วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 12 Dilemma.



12
Dilemma.



                ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์...
                ผมก็ไม่ได้คุยกับชานยอลอีกเลย
                ไม่รู้ว่าผมหลบหน้ามัน หรือ มันหลบหน้าผม
                “เหม็นสีสัส” ไอ้ไคบ่น ตอนนี้เราทำฉากไม้เสร็จแล้ว พวกผู้หญิงก็มาวาดรูปให้ ส่วนพวกเราก็เป็นคนทาสี (ซึ่งสีเหม็นมาก) ใส่ผ้าปิดจมูกยังไงก็ไม่มิด
                “อือ” ผมตอบกลับ ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นไอ้โด้กำลังคลานเข้ามา แล้วทำปากจุ๊ๆ ใส่ผม คือว่า... ไอ้ไคสั่งห้ามโด้เข้ามาทาสีโดยเด็ดขาด ให้มันเป็นแค่คนซื้อขนมซื้อน้ำ แต่ห้ามทำงาน! มันจะทำเอง!
                อะ-ไรผมทำปากใส่ไอ้โด้
                อยาก-ทา-บ้างมันตอบกลับมา 
                เดี๋ยว-มัน-ก็-ด่า-หรอกผมทำปากกลับไป และเหมือนไอ้ไคจะสังเกตเห็นว่าผมหยุดทาไปนานก็เลยเงยหน้าขึ้นมา เห็นพวกเราเต็มๆ -O-
                “ไอ้โด้!!!!! ใครให้มึงทาสีวะ ว่างมากก็เอาตังค์ไป!” มันหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมา ก่อนที่จะเขวี้ยงไปให้โด้ “ไปซื้อขนมกับน้ำมาให้พวกกู ไปเลยยยยย”
                “งือ (.____.)” โด้รับกระเป๋าตังค์ไอ้ไคมาก่อนที่จะเดินหายไปซื้อขนม
                “ไงงงงง~ ลูกกระจ๊อกทั้งหลายยยย~” ไอ้เซฮุนเดินมาหน้าตายิ้มระรื่น ผมกับไอ้ไคก็เลยหยุดทาสีแล้วมองหน้ามันแบบเซ็งเป็ดสุดๆ
                “ท่ดๆๆ มานี่ ยังไม่ถึงบทกู กูช่วยทา” มันหยิบแปรงทาสีขึ้นมาก่อนที่จะลงมือทาอย่างขันแข็ง เออ ก็ดีเหมือนกัน
                “เออ ว่าแต่ไอ้ชานยอลมันหายไปไหนมาอาทิตย์นึงวะ ไม่คิดจะมาหาพวกกูเลย อย่าบอกว่าดังแล้วลืมพวกกูนะ TOT” ไอ้ไคบ่น 
                “ไม่เว่ย มันมีภารกิจติดพัน” ไอ้เซฮุนตอบ
                “ภารกิจเห้อัลไล” 
                “พวกเรารู้ก่อนได้งายยยย ต้องให้เมียมันรู้คนแรกเสะ อิอิ” ไอ้เซฮุนพูดก่อนที่จะหันมามองที่ผม อะไร ทำไมกูต้องรู้ก่อน
                “หนมมาแล้ว~ อ้าวไอ้ฮุน ไม่ได้ซื้อเผื่อมึงอ่ะ ขอโทษ” ไอ้โด้ถือโค้กมาสามขวด 
                “ไม่เป็นไร กูไปกินชานมไข่มุกกับพี่ลู่มาจนอิ่มแปล้ละ ฮ่าๆๆๆ”
                ตึก... ตึก...
                เสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาจากด้านหลังผม
                ไอ้พวกที่เหลือเมื่อเห็นคนที่กำลังเดินเข้ามาก็หลบตาต่ำกันใหญ่
                ชานยอลใช่มะ -_-;
                “แบคฮยอนครับ ผมมีข่าวดีจะบอกแหละ ^____^” เมื่อผมหันไปก็เจอชานยอลจริงๆ แต่ทำไมมันหล่อขึ้นอ่ะ O[]O!! หน้าใสกิ๊งๆ แถมยังดูมีออร่า สงสัยแววดาราเริ่มออกแล้วสินะ T^T

                “ข่าวดีอะไรของมึง กูไม่สนใจหรอก” ผมตอบก่อนที่จะหันมาทาสีต่อ
                “ข่าวดีจริงๆ นะ >O< ที่ผมหายไปหนึ่งอาทิตย์ก็เพื่อแบคฮยอนเลยนะ” 
                “ก็ช่างหัวมึงดิ” ผมยังคงขี้เกียจพูดกับมัน ก็ดูมันทำสิ! โกรธเราก่อน แล้วจู่ๆ ก็มาคุยเหมือนเป็นปกติ ไอ้บ้า!
