
ก็เลยไปโรงเรียนพร้อมชานยอลมัน”
เนื่องด้วยความที่เป็นคนไม่ซีเรียสจึงมองว่าเพื่อนใหม่ชานยอลก็คือน้องๆ
คนใหม่ของเขาเอง ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจที่ได้รู้จัก แต่มีอยู่คนนึงเนี่ยสิ...
“แล้วพี่มานั่งด้วยทำไม?”
เซฮุนนั่นเอง เขาพูดด้วยประโยคที่ไม่มีคำหยาบแต่มันไม่มีความสุภาพเลยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้ทุกคนหันไปมองหน้ามันด้วยความตกใจ
แต่ลู่หานกลับพูดออกมาอย่างยิ้มแย้มหน้าตาเฉย
“ฮ่าๆๆ
พี่เห็นว่าวันนี้เป็นวันเรียนวันแรกของน้องข้างบ้าน
พี่ก็เลยอยากมาทำความรู้จักเพื่อนๆ มันน่ะ กินข้าวกันๆ เย้!” ลู่หานลงมือกินข้าวในจานตัวเองทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“มึงพูดแบบนั้นได้ไงไอ้ฮุน
ถ้าพี่เค้าไปแล้วกูจะเตะปากมึง” คยองซูกระซิบ
“ไม่ใช่อย่างนั้น!” เซฮุนร้องลั่น ทำเอาทุกคนตกใจอีกครั้งว่ามันจะปากหมาอะไรอีก “กูแค่ถามพี่เค้าว่าที่เค้ามานั่งด้วยน่ะเพราะสนใจกูรึเปล่า
แค่นั้นเอง”
เหวอหนักกว่าเดิมอีก ไอ้สัสฮุนนนน!!!
“เอ่อ... เซฮุนครับ
นี่พี่ข้างบ้านผมนะ ใจเย็นๆ ไว้ก่อน อย่าพึ่งเงี่ยน” ชานยอลหันมาบอกเซฮุน
“สัส กูยังไม่เงี่ยน แต่ดีละ
กูจะไปรับไปส่งมึงทุกวันเลย บ้านมึงอยู่ไหนบอกกูมาไอ้ชานยอล”
เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงเพลย์บอยสุดๆ ทำเอาลู่หานเฉหน้าไปอีกทางด้วยความอยากจะอ้วกแตก
“ไอ้โง่เซฮุน มึงมีรถไง๊สัส?”
ไคเตือนสติ เขาพึ่งจะอายุสิบแปดหมาดๆ
แต่เรื่องการหัดขับรถนี่ยังไม่ได้เริ่มหัดเลยด้วยซ้ำ
“เออน่ะ เดี๋ยวกูนั่งแท๊กซี่ไปส่ง”
เซฮุนยังคงตอบหน้าตาย
“เอ่อชานยอล
พี่ว่าพี่ไปก่อนดีกว่านะ ^^; เดี๋ยวจะเป็นการรบกวนเพื่อนมึงเปล่าๆ”
ลู่หานเตรียมลุกขึ้น แต่ก็ถูกเซฮุนจับข้อมือบางไว้ก่อน
“เดี๋ยว!
ผมไปด้วย ~_~” เซฮุนเก๊กหน้าเข้มก่อนจะลุกบ้าง
ทำเอาเพื่อนที่เหลือหน้าเหวอกันไปเป็นแถบๆ แม้กระทั่งลู่หานก็หันมาทำหน้าขอร้องทุกคนให้ช่วยเหลือ
‘ช่วยพี่ด้วยทู้กค๊นนนนนน’
เนื่องด้วยไม่อยากจะออกเสียง จึงทำได้ปากออกมาเป็นคำพูดได้แค่นี้
“เอ่อ ไอ้ฮุน พี่เค้ารีบน่ะ
มึงน่ะรีบมากินได้แล้ว” คยองซู (ผู้แสนดี)
รีบแกะมือเซฮุนออกจากข้อมือของลู่หานก่อนที่จะกดตัวมันให้ลงมานั่งตามเดิม แต่ ณ
ตอนนี้ อีนังโอเซฮุนกลับเป็นดั่งโคลงสอนใจของไทยที่กล่าวไว้ว่า...
ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง (เกี่ยวไหม?)
ก็โลดจากคอกไป บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง (เกี่ยวไหม?)
“สัสโด้ ปล่อยกู
ไปกันเถอะพี่ลู่หาน พี่กินอะไรเป็นอาหารหรอ ทำไมสวยขนาดนี้ พี่...”
แล้วมันก็คว้าข้อมือลู่หานไปเฉยๆ! แล้วก็เดินหายไปด้วยกันทั้งคู่โดยเซฮุนยิงคำถามใส่ลู่หานไม่หยุดหย่อนทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้ตอบซักคำถามเดียว
“นั่นไง เพราะมึงอีกละไอ้ฟันเยอะ
เพราะมึงรู้จักพี่ลู่หาน ทำให้พี่ลู่หานเดินมาโต๊ะนี้แล้วไอ้เซฮุนก็เลยชอบพี่เค้า”
แบคฮยอนได้ทีรีบด่าชานยอลก่อน
“ขอโทษครับ”
และนั่นก็ทำให้แบคฮยอนเซ็งตามเคย
ไม่ว่าจะด่ามันหรือโบ้ยความผิดอะไรมันก็จะขอโทษตลอด ไม่ได้คิดจะเถียงเล้ยยยยยย -_-;;
ตะดึ๊ง!
“...”
เสียงข้อความจากมือถือใครไม่รู้ แต่ทุกคนก็ยังคงไม่สนใจ
ตะดึ๊ง!
ตะดึ๊ง!
ตะดึ๊ง!
“ของใคร?”
คยองซูเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาถามด้วยความหงุดหงิด ไคจึงหยิบขึ้นมาดู จริงๆ
แล้วเขาก็รู้แหละว่าเป็นของเขา แต่ไม่คิดว่ามันจะดังต่อเนื่องขนาดนี้
“ใครวะ?”
แบคฮยอนถามด้วยความช่างเสือก
“กิ๊กใหม่กู 555” ไคตอบสีหน้ายิ้มแย้ม
ก่อนที่จะอ่านข้อความไปยิ้มไป
“สัส ไม่เคยจะเล่าอ่ะ”
แบคฮยอนพูดหน้างอนก่อนที่จะหันไปอีกทาง
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ ผมมาง้อแล้ว”
ชานยอลเอามือไปลูบที่คางของแบคฮยอนอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
“โถไอ้นี่ กูงอนไอ้จงอิน
ไม่ได้งอนมึงเว้ยยยยย!!”
หันไปด่าชานยอลก่อนที่จะไปสนใจไคต่อ “ไอ้สัสจงอิน ตกลงว่าใคร บอกกูมา”
“โห เรียกชื่อเต็มเลยหรอจ๊ะหมาแบค
บอกก็ได้ๆ รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าเราไง ชื่อลีแทมิน”
ไคตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน
“คนนี้จริงจังหรอวะ ยิ้มซะ”
แบคฮยอนยังคงถาม
“ก็ไม่เชิงหรอก
เค้าจริงจังกับกูก่อน กูก็เลยต้องจริงจังกลับ -_-^”
“เดี๋ยวนะ
ใช่ลีแทมินที่ชอบทำตัวแอ๊บแบ๊วไปวันๆ ปะวะ”
“โหย มึงก็พูดซะเค้าเสียเลย
น้องเค้าแค่ใสซื่อ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหอะ นี่เค้ายัง ซิงอยู่เลยนะ เค้าบอกว่ารอกูเป็นคนเปิด อิอิ”
ไคพูดก่อนที่จะก้มหน้ามองมือถืออีกครั้ง แล้วก็ลุกพรวดทันที
“ไปละ วันนี้น้องเค้าเลิกเที่ยง
เดี๋ยวกูไปรับก่อน” พูดจบก็ลุกไปทันทีโดยไม่ได้ฟังคำร่ำลาของเพื่อนเลยซักคน
“โด้
ลีแทมินนี่มันแรดมากเลยไม่ใช่หรอ? ทำไมไอ้ไคมันเอาเข้าไปได้วะ?”
