วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 5 Snow White and the Weirdo Prince.




5

Snow White and the Weirdo Prince.



ทะเลปูซาน

                พวกเรามาที่แคมป์แล้วครับทุกคน ^O^!! นั่งรถบัสจากคณะเก้าโมงเช้า ถึงนี่หกโมงเย็น -_-; คือทำไมไม่ขึ้นเครื่องบินหรอครับ T^T ที่นี่เป็นแคมป์ริมชายหาดปูซาน โชคดีที่ยังอยู่ในหน้าร้อน น้ำก็เลยยังไม่เย็นมาก น่าเล่นสุดๆ ตัวแคมป์เองก็สวย มีลานกิจกรรมกว้างใหญ่ แต่พวกเราต้องนอนเต้นท์กันนะครับ

                “น้องๆ ปีหนึ่งค้า เลือกคู่นอนเองไม่ได้น้า มานี่เลย... เอาใบรายชื่อไปดูว่าใครได้นอนกับใคร แล้วอย่าแอบเปลี่ยนกันนะ ถ้าพี่จับได้ส่งกลับโซลเลยนะตัวววว” พี่สต๊าฟคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหลังจากที่เห็นพวกเรายืนเก้ๆ กังๆ กันอยู่หน้าแคมป์ โด้หยิบมันมาอ่านก่อนที่จะประกาศให้พวกเราฟัง

                “กูนอนกับแบค ชานยอลนอนกับไค เซฮุนนอนกับพี่ลู่หาน” ที่พวกเราไม่ได้ยินเสียงโวยวายจากพี่ลู่หานเพราะพี่เขาไปอยู่กับเพื่อนนั่นเอง และนั่นทำให้ไอ้โอเซฮุนหน้าหงิกเพราะพี่เค้าหนีไปทัน

                “ห่ะ -O-? ไอ้สัสเซฮุน มึงใช้เส้นเหี้ยอะไรถึงได้นอนกับคุณพี่สุดที่รักมึงวะ” ไคโพล่งขึ้นมา นั่นดิ -O- แต่ก็ดีแล้วแหละ ผมได้นอนกับไอ้โด้ ^O^ 

                “เออ กูใช้เส้น” มันตอบหน้าตาย “มีพี่สต๊าฟมาขอเบอร์กู กูก็เลยขอคู่นอนเต้นท์เป็นการแลกเปลี่ยน แต่กูให้เบอร์คนขับรถที่บ้านกูนะ” 

                เลวจริง =[]=!!

                “ไป รีบไปกันเหอะ จะได้นอนเต้นท์ติดๆ กัน” ผมดันแก๊งค์หลังห้องให้เดินเข้าไปในแคมป์ พวกเราเลือกเต้นท์ที่อยู่ติดกันสมใจ โด้กับผมจึงช่วยกันจัดเต้นท์ของตัวเอง

                “โหยโด้ กูคิดถึงมึงมากเลยนะเนี่ย ไม่ได้นอนกับมึงนานละ” ผมพูดขึ้น

                “เออ ฮ่าๆๆ เจ็ดวันนี้ได้นอนด้วยกันสมใจอยาก” โด้ตอบพลางหัวเราะ

                แหม่! วันนี้ลางดีตั้งแต่บ่าย!

                “น้องไคคะะะะะ” นั่นไง... ไม่ทันไรแม่งมีรุ่นพี่มาทักซะละไอ้ไค

                “...”

                “น้องไคคะ! พี่เรียกทำไมไม่ตอบ?” จู่ๆ ก็มีมือมาตีหลังผมอย่างแรงจนผมต้องหันไปมอง 

                นี่มันเจ๊ที่ถามชื่อกูวันนั้นนี่หว่า -O-!!    