                “เมียโกรธมึงอยู่อ่ะ” ไอ้ไคช่วยใบ้ให้ ผมเลยจิกตาใส่ไอ้ไคก่อนที่จะทาสีต่อ
                “อ้าว โกรธผมหรอ? โกรธเรื่องอะไรอ่ะครับ” มันลงมานั่งข้างๆ ผมแล้วจ้องหน้าผมแบบจริงจัง
                “ก็มึง!” ผมหันจะไปด่ามัน แต่ก็ป๊ะกับสายตาคิกขุของมันอีก เหี้ยยยย จะเป็นลม - / / - “ก็มึงอ่ะแหละ! มึงโกรธกูก่อนอ่ะ! แล้วกูก็ไม่เข้าใจว่ามึงจะโกรธกูทำไม กูก็แค่โกรธมึงกลับแค่นั้นเอง!
                “ผมไปโกรธแบคฮยอนต่อไหนอ่ะครับ TOT” มันทำหน้าจะร้องไห้
                “ก็เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอ่ะ! ที่นางเอกเค้ามาตามมึงให้ไปซ้อมกับเค้า มึงก็เงียบกริบเลยอ่ะ มึงแม่งไม่เข้าใจอ่ะชานยอล กูต้องทำงานตรงนี้แล้วมึงจะมาทำแทนได้ยังไง ไหนจะให้กูอ่านบทให้ฟังอีก บ้ารึเปล่าวะ” ผมร่ายยาวจนเหนื่อยหอบ เหมือนได้พูดทุกสิ่งที่อัดอั้นมาเต็มหนึ่งอาทิตย์ 555555
                “อ้อ...” มันทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ “งั้นแบคฮยอนฟังผม”
                “อ่ะฟัง กูจะฟัง แต่ถ้าไม่มีเหตุผลก็จะปิดหูทันที” ผมหันไปมองหน้ามันจริงจัง
                “ผู้หญิงคนนั้นเค้าชื่ออึนเฮ รุ่นเดียวกับเราครับ แต่เค้าจะมาจีบผมก็เลยมาทำตัวเกาะแกะ ถึงเนื้อถึงตัว ผมรำคาญก็เลยคิดว่ามาซ้อมกับแบคฮยอนดีกว่า แล้วพอเค้ามาตามก็พูดจาไม่ให้เกียรติแบคฮยอนอีก ผมก็เลยของขึ้นน่ะครับ” 
                “อ่า... หรอ” ผมเริ่มจะรู้สึกได้ว่า กูมั่วนิ่มสุดๆ 55555555
                “แล้วข่าวดีที่ผมหายไปหนึ่งอาทิตย์ก็คือ ผมไปขอรุ่นพี่ให้แบคฮยอนมาเป็นผู้จัดการผม ให้ไคเป็นผู้จัดการของเซฮุน แล้วก็ให้โด้เป็นผู้จัดการของพี่ลู่ รุ่นพี่เค้าบอกว่าไม่เคยมีตำแหน่งอย่างนี้มาก่อนเลย แต่จะจัดให้ถ้าผมท่องบทให้ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์”
                O[]O!!! แล้วมึงก็ท่องได้แล้วอ่ะนะ” ผมถาม
                “ครับ ^____^ เป็นไง หายโกรธผมแล้วนะ” ชานยอลถามก่อนที่จะมองตาผมด้วยสายตาลึกซึ้งจนผมต้องหลบตาก่อนที่ตัวเองจะละลายหายไปซะก่อน
                “ค่ะ หายโกรธแล้วค่ะ” ไอ้ไคตอบแทน “ไคพูดอะไรออกมา แบคฮยอนก็คิดอย่างนั้นแหละค่ะ” 
                “พ่อมึงไอ้ไค! เออ หายโกรธตั้งแต่ประโยคแรกละห่า -_-^” ผมตอบแล้วตั้งใจจะทาสีอีกครั้ง