เมื่อเพื่อนไม่อยู่ แบคฮยอนก็รีบถามคำถามที่อยากรู้ทันที
“เฮ้อ...
กูบอกไอ้ไคมาล้านรอบละว่าแทมินมันแรด มันไม่ได้ซิงอย่างที่เจ้าตัวบอก
แต่มันก็ไม่เชื่อกู” คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย
แต่ในใจเบื้องลึกของเขานั้น... เจ็บราวกับโดนมีดกรีดแทง
“ทำไงล่ะ ปล่อยมันไว้อย่างนี้หรอ?
กูไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ เคยคบกับคนอื่นก็ทำหน้าเซ็งๆ
แต่รอบนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส กูกลัวว่ามันจะโดนหลอกอ่ะดิ” แบคฮยอนทำสีหน้าเคร่งขรึม
“แปะๆๆๆ”
เสียงชานยอลปรบมือดังขึ้นแทรกบรรยากาศที่เคร่งเครียด ทำเอาแบคฮยอนต้องหันไปด่า
“มึงปรบมือทำไมไม่ทราบวะ
หัดดูบรรยากาศบ้างดิ๊”
“ก็แบคฮยอนพูดโคตรเท่เลยอ่ะครับ
ผมชอบ ♥”
ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้มและเหม่อลอยออกไปบนฟ้าไกลตามสเต็ปเด็กเอ๋อ
แบคฮยอนถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจกับความเอ๋อของชานยอล
ก่อนที่จะหันไปเครียดกับคยองซูต่อ
“มึงช่วยปรามๆ
มันหน่อยดิวะ”
“แบค
กูปรามมันจนกูจะโดนมันเกลียดอยู่แล้ว ปกติเราต้องนอนด้วยกันทุกคืน
แต่หนึ่งเดือนมานี่มันมานอนนับครั้งได้ กูเกือบจะ...”
คยองซูเงียบลงทันทีราวกับหลุดพูดอะไรออกมา
“เกือบจะอะไร?”
“เปล่า...
ก็แค่เกือบจะด่ามัน แต่กลัวมันด่ากลับแค่นั้นเอง” พูดไปสิคยองซู... ว่าเราเกือบจะร้องไห้ที่ต้องนอนคนเดียวแบบนั้น
ทำไมไม่พูดล่ะ
“เออแล้วไป...
อย่าไปด่ามันมากเลย คนมีความรักบังตาก็อย่างนี้แหละ เฮ้อ”
แบคฮยอนว่าพลางเขี่ยต๊อกโบกกีเล่น
เรื่องของไคทำให้เขาเครียดและเริ่มขี้เกียจจะเรียนวิชาตอนบ่ายเสียแล้ว
“โด้
กูกลับก่อนแล้วกันนะ มึงนั่งเรียนกับไอ้ฟันเยอะไปละกัน”
“อือ”
แบคฮยอนเองก็ไม่ได้สังเกตว่าคยองซูเงียบลงไปถนัดตา
เขาจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเมื่อยล้าและสะพายกระเป๋าใบเก่งออกไปจากโต๊ะ
“ไปด้วยยยยยย!” เสียงของไอ้เอ๋อจอมกวนประสาทดังขึ้น
พร้อมกับเกาะหลังแบคฮยอนอย่างน่ารัก
“มึงไปเรียนกับไอ้โด้มันดิวะ
เดี๋ยวมันเหงา กูอุตส่าห์ไว้ใจมึงนะชานยอล” แบคฮยอนตัดสินใจลองพูดประโยคน่ารักๆ
ใส่ชานยอล อยากรู้ว่าปฏิกิริยาตอบรับจะเป็นอย่างไร
“แบคฮยอนไว้ใจผมด้วยหรอ
O[]O!!? จริงอ่ะ!! จริงๆ
นะ” นั่นไง... กูว่าแล้วว่าไอ้ชานยอลมันต้องคล้อยตาม ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเล่นต่อ...