                “เอ่อ... ทำไมครับพี่?” ผมตอบอย่างงงๆ

                “น้องเข้าผิดเต้นท์นะคะน้องไค น้องต้องไปนอนกับ...” นางมองใบรายชื่อเล็กน้อยก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาพูด “น้องต้องนอนกับน้องชานยอลค่ะ”

                “หา O[]O!!! ผมชื่อแบคฮยอนนะเพ่!!” ผมเถียงเมื่อลางร้ายเริ่มจะปรากฏ

                “น้องอย่ามาแหลค่ะ วันนั้นน้องบอกพี่เอง ไปเลย กลับเต้นท์ตัวเองเลยยยยย” แล้วเจ๊แกก็ดันผมไปที่เต้นท์ไอ้ชานยอลซึ่งยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่าง

                “เหี้ยชานนนนน!! มึงบอกพี่เค้าไปเด่ะว่ากูชื่อ...”

                “ไคจะโวยวายทำไมครับ มาเข้าเต้นท์กับเรามามะ~” ไอ้ชานยอลกวักมือเล็กน้อยก่อนที่จะล็อคคอผมให้เข้าไปในเต้นท์ ส่วนไอ้ไคตัวจริงก็ออกไปจากเต้นท์อย่างอารมณ์ดี

                “ฮ่าๆๆๆๆ ฮาว่ะ กูชื่อแบคฮยอนครับทุกคนนนน ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ไคตะโกนไปรอบๆ ก่อนที่จะหายเข้าไปในเต้นท์ไอ้โด้ ส่วนผมน่ะหรือ... แงงงงงงงง TTOTT

                “กูไม่ได้ชื่อไคโว้ยยยยยยยย!!” ผมตะโกนลั่นเต้นท์จนไอ้ชานยอลต้องเอามืออุดหู แต่ก็หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข สรึดดดด!

                “เฮ้ออออ แบคฮยอนมานี่มาครับ นอนฝั่งซ้ายนะ ผมจะนอนฝั่งขวา จะได้เอาแขนซ้ายตัวเองโอบแบคฮยอนถนัดๆ เวลานอน อิ๊อิ๊” 

                “เหี้ยยยยยยยย =[]=!! นอนเต้นท์แล้วยังมีอารมณ์โอบอีกใช่ปะสัสสส กูคิดถึงโด้เว้ยยยย!” ผมยังคงโวยวาย ก็มันเซ็งนี่หว่า! ถ้าอย่างนั้นวันนี้กูมีแต่โชคร้ายโชคร้ายโชคร้ายอย่างเดียวแล้วล่ะ -_-^              

                ว๊อออออออออออออออออออออออ!
                ใครเปิดหวอในโทรโข่งฟร้าาาาา!

                “น้องๆ คะ ออกมาจากเต้นท์ได้แล้วค่ะ พี่มีหมายกำหนดการให้ฟังค่ะน้อง เปิดหวออีกดีมั้ยคะ จะได้อารมณ์เดียวกับแฟมิลี่ เอ้าท์ติ้ง ออกมาเดี๋ยวนี้ค่ะน้อง” พี่สต๊าฟประกาศในโทรโข่ง

                เอิ่ม... กูมาค่ายครับ ไม่ได้มาแฟมิลี่เอ้าท์ติ้งงงงง -_-!!!

                “ออกแล้วจ้า -O-” ผมพูดกับตัวเองก่อนที่จะรูดซิปออก พี่สต๊าฟทุกคนมีสีหน้าที่ค่อยข้างหื่นกระหายยังไงชอบกล -_-?

                “มาๆๆ ครบทุกคนแล้วเนอะ! คืนนี้เราจะมีงานแฟนซีกันนะจ๊ะ เป็นการเล่นซ่อนหานะตัวเอง นั่นก็คือหาคู่นอนเต้นท์ของเรานั่นแหละ ถ้าคู่เราหาเราไม่เจอ เราก็ต้องอยู่ในนั้นตลอดไปเลยนะ น้องๆ ที่มีรายชื่อต่อไปนี้จะต้องมาหาพวกพี่นะจ๊ะ น้องคังซึงมี, น้องคิมซนเจ, น้องโดคยองซู, น้องไค, น้องโอเซฮุน, น้อง...” 