                “เนี่ยแหละ ภารกิจติดพันที่กูจะบอกมึงอ่ะไอ้แบค ฮ่าๆๆ” เซฮุนหันมาบอก
                “ไม่ต้องทาแล้วครับทุกคน เพราะทุกคนไม่ได้มีหน้าที่ตรงนี้แล้ว ^^ ไปหาอะไรเล่นกันเถอะ” มันลุกขึ้นยืนก่อนที่จะชวนพวกเราไปหาอะไรทำ แต่ไอ้ฮุนก็ไปไหนไม่ได้ เพราะมันยังจำบทไม่ได้เลย 555555 ก็เลยต้องกลับไปซ้อมกับรุ่นพี่เหมือนเดิม
                “เออ งั้นกูกับโด้ไปทำหน้าที่ผู้จัดการก่อนนะ ฮ่าๆๆๆ” ไคกับโด้แยกตัวออกไป ชานยอลจึงพาผมไปนั่งที่ม้านั่งแถวๆ คณะ
                “บทอยู่ไหน เอามาซิ จะตรวจสอบซะหน่อยว่ามึงท่องได้แล้วจริงรึเปล่า” ผมแบมือขอบท มันหยิบมาให้อย่างมั่นใจ
                “เอาล่ะ ฉากห้า หลังจากที่จีฮูช่วยจันดีเสร็จแล้ว จุนพโยก็ต้องทำอะไร” ผมเปิดฉากขึ้นมาแล้วถามอย่างรวดเร็ว
                “จุนพโยมองด้วยสายตาที่หึงหวงครับผม ^O^!!
                “ปิ๊งป่องงงง! โหหหห รู้ได้ไงอ่ะ” ผมทำสีหน้าประหลาดใจ ชานยอลจึงปรบมือชอบใจใหญ่ แต่ความสุขก็มาได้แค่สั้นๆ ล่ะนะ...
                “อ้าว ชานยอล! อยู่นี่เอง” นางเอกคนนั้นหรือที่ชื่อว่าอึนเฮ หันมาเจอพวกเราที่นั่งกันอยู่บนม้านั่ง “เหมือนรุ่นพี่จะเรียกน่ะ เค้าบอกว่าเรียกด่วนเลยนะ”
                “อือ” ชานยอลตอบก่อนจะโบกมือลาแล้ววิ่งไป เฮ้อ~ ชีวิตยุ่งเหมือนดาราเลย
                “ขอโทษนะ แบคฮยอนใช่มั้ย ^^?” แม้ชานยอลจะไปแล้ว แต่อึนเฮก็ยังไม่ไป กลับเดินมาหาผม
                “อ่า ใช่ ^_^ เธอชื่ออึนเฮใช่มั้ย” ผมพยายามเป็นมิตร
                “ใช่แล้วจ้ะ แบคฮยอนเป็นเพื่อนสนิทของชานยอลหรอ?” นางว่าแล้วลงมานั่งข้างๆ ผมบนม้านั่ง
                “ก็... คงงั้นแหละ ฮ่าๆๆ” 
                “งั้นดีเลย แบคฮยอนช่วยอะไรเราหน่อยได้มั้ยอ่ะ T^T” อึนเฮถูมือไปมา แล้วทำหน้าเหมือนจะขอร้องผมอย่างจริงจัง แหม่... งั้นจะทำตัวแมนแฮนซั่มไปก่อนแล้วกัน
                “อะไรล่ะ เดี๋ยวเราช่วยเต็มที่เลย”        
                “เราชอบชานยอลอ่ะ >< ช่วยเราให้จีบชานยอลสำเร็จได้มั้ย”         
                เอิ่ม... เอาไงดีล่ะ
                ความแมนแฮนซั่มกูกำลังจางหายไป
                แต่ความเคะกูกำลังจะสิงสถิตตตตต!