“เออดิ
กูไว้ใจมึง ไปเรียนกับมันเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ต้องหรอกแบค
กูเรียนคนเดียวได้ เดี๋ยวเซฮุนมันก็คงจะมาเรียนแหละ ชานยอล มึงไปกับแบคมันเหอะ”
แล้วคยองซูผู้แสนดีก็กลายเป็นสัสโด้ของแบคฮยอนอีกครั้ง -_-^ หลังจากได้ยินคำพูดของคยองซู
แบคฮยอนก็ชักสีหน้าทันที
“ก็ได้
ในเมื่อคยองซูขอมา ผมก็จัดให้ ไปกันเถอะครับแบคฮยอน”
ชานยอลดันหลังแบคฮยอนที่กำลังเซ็งเป็ดให้ออกตัวเดิน
และเมื่อทั้งคู่เดินออกไปไกลจนลับสายตาแล้ว คยองซูก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่...
จะทำยังไงดี? เขาจะทำยังไงกับรักครั้งนี้ดี
เพื่อนรัก
รักเพื่อน แบบนี้เนี่ย!!
มาพูดด้านลู่หานกันบ้าง...
เอาล่ะ ผมออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นรุ่นพี่... ที่ถึงแม้จะจน
กินแกลบไม่เว้นแต่ละวัน แต่หน้าตาผมก็น่ารักราวกับตุ๊กตาเท็ดดี้แบร์นะครับ เอาเถอะ
เห็นอย่างนี้ ผมก็เป็นผู้ชายทั้งแท่ง! มีบ้างที่ผมจะเผลอใจไปชอบผู้ชายด้วยกันเอง
- / / - แต่ผมไม่เคยโดนแบบนี้นี่หว่า -O-!!
“ตกลงว่าพี่กินอะไรเป็นอาหาร ผมถามพี่เป็นรอบที่ร้อยแล้วนะ” ไอ้โอเซฮุน
ผู้ชายหื่นกามข้างๆ ผมเนี่ย ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับมันเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว
มันก็เอาแต่ตั้งคำถามกวนประสาท+หื่นจิตตลอดเวลา
“กูกินข้าว”
“โถ
ขึ้นกูมึงอีกแล้วอ่ะ เดี๋ยวตีปากแตกเลยนะ ไม่ดีไม่เอา อย่าพูด ><” มันทำหน้าแอ๊บแบ๊วควีโยมี
ซึ่งมันคงคิดว่าจะทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็ไม่เลย! เพราะผมทำเก่งกว่าไง หึหึ
“โอ๊ย
กูจะไปเรียน อย่ามาเกาะกูแบบนี้ กลับไปเรียนได้แล้วมึงอ่ะ ไอ้ห่านี่” ผมพยายามทำตัวแมนให้มากที่สุด
ถึงมันจะหล่อ, ดูดี, เด็กกว่า (อันนี้สำคัญ) ซักแค่ไหน
แต่ผมก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างบ้ามากๆ ที่มันมารุกผมหนักขนาดนี้
“ยอมไปก็ได้
แต่วันนี้ต้องให้ผมไปส่งที่บ้าน” ดูมัน -*-
“ไปส่งก็ได้
แต่ต้องมีชานยอลไปด้วย” เอาไอ้ชานยอลเป็นไม้กันหมาไปก่อนเนี่ยแหละ ขอโทษนะมึง
“ถ้ามีชานยอลไปด้วย
ต้องมีแบคฮยอนไปด้วย” เอาเข้าไป นี่มึงกะจะให้ครบคู่แล้วมึงจะได้ลวนลามกูถนัดๆ
ใช่มั้ย
“ถ้ามีแบคฮยอนไปด้วย
ต้องมีไคกับคยองซูไปด้วย จบ!” ผมรีบตัดบทก่อนที่จะเดินเข้าห้องเลกเชอร์อย่างรวดเร็ว
เพื่อไม่ให้มันเข้ามา
“เรียนถึงกี่โมงอ่ะ!! บอกก่อนเด่ะ!!”