                “เฮ้ย ทำไมมันมีชื่อพวกเราสามคนวะ” เซฮุนพูดขึ้นแบบงงๆ 

                “เอาล่ะจ้า น้องๆ ที่พี่เรียก Follow Me! Yeahhhh!” หลังจากที่นางประกาศรายชื่อครบ พวกเราก็ต้องเดินตามไปทั้งที่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น จนไปหยุดอยู่ที่ห้องประชุมขนาดใหญ่

                “โอเค! พี่ขออธิบายก่อนนะตัวเอง แก๊งค์ที่พี่เรียกมานี่คือแก๊งค์หญิงสาวนะจ๊ะ >< ถึงจะมีน้องผู้ชายโผล่มาสิบกว่าคนก็เถอะ เพราะคู่นอนเต้นท์น้องเป็นผู้ชายด้วยกันไง เอาล่ะ! แฟนซีของวันนี้คือ Prince & Princess จ้า และพวกเราก็คือ Princess นั่นเอง!          

                เอิ่ม...

                “พี่คะ ถ้าอย่างนั้นเพื่อนหนูที่เต้นท์ก็เป็นเจ้าชายหรอคะ?” ผู้หญิงคนนึง ถามขึ้น ซึ่งเป็นคำถามที่ผมกำลังอยากรู้มากๆ 

                “ช่ายยยยยยยยยยย”

                “เหี้ย -_-” ผมสบถ 

                ก็แหงล่ะ!
                ทำไมกูต้องมาเป็นเจ้าหญิง แล้วไอ้ชานยอลต้องเป็นเจ้าชายวะ
                งานแฟนซีเห้อัลไลลลลลลลล TTOTT

                “ก็น่าสนุกดีเนอะ” สัสโด้!! มึงอีกแล้ว! มึงจะเป็นศรีโดโด้ของกูไปนานๆ ไม่ได้หรอวะ ทำไมมึงต้องเข้าโหมดสัสโด้อีกละ -_-+

                “หนุกๆ” เหี้ยเซฮุน แหงล่ะ เจ้าชายมึงคือคุณพี่ลู่หานที่มึงเคารพรักและบูชานิ

                แต่เจ้าชายของกูมันไม่ใช่แบบพวกมึงนะ TTOTT!!!

                “น้องซึงมีเป็นหนูน้อยหมวกแดงนะจ๊ะ ส่วนเพื่อนน้องที่เต้นท์เป็นคุณยายจ้า” เจ๊แกเริ่มทำการแจกชุด เดี๋ยวนะ... ยัยซึงมีนี่เข้าคอนเสป Prince & Princess ตรงไหน แล้วทำไมเพื่อนมันไม่เป็นหมาป่า แต่กลายเป็นคุณยายเฉยเลยฟะ -O-!!

                “อืม...น้องไค...” เจ๊แกดูรายชื่อเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มแฉ่ง “เป็นสโนไวท์จ้า”

               
                โน
                ไวท์
                พ่อง

                “ซึงมี เราเปลี่ยนกันได้มั้ยอ่ะ เราไม่อยากเป็นสโนไวท์” ผมหันไปคุยกับซึงมีซึ่งกำลังถือผ้าคลุมสีแดง

                “แหม ไค เราว่าเธอเป็นสโนไวท์สวยจะตาย >< เราอยากเห็นอ่ะ” เดี๋ยว อีคุณซึงมีครับ กูชื่อแบคฮยอน -_-; มึงพึ่งได้ยินชื่อกูจากปากพี่เมื่อกี้ใช่มั้ย แต่ก็ช่างเหอะ เพราะกูก็ได้ยินชื่อมึงจากปากพี่เมื่อกี้เหมือนกันแหละ

                “เออ แบค มึงก็ใส่ๆ ไปเหอะ แค่เล่นซ่อนหาเอง” ศรีโดโด้หันมาบอกด้วยหน้าตานิ่งเฉยหลังจากได้รับให้เป็นเจ้าหญิงจากเรื่องเจ้าชายกบ 555555 คิดสภาพไอ้ไคเป็นกบ มันจะออกมาเป็นยังไงวะ 