                “อึนเฮ!” เสียงชานยอลดังขึ้น พวกเราจึงหันไปมอง “ไม่เห็นมีใครเรียกเราเลย”
                “อ่า...” อึนเฮดูลังเล นางมองมาที่ผมเหมือนกำลังขอให้ช่วยอะไรบางอย่าง 
                “อึนเฮ ตกลงว่ามีใครเรียกเรารึเปล่า” ชานยอลเดินเข้ามาใกล้ สายตามันที่มองไปที่อึนเฮนี่พร้อมแดกหัวได้เสมอ เสียงทุ้มต่ำนั่นไม่ได้น่าเคลิ้มเลยแม้แต่น้อย แต่กลายเป็นเสียงทุ้มต่ำที่กำลังโมโหสุดๆ
                “เอ่อ... ไม่รู้สิ เค้าบอกต่อๆ กันมาอีกทีน่ะจ้ะ” อึนเฮหลบตาต่ำ 
                นี่ผมควรจะทำอะไรรึเปล่า =O=?
                “เอ่อ...” ผมพึมพำเบาๆ แต่ทั้งสองคนก็หันมามองหน้าผมทันที -O-!!
                “แบคฮยอนจะพูดอะไรหรอ?” อึนเฮถามผม สายตานางเร่งเร้าให้กูไปมาก
                “เอ่อ... กูไปหาไคกับโด้ก่อนนะ (_ _)” ผมก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้เห็นหน้าชานยอลแล้วก็วิ่งออกมาเลย ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้หรอกว่าไคกับโด้มันอยู่ที่ไหนกัน T^T
                “เชี่ย... อยู่ไหนกันวะเนี่ย” ผมพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆ แถวๆ คณะ ก็เจอพวกมันจนได้
                แต่อยู่ในสภาพที่โมเอ้ร์สุดๆ!!
                ไอ้ไคกำลังแดกไอติมโคนหน้าตามุมิมาก ส่วนโด้ก็นั่งเล่นไอโฟน พอไคยื่นไอติมให้ มันก็แดกหน้าตาเฉย!                
                “ไหนพวกมึงบอกว่าจะไปทำหน้าที่ผู้จัดการไง -_-^” ผมเดินเข้าไปใกล้พวกมันแล้วยืนเท้าสะเอว 
                “ฮ่าๆๆๆ ก็มันไม่มีอะไรทำนี่หว่า” ไอ้ไคตอบ แล้วยื่นไอติมโคนให้โด้อีกครั้ง มันก็เลียไอติมซะน่ารัก
                “เฮ้อออออ” ผมนั่งลงข้างๆ พวกมันแล้วถอนหายใจ โด้จึงเก็บไอโฟนเพราะรู้ว่าผมคงจะมีเรื่องอะไรในใจแน่ๆ
                “มีไร” โด้ถาม
                “เออนี่” ไอ้ไคขัดขึ้น “แล้วชานยอลล่ะ”
                “เฮ้ออออออออออ” ผมถอนหายใจยาวกว่าเดิม “ก็นั่นล้าาาาา~
                “อะไร โดนใครคาบผัวไปแดกอีกอ่ะ” ไอ้ไคมองหน้าผม 
                “ป่าววววววว ไม่ใช่อย่างน้านนนนน” ผมลากเสียงยืดยาวด้วยความเหนื่อยใจ 
                “แล้วมันยังไง” โด้เริ่มเข้าโหมดจริงจัง
                “ก็แค่!” ผมเกริ่น “นางเอกที่คู่กับชานยอลอ่ะ เขามาถามชื่อกู... แล้วเขาก็บอกว่าเขาชอบชานยอล ในฐานะที่กูเป็นเพื่อนสนิทชานยอลอ่ะ ช่วยเขาให้จีบสำเร็จได้รึเปล่าาา ก็แค่นั้นแหละ!