ยังจะอุตส่าห์ตะโกนเข้ามาในห้อง
“เรียนหนึ่งชั่วโมงจ้ะพ่อหนุ่ม”
อาจารย์ซึ่งกำลังยืนอยู่หน้าห้องพูดตอบมัน ผมขำด้วยความสะใจ คิดว่ามันจะอายบ้าง
ที่ไหนได้ กล่าวขอบคุณอย่างอารมณ์ดีแล้วก็เดินหายไป -*-
“ไอ้เสี่ยวลู่
มีคนมาจีบมึงหรอวะ 55555 ผู้ชายอีกละ สงสารมึงชิบหาย” เพื่อนผมเอง -*-
ชื่อเลย์ครับ แดกได้ อร่อยมาก เคยลองแล้ว เอ๊ยไม่ใช่! มันบอกเองว่ามันอร่อยมาก สาวๆ
ลองได้นะจ๊ะ
“เออดิ
เพื่อนใหม่ไอ้ชานยอลมัน วันนี้มึงกลับกับกูด้วยนะ ขอร้อง TT”
“ไม่”
แล้วมันก็ไม่สนใจอะไรผมอีกเลย ไอ้เลว! TOT
1 ชั่วโมงผ่านไป
หวังว่ามันคงจะไม่มาหรอกนะ...
“จ๊ะเอ๋! สาวสวยเลิกเรียนแล้วววว~ ไปกันเหอะ” ไอ้เซฮุนยืนดักรออยู่ข้างประตู
ผมซึ่งเปิดประตูเป็นคนแรกก็ต้องเจ๊อะกับมันพอดี
อ๊ะๆ! บอกก่อนนะ! ที่เปิดประตูเป็นคนแรก
ไม่ใช่ว่าผมรีบไปหามันนะ แต่จะรีบหนีต่างหาก!
“สาวสวยพ่อมึงสิคะ ไหนล่ะเพื่อนมึง ถ้าไม่มาครบทั้งแก๊งค์ กูไม่กลับ
อย่าลืม” ผมเตือนสติมัน เนื่องจากมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นใครเลย
“เออน่ะ
เดี๋ยวไปเจอกันที่หน้ามหาลัย รีบไปเหอะ”
มันกระชากข้อมือผมแล้วก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปทันที ไม่รู้ว่าเอาแรงควายมาจากไหนถึงกระชากผมได้แรงขนาดนี้!!พยายามบิดเท่าไหร่ก็ไม่หลุดด้วยสิ
“ไหนล่ะเพื่อนมึงงงงงง!” เมื่อมาหยุดที่หน้ามหาลัย
มันก็โบกแท็กซี่ทันทีและทำให้ผมต้องตะโกนประโยคข้างต้น
“บ้านพี่อยู่ไหน”
“กูไม่บอกกกกก”
เป็นจังหวะเดียวกับที่มันเปิดประตูรถและยัดผมเข้าไปนั่งด้านในอย่างรวดเร็ว
“ไปซองซูอพาร์ตเมนท์ครับ”
ห่ะ! มันจะพากูไปไหนวะเนี่ยยยยยย
เดี๋ยว... ซองซูอพาร์ตเมนท์
ที่เค้าว่าแพงและหรูที่สุดในเกาหลีอ่ะนะ O[]O!!!