                “ส่วนน้องเซฮุน! อืม... คือความจริงแล้วน้องต้องไปอยู่กลุ่ม Prince นะ แต่ว่าอาลู่หานเค้า... เค้าขอพี่มาน่ะว่าจะเป็นฝั่ง Prince แต่เค้าจะนอนกับใครก็ได้ น้องก็เลยต้องมาเป็นเจ้าหญิงนิทราอ่ะจ้า แหะๆ ^^; อ้อ ป่านนี้ลู่หานยังไม่รู้เลยมั้งว่าตัวเองนอนกับใคร ถ้ารู้แล้วคงช็อก ฮิฮิ”

                “จริงหรอพี่ ดีละ อย่าพึ่งให้เค้ากลับเต้นท์นะ ผมอยากเซอร์ไพรซ์เค้าคืนนี้ ฮ่าๆๆ” เซฮุนหัวเราะลั่น เหมือนมันจะมีแผนการณ์บางอย่าง 

                “เอาล่ะ ทุกคนก็ได้ชุดครบทุกคนแล้วนะ ^^ ไปเปลี่ยนกันได้เลยยยย แล้วก็ทานข้าวเย็นให้เรียบร้อย พอสองทุ่มเจอกันที่นี่นะจ๊ะ ^O^

                เอาล่ะ... เกมซ่อนหาสไตล์ Prince & Princess จะเป็นยังไงฟะ
                ต้องเสี่ยงกันไปข้าง!




และแล้วก็ถึงเวลา... สองทุ่ม T^T

                พวกเราเหล่าแก๊งค์ Princess มารวมตัวกันที่หน้าห้องประชุมอีกครั้ง เอาล่ะ  ผมไม่อยากจะพูดเลยว่าตอนนี้พวกเรา... เอ่อ... สวยอ่ะ - / / - 55555 คือผมไม่ได้หลงตัวเองนะ!! แต่ซึงมีแต่งหน้าเก่งมาก และก็ลามมาแต่งให้พวกผู้ชายด้วย พวกเราก็ยอมแต่งไปตามใจนาง แถมนางยังมีวิกผมพร้อม ผมนี่ก็ได้วิกบ๊อบสไตล์สโนไวท์มาก ส่วนไอ้โด้กับเซฮุนก็ได้วิกผมยาวสลวยสวยเก๋

                ซึงมีบอกว่า ตาผมหลบในนิดหน่อย ก็เลยกรีดอายไลน์เนอร์ให้ผมบางๆ บวกกับอายแชโดว์สีชมพูวิ๊งๆ พอแต่งเสร็จนางก็ปลื้มปริ่มเพราะผมออกมาน่ารักเป๊ะกับความเป็นสโนไวท์ -_-;

                ไอ้โด้ก็ใช่ย่อย รายนั้นนั่งรอให้แต่งหน้าตั้งแต่ซึงมีมาแต่งหน้าให้พวกผู้ชาย แต่แต่งออกมาแม่งน่ารักเฟ่ออออ! เอิ่ม... ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กัน บางทีกูอาจจะจับกดมึงก็วันนี้แหละโด้ กร๊ากๆ

                ส่วนไอ้เซฮุน รายนี้ขัดขืนนิดหน่อย แต่พอแต่งเสร็จก็ส่องกระจกทุกหนึ่งนาที แถมมาชวนพวกเราถ่ายรูปอย่างเบิกบาน เอาจริงๆ ผมว่าไอ้นี่สวยสุดในกลุ่มละ 55555