                “โห หน้าด้านจริง แล้วทำไมมึงไม่เท้าสะเอว ตาจิกไปเลยว่า ชั้นเป็นเมียเค้าย่ะ” ไอ้ไคแนะนำ
                “บ้าไง๊ กูก็ไม่ได้เป็นอะไรกับชานยอลซักหน่อย พูดแบบนั้นมันก็ไม่ถูก” ผมก้มหน้าลงต่ำ เท้าทั้งสองเริ่มอยู่ไม่สุข เขี่ยไปเขี่ยมาเพราะกำลังมีเรื่องบางอย่างในหัว
                “แล้วมึงจะยอมให้เป็นแบบนี้หรอวะแบค มึงคิดดู ชานยอลชอบมึง แต่มึงทิ้งมันให้อยู่กับคนที่มันไม่ชอบหน้าเนี่ยนะ คิดดีๆ” โด้เตือนสติผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เรียบๆ
                “ไงล่า~ คำแนะนำจากเมียกู” ไอ้ไคเสนอหน้าออกมา แต่ก็โดนไอ้โด้ที่ดีดหน้าผากเข้าให้ ก็เลยหันกลับไปนั่งเงียบๆ
                “มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับกูซักหน่อย มันมาชอบกูเอง แล้วถ้าใครจะมาจีบมันก็ปล่อยไปดิ” ผมพูด แต่ในใจรู้สึกหน่วงๆ ชอบกล
                “หรอ มึงคิดอย่างนั้นหรอ” โด้ทวนถาม “มึงคิดว่ามันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมึงเลยใช่มั้ย ถ้าคิดอย่างนั้นก็นั่งนี่แหละ ไม่ต้องทำห่าอะไรหรอก”
                “...”
                “แต่ถ้าไม่ได้คิดแบบนั้น ก็อย่าปล่อยให้ชานยอลอยู่กับคนที่มันไม่ชอบแบบนี้” โด้ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง นั่นหมายความว่าขงเบ้งสิงสถิตมันแล้ว และผมก็ชอบมันเวอร์ชั่นนี่ที่สุดละ ^^
                “อือ...” ผมตอบ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน “กูไม่ควรปล่อยไว้แบบนี้”
                “ฮ่าๆ ถ้าชานยอลได้ยินคงจะดีใจนะ” โด้พูดยิ้มๆ ผมจึงรีบวิ่งกลับไปที่มันอยู่
                “อ๊าย แรดแบคจะปฏิบัติการ เอาผัวคืนแล้วคร้าบบบ” ไอ้ไคตะโกนไล่หลัง
                “เอาผัวคืนพ่องง’’!” ผมตะโกนกลับไป แต่ก็ยังคงวิ่งไม่หยุด...
                คงต้องรีบหน่อยแล้ว ^^



                เมื่อผมเดินกลับไปที่ม้านั่ง ก็เห็นชานยอลกำลังนั่งหน้าเซ็งอยู่กับอึนเฮ นางพูดเจื้อยแจ้วเรื่อยเปื่อย แต่ชานยอลก็ยังคงนั่งเฉยๆ ไม่ได้ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น
                “แฮ่ม!” ผมกระแอมเสียงดังเพื่อให้รู้ว่าบยอนแบคกลับมาแล้ว!! แต่ชานยอลก็หันมามองผมงงๆ 
                “อ้าวแบคฮยอน นั่งด้วยกันมั้ย กำลังคุยกันสนุกอยู่เลยแหละ” อึนเฮโพล่งขึ้น หรา... สนุกหรา -_-;
                “เอ่อ ไม่ล่ะ” เอาแล้วไงกู!! ปฏิเสธไปแล้วววว TTOTT กูควรจะเลวต่อหรือควรจะหยุดดีล่ะ
                “แล้ว” อึนเฮเอียงคอเล็กน้อย ก่อนที่จะทำหน้าราวกับสงสัยสุดๆ “มีอะไรหรอ”
                “คะ... คือว่า...” ผมพูดตะกุกตะกัก
                “...”
                “คือ! เราจะนั่งก็ต่อเมื่อ...” ผมหยุดพูดเล็กน้อย ก่อนที่จะกลั้นใจพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไปทั้งหมด “เราจะนั่งก็ต่อเมื่อเธอลุกออกไป แต่ถ้าเธอไม่อยากลุกก็ไม่เป็นไร เราจะลากชานยอลไปเอง”
                เหี้ยยยยยยยยย!! พูดไปแร้นนนนนนนน TTOTT
                “...” ทุกคนยังคงเงียบกริบ
                “เอ่อ...” ผมหันไปมองหน้าชานยอลก่อนที่จะหลบตา “กูไม่ได้มาเอาผัวคืนนะ... แค่หวงเพื่อน”
                “ฮ่าๆๆ เราเดาว่าอึนเฮคงไม่อยากลุก งั้นเราลุกเองนะ บายอึนเฮ” ชานยอลเป็นฝ่ายลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะจับมือผมไว้แน่นแล้วเดินออกมา



                ระหว่างทางผมไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นและชานยอลก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย มันจะโกรธผมรึเปล่านะ T^T ผมไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุนะ แต่โด้ ขงเบ้งแห่งแก๊งค์หลังห้องได้ให้คำแนะนำมาแล้ว -^-!! เพราะฉะนั้นเรื่องนี้คงจะไม่ร้ายแรงอะไรหรอก!