“บ้านมึงอยู่นั่นหรอ?” ผมยังคงช็อคเล็กๆ นี่ผมจะได้ผัวรวยแล้วสินะ เอ๊ย!
คือยังไงล่ะ คือคนที่มาจีบผมมันรวยขนาดนี้เลยหรอเนี่ยยยย
“หึ
เดี๋ยวก็รู้” อั๊ยยยยย! มันจะทำให้ผมใจเต้นก็อีตรงคำว่าซองซูอพาร์ตเมนท์เนี่ยล้ะ~
ซักพักใหญ่
รถแท็กซี่ก็มาจอดตรงหน้าอพาร์ตเมนท์หรูสูงเสียดฟ้า ทำเอาผมใจสั่นระริกๆ เอาล่ะ...
ถ้ามันไม่มีอะไรกับผมวันนี้ ผมก็จะข่มขืนมันเอง 555555
“เอ่อ...
ห้องมึงอยู่ชั้นไหนวะ”
ผมสัมผัสได้ว่าตัวเองค่อนข้างประหม่าเมื่อเห็นตึกสูงเสียดฟ้าแบบนี้
และผมเรียบร้อยขึ้นเยอะเลย TT แต่มันก็ไม่ได้พาผมเข้าไปด้านใน กลับเดินอยู่ริมฟุตบาท
“เปล่า
ไม่ได้อยู่ที่นี่ แค่มาเดินเล่น”
อะไรนะะะะะ!! ฝันว่าจะมีผัวรวยได้สลายลงในคำพูดเดียวววว
“แล้วมึงพากูมาที่นี่ทำไมวะ
ห่านี่” แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไรมาก
เพราะผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่ฮาและปัญญาอ่อนมากกว่า -_-^
“ก็บอกว่าพามาเดินเล่นไง วิวมันสวยดี ดูข้างทางดิ” อย่างที่มันบอกครับ
วิวสวยมาก ต้นไม้, ดอกไม้ อะไรๆ ก็ดูน่ารักไปหมด แน่นอนว่าแถบนี้เป็นย่านคนรวย
ทุกสิ่งทุกอย่างประดับประดาด้วยความประณีต มันพาผมเดินมาถึงริมสวนสาธารณะเงียบๆ
แห่งหนึ่ง แวะซื้อชานมไข่มุกคนละแก้ว และก็นั่งลงกับพื้นหญ้าสบายอารมณ์
“ชานมไข่มุกร้านนี้
Recommended by ผมเองเลยนะ” มันพูดก่อนที่จะดูดอึกใหญ่
อย่างที่มันบอกแหละ... อร่อยดี 55555
“เออ
อร่อยดี”
“ไว้วันหลังมากินอีกมะ”
“กินอีกพ่อง
แถวนี้ไม่ใช่บ้านมึงหรือบ้านกู จะมาอีกทำไมวะ”
“ก็ไว้กินสาขาอื่นก็ได้ไง
-^- เอาเป็นว่า
เรามาแต่งงานกันตรงนี้ดีกว่า” มันเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วก่อนที่จะนอนลงกับพื้น
มองท้องฟ้าที่ไร้แสงอาทิตย์มาแยงตา บรรยากาศดีจริงๆ ให้ตายเถอะ
“แต่งงานอะไรของมึง
เราพี่งรู้จักกันแค่หนึ่งชั่วโมง...”
“สองกว่าแล้วเหอะ”
“เออนั่นแหละ! ไอ้บ้านี่ กูกลับละ” ผมลุกขึ้นยืน
ปัดเศษหญ้าที่ติดกางเกงใส่หน้ามัน แล้วเดินออกมาทันที ครั้งนี้ มันไม่ได้ตามผมแฮะ
แต่มันกลับ...
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับนะจ๊ะ! ♥”
อึ๋ยยยยย! ขนลุก!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น