                “ว้ายยยย หนุ่มๆ สวยกว่าผู้หญิงอีกนะเนี่ย ><” หลังจากที่พี่สต๊าฟเห็นพวกเราก็ชอบใจใหญ่ ก่อนที่จะอธิบายเกมคืนนี้ “เอาล่ะๆๆ เราจะไปซ่อนกันแล้วนะจ๊ะ ^^ ฝ่าย Prince เค้าจะมาตามหาเรา โดยเค้าจะมีลูกกุญแจ ถ้าเค้าเจอแม่กุญแจที่ไหนก็จะไขทันที แต่ว่าถ้าเปิดไม่ออกก็แปลว่าไม่ใช่คู่ตัวเอง ส่วนพวกเราก็จะโดนขังอยู่ในกล่องทึบ รับรองว่างานนี้ไม่มีการขาดอากาศหายใจตายคากล่องแน่นอน เพราะเราเจาะรูให้หายใจแล้วจ้า” 

                “แล้วถ้างานเลิกแล้ว เค้ายังหาพวกเราไม่เจอล่ะคะ” มีเจ๊คนนึงถาม

                “ไม่ต้องห่วงงงง พวกพี่รู้ว่าน้องไหนอยู่กล่องไหน เพราะฉะนั้น ถ้าหาไม่เจอจริงๆ พี่ก็จะไปเป็นคนไขเอง แต่ว่า! ถ้าหาไม่เจอเนี่ย โดนทำโทษนะจ๊ะ”

                “โทษไรครับ” ไอ้เซฮุนถาม คงจะเริ่มกลัวพี่ลู่หานไม่ยอมมาหา ฮ่าๆๆ

                “คู่นั้นก็จะต้องนอนนอกเต้นท์น่ะสิ! จับไปนอนริมทะเลเลยแหละ” 

                “เป็นคู่ใช่มั้ยพี่? นอนทั้งคู่เลยใช่ปะ?” ไอ้เซฮุนย้ำ

                “ช่ายยยยยย”

                “ดีละ ถ้าพี่เค้าไม่หากู ก็ต้องนอนริมทะเลกับกูอยู่ดี” หน้ามันโล่งใจขึ้นมาก 

                “เอาล่ะๆๆ อย่ามัวเสียเวลา รีบไปซ่อนกัน!” แล้วเจ๊แกก็นำขบวนพวกเราไป ไอ้โด้กับเซฮุนถูกปล่อยไว้ที่แถวเต้นท์ พวกมันโล่งใจกันใหญ่ที่ได้ซ่อนในที่คนพลุกพล่าน แต่ผมเนี่ยสิ...             

                ทำไมเจ๊แกมาพาซะป่าลึกเลยวะ =[]=!!!            

                “เจ๊ เอ่อ... พี่ครับ ทำไมผมอยู่กลางป่าเลยหรอ ผมจะตายมั้ยอ่ะ” ผมพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ

                “ไม่เป็นไรหรอกน้องไค ถ้าน้องชานยอลเค้าหาน้องไม่เจอ พี่ก็หาน้องเจอตอนจบอยู่ดีแหละ” เจ๊แกพูดหน้านิ่งมาก คือกูไม่อยากนอนริมทะเลกับไอ้ชานยอลอ่ะเจ๊ -O-

                “นั่นไงกล่อง!” เจ๊แกชี้ไปที่กล่องโลหะที่มีรูระบายอากาศอยู่เต็ม กล่องวางอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่น่ากลัวมาก เอิ่ม... กูเริ่มกลัวละ 555555 ถ้ามีโจรโรคจิตมาเอามีดแทงตามรูทำไงวะ ตายห่าพอดี

                “อ่ะเข้าไปเลย เดี๋ยวพี่ล็อกให้” เจ๊แกดันๆ ผมให้ลงไปนั่งในกล่อง แต่ผมก็ยังยืนลังเล ก็คนมันกลัวนี่หว่า TOT

                “เร็วววววว ฝั่ง Prince เค้าเริ่มปล่อยเพื่อนน้องมาออกตามหาแล้วนะ” เจ๊แกว่าพลางมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนนางจะใช้พลังเฮือกสุดท้ายกดไหล่ผมให้ลงไปนั่งแล้วปิดฝาล็อกอย่างรวดเร็ว -O-!!