                “คิก...” ชานยอลหลุดขำออกมา ก่อนที่จะพาผมไปที่มุมเงียบๆ ของมหาลัย ไม่มีใครอยู่ตรงนี้เลยซักคน มีแค่ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นร่มเงาเท่านั้น
                “...” ผมยังคงเงียบ แต่มันก็หยุดเดิน แล้วหันมามองหน้าผม
                “ฮ่าๆๆๆๆๆ” มันยังคงขำอย่างเดียว จนผมเริ่มจะเซ็ง
                “มึงจะขำอะไรของมึงนักหนาฟระ! - / / - มันมีอะไรให้น่าขำฮะ?” ผมเท้าสะเอวมองหน้ามัน
                “ไม่ได้มาเอาผัวคืน แค่หวงเพื่อน 5555555” มันยังคงขำไม่หยุด - / / -!!
                “จิ๊ ก็มันจริงนี่หว่า -.-” ผมกอดอก แต่ชานยอลก็เดินเข้ามาใกล้ผมเสียจนตัวติดกัน O_O!!
                “ครับผม” 
                “เหี้ยไรรรรร (_ / / _)” ผมหลบตาลงต่ำ ก่อนที่จะผลักมันออก แต่แหม จะผลักไหวมั้ยครับ ตัวอย่างกะยักษ์ กูก็แค่ผลักพอเป็นพิธีแค่นั้นแหละ เดี๋ยวหาว่าอีแรดแบคใจง่าย 55555555
                “คิก...” มันยังคงหัวเราะ ก่อนที่จะเอาปลายจมูกโด่งนั้นมาเกลี่ยปลายจมูกผมเบาๆ 
                “อื้ออออ” ผมแย้งในลำคอ มันจึงถอยออกไปแล้วเอามือขยี้หัวผมแทน
                “คร้าบผมมมม เพื่อนคร้าบบบบ~ ฮิฮิ”
**********
.               “โด้ มึงว่าสองคนนั้นจะไปรอดมั้ยวะ” หลังจากที่ไอ้แรดแบควิ่งไปหาผัวแล้ว ผมก็ถามไอ้โด้ทันที
                “รอดดิ” มันตอบสั้นๆ ก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมาเล่นเหมือนเดิม 
                เชอะ! พอไอ้หมาแบคมาเก็บไอโฟน พอเหลือสองคนปั๊บก็เล่นไอโฟนปุ๊บ!
                “อ่ะกินซะ” ผมยื่นไอติมให้มัน ที่จริงก็ไม่อยากจะแบ่งหรอกนะ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้โด้มันก็ไม่สนใจผมพอดี
                “อ้าม” มันอ้าปากกว้างแล้วก็แดกไอติมหายไปหมดเลย เหลือแต่โคน O_O!!
                “ไอ่โด้!! มึงแดกไม่เหลือซากขนาดนี้แล้วกูจะเหลืออะไรแดกวะ”
                “โคนไง โง่จริง” ดูมันตอบ!!
                “เชอะ แดกแต่โคนก็ได้ -^-” ผมพูดงอนๆ ก่อนที่จะนั่งกัดโคน ชีวิตคนอย่างกูทำไมต้องมานั่งแดกโคนแบบนี้ T^T
                “...” มันหันมามองผมเล็กน้อย ก่อนที่จะหันกลับไปเล่นไอโฟนเหมือนเดิม -_-; แหม่ ตอนแรกกูแอบลุ้นนะว่ามึงเป็นห่วงกู แต่ตอนจบก็รักไอโฟนมากกว่ากูช้ะะะะ!!
                “...”
                “เดี๋ยวสองทุ่มก่อนขึ้นคอนโด กูเลี้ยงไอติมมึงก็ได้” โด้พูดขณะที่ยังเล่นไอโฟน แต่หน้ามันแดงไปถึงหูล้ะ -..-
                “ไม่เอาาาาา เค้าจะแดกโด้ >O<” ผมทำตัวง้องแง้ง แต่เสือกหลุดปากพูดเหี้ยอะไรออกไปเนี่ยยยย!