                “เจ๊!!!! อย่าทิ้งโผมมมมมมม” เสียงผมโหยหวนออกมาจากในกล่อง แต่ผมก็ได้ยินแค่เสียงฝีเท้าวิ่งหนีไปเท่านั้น 

                ...
                เงียบเหี้ย T^T

                ปาร์คชานยอล กู...

                กูสารภาพว่ากูคิดถึงมึงมาก ณ จุดนี้ กูจะร้องไห้อยู่แล้วนะชานยอลT^T
                กูควรจะหลับรอมึงดีมั้ยนะ? แล้วถ้ากูหลับไปแล้วขาดออกซิเจนตายกูก็จะไม่รู้ตัวน่ะสิ 

                แล้วเวลาก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมง... 
          
                ชานยอล... มึงเกลียดกูแล้วใช่มั้ย 

                ผมเริ่มได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวจากทางแคมป์ คงจะเริ่มหาเพื่อนเจอกันบ้างแล้ว แล้วกูล่ะ T^T? กูอยู่นี่นะทุกคนนนน มือถือก็ไม่ได้เอามาอีก โง่แท้ไอ้หมาแบค 

                ตึก... ตึก... ตึก...
                เสียงฝีเท้าคน!

                แต่... ถ้าผมตะโกนออกไปแล้วมันเป็นโจรโรคจิตขึ้นมาทำไง T^T

                อยู่เงียบๆ ดีกว่า

                “ซอนเยปะ?” โธ่ เสียงผู้หญิง 

                “ไม่ใช่ครับ” ผมตอบกลับไปแบบเซ็งๆ พอตอบเสร็จเค้าก็วิ่งไปเลย 

                เฮ้ยยย! กูยังไม่ทันบอกชื่อกูเลยย ฝากไปบอกชานยอลทีว่ากูอยู่นี่ TT^TT

                หลายนาทีผ่านไป

                ตึก... ตึก...
                เสียงฝีเท้าคนอีกละ -_-;

                “แฮ่กๆ...” มีเสียงหอบเหนื่อยปนมาด้วยแฮะ

                แกร๊กๆ
                คนคนนี้ไม่ถามอะไรผมซักคำ มาถึงพี่แกก็ไขกุญแจเลย

                กริ๊ก!       

                “เยสสสสสสสสสสส! เจอแบคฮยอนแล้วคร้าบบบบบบบบ!!” 

                เสียงที่ผมคุ้นเคยยยยย T^T ชานยอลลลลลลลลลลลล!!

                “เหี้ยชานนนนน! มึงมาช้ามากอ่ะ กูจะร้องไห้อยู่แล้วนะเนี่ย มึงรีบๆ เปิดฝาเลยยยยย รีบเอากูออกไป กูจะขาดอากาศตายอยู่แล้วววว” ผมบ่นเป็นชุดๆ มันก็เลยลนลานเปิดฝาใหญ่

                และแล้ว... ฝาก็เปิดออก
       
                ไอ้ชานยอลยื่นมือมาให้ผมจับ ผมจึงจับมือมันแล้วดึงตัวเองขึ้นอย่างเมื่อยล้า เราต่างใช้สายตามองอีกฝ่ายหัวจรดเท้า และผมก็พึ่งสังเกตว่า...

                มันไม่ได้ใส่แว่น
                ลางร้ายปรากฏครับ (_ _)

                ครั้งนี้ไอ้ชานยอลเข้าคอนเสป Prince มากๆ คงจะเป็นเพราะตัวสูง บวกกับรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลา มันใส่ชุดอย่างกับเจ้าชายในสโนไวท์จริงๆ แต่ผมกลับขำไม่ออก เพราะมันหล่อมาก - / / -

                “แบคฮยอนน่ารักจัง ^^” มันพูดยิ้มๆ เออ... กูก็ลืมว่ากูอยู่ในสภาพอนาถขนาดไหน

                “ขอบคุณที่ชม แต่กูไม่ชอบคำชมนี้เลยแฮะ -_-;

                “สโนไวท์ไม่ได้เป็นเจ้าหญิงนิทราในโลงแก้วหรอ  ถ้าอย่างนั้นเจ้าชายก็ไม่ได้จุมพิตน่ะสิ” ผมเริ่มสังเกตอะไรบางอย่างจากมันได้นิดหน่อย

                1.สายตาที่แทะโลมผม
                2.คำว่า ครับไม่มีตั้งแต่แรกที่เราเจอหน้ากัน

                มันหมายความว่าอะไร พวกคุณก็น่าจะรู้...

                มันเข้าโหมดเพลย์บอยอีกแล้วน่ะเสะ!!!

                “เอ่อ... ชานยอลใจเย็นๆ นะ เรารีบไปกันเถอะ” ผมยิ้มแห้งๆ ก่อนที่พยายามจะก้าวขาออกจากกล่องแต่ก็ไม่ทันมัน เพราะมันก้าวขาเข้ามาในกล่องเสียเอง

                “ทำไมเราไม่ทำแบบในนิทานกันซะหน่อยล่ะหืม” โหยอีเหี้ย เสียงทุ้มๆ มึงมันทำกูใจเต้นนนน

                “ชานยอล ใจเย็นก่อนนะ แบคว่าเรารีบไปกันเถอะ” 

                ไอ้เหี้ยแบคฮยอนโหมดน่ารักออกมาอีกแล้ว !!
                ทำไมมึงต้องออกมาตอนไอ้เหี้ยชานยอลเข้าโหมดเพลย์บอยทุกทีเลยวะ สรึดดดด TT^TT

                “หึ... โหมดน่ารักออกอีกแล้วหรอ” มันพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ อย่างนั้นก่อนที่จะใช้นิ้วเขี่ยปอยผมด้านหน้าของผมอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะค่อยๆ เข้ามาประชิดตัวผมเรื่อยๆ จนหลังผมชิดกับต้นไม้ ไร้ซึ่งทางหนี

                “ชาน...”

                “นิทานมันว่ายังไงน้า ตอนจบเจ้าชายต้องจุมพิตสโนไวท์ใช่มั้ย สโนไวท์ถึงจะตื่นได้...” มันเงียบไปซักพัก ก่อนที่จะก้มลงมากระซิบข้างหูผม “แต่สโนไวท์ผมไม่ได้สลบนี่นา แถมเสียงหัวใจเต้นแรงเชียว” 
           
                เหี้ยยยยยยยย! เสียงหัวใจกู TOT

                “แต่ไม่ต้องห่วงนะ... หัวใจแบคฮยอนไม่ได้เต้นแรงคนเดียวหรอก”

                “...”

                “ของผมเต้นแรงกว่าเยอะเลย” มันทำหน้าเขินเพราะผมก็ได้ยินอย่างนั้นจริงๆ 

                ว่าเสียงหัวใจของมันดังกว่าของผมขนาดไหน...

                “ขอได้มั้ยครับ” มันพูดก่อนที่จะมองมาที่ปากผม สายตามันไม่ได้หื่นกระหายอะไร แต่ทั้งสีหน้าและคำพูดของมันเหมือนกับเด็กน้อยกำลังขอขนมแม่จนผมอดไม่ได้

                “...”

                “...”

                “อื้อ” ทันทีที่ผมตอบ รอยยิ้มที่คุ้นตาก็ปรากฏบนใบหน้าก่อนที่จะค่อยๆ โน้มหน้ามาใกล้ๆ แน่ล่ะ... ว่าผมหลับตาปี๋ด้วยความเขิน

                อยากจะตบปากตัวเองจริงๆ ที่เผลอตอบ อื้อออกไป!!
                แต่ตบตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วครับ...

                ที่ผ่านมา ใช่ว่าผมจะอ่อนประสบการณ์
                แต่แค่ริมฝีปากของผู้ชายที่ชื่อ ปาร์คชานยอลแตะเบาๆ ที่ปากของผม...

                แค่แตะเบาๆ เท่านั้น...
                ทำไมผมถึงได้ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเลยนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น