                “แดกกูหาพ่อง จะแดกมั้ยไอติมตอนสองทุ่มน่ะ - / / -!” มันตีไหล่ผมเบาๆ 
                “แดกคร้าบบบบบบบ~





ย้อนเวลากลับไป ตอนที่โอเซฮุนไปแดกชานมไข่มุกกับพี่ลู่...
                “พี่ลู่~ บทตรงนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆ เลยอ่ะ” ไอ้เซฮุนเดินเข้ามาหาผมพร้อมบท ด้วยสปิริตผู้กำกับในตัวมันพลุ่งพล่านก็เลยเดินเข้าไปหามันแต่โดยดี
                “ตรงไหน”
                “เนี่ยๆๆ มันบอกให้จูบนางเอก แต่ผมว่าผมควรจูบผู้กำกับนะ *_*” มันทำหน้าควีโยมีใส่เหมือนสิ่งที่พูดมาไม่ติดเรทซักกะนิด -_-; ผมมองหน้ามันด้วยความเซ็งก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่อง
                “กูหิว”
                “งั้นผมเลี้ยงชานมไข่มุกป่าวววว?” มันถามผมด้วยน้ำเสียงที่รู้ดีอยู่แล้วว่าผมต้องไป T^T แหงล่ะ ใครๆ ก็ชอบของฟรีนี่นา จริงมะ
                “ไปซื้อมา กูไม่ไปกับมึง” ยังไงเราก็ต้องเล่นตัวไว้ก่อน!
                “ก็ดะ -^-” มันตอบงอนๆ ก่อนที่จะเดินหายไป   
                ซักพักใหญ่มันก็เดินมาพร้อมชานมไข่มุกแก้วเดียว O[]O!! 
                “ตังค์หมดอ่ะ ซื้อได้แค่แก้วเดียว” มันเดินมาทำหน้าหงอยๆ ก่อนที่จะยื่นให้ผม ผมรับมันมาแบบงงๆ ก่อนที่จะดูดไปหนึ่งอึก (เคี้ยวไข่มุกด้วย ^O^)
                “อ่ะ” ผมเอาให้มันกินด้วยความสงสาร มันก็เลยดูดไปหนึ่งอึกแล้วก็ยื่นให้ผมกินอีก
                ดะ... เดี๋ยว นี่มันจูบทางอ้อมนี่หว่า =______=!!!
                “ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นพี่ลู่ ใช่... มันคือจูบทางอ้อม ผมรู้ว่าพี่จะคิดแบบนี้” มันพูดดักคอ 
                “...”
                “ผมก็เลยเตรียมไอ้นี่ไว้แล้ว” มันยิ้มก่อนที่จะหยิบหลอดชานมไข่มุกอีกอันในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วก็เจาะลงไปในแก้วหน้าตาเฉย ผมก็เลยดูดหลอดใหม่อย่างสบายใจ...
                แต่จังหวะนั้น มันก็ดูดหลอดเก่าพอดี
                หน้าเราก็เลยชิดกันมากกกกกกก O / / / / O!!
                แต่ผมก็เหมือนไข่มุกที่ถูกดูดขึ้นมา
                เพราะสายตาของมันที่มองมาน่ะ... แม่งเหมือนกับหลุมดำที่พร้อมจะดูดกลืนทุกอย่าง TTOTT
                “เขินอ่ะดิ๊” มันหยุดดูดชานมแล้วก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมีชัย
                “- / / -” เชี่ย! เถียงไม่ออก T^T
                “ไม่ด่าผมหรอ”
                “ไม่”
                “ทำไมอ่ะ ปกติต้องด่าว่าผมบ้าบ้างล่ะ ไอ้ห่ารากบ้างล่ะ”
                “โอ๊ยยยยย! ยังมีหน้ามาถามอีกกกก ก็กูเขินจริงจะให้กูเถียงยังไงวะห่านี่!” ผมตะโกนลั่นแล้วก็เดินออกมาเลย T^T ทำไงดี ฮือออออ ชีวิตเสี่ยวลู่หานต้องมาตายคาอกตุ๊ดเด็กนี่หรออออ TTOTT

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น