วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

fckmerakme : 15 Finally found the missing part of me.




15

Finally found the missing part of me


                ครืดดดดดดด...
                โทรศัพท์สั่น
               
                ลีแทมิน

                เชี่ย! ลืมเปลี่ยนเบอร์ -_-^

                “ฮัลโหล” ไครับโทรศัพท์ขึ้นในขณะที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่กับคยองซู เขาแอบเซ็งนิดหน่อยเพราะวันที่เลิกกับแทมินนั้น เขาประกาศกร้าวว่าจะเปลี่ยนเบอร์ แต่สุดท้ายก็ลืมเปลี่ยน

                (พี่ไคครับ พี่ยังไม่เปลี่ยนเบอร์จริงๆ ด้วย ผมคิดถึงพี่มากเลยนะ ผมยังรักพี่อยู่เลย...) ปลายสายเสียงค่อยๆ แผ่วลง 

                “อือ” ไคตอบห้วนๆ เขาไม่อยากให้คนข้างตัวที่กำลังนั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อย่างมีความสุขนี้รู้ว่าเขากำลังคุยกับใคร

                (พี่ครับ... เรากลับมาเป็นแฟนกันเหมือนเดิมเถอะนะ)
                “...”

                (ตอนนี้พี่ก็ยังจีบคนนั้นไม่ติดไม่ใช่หรอ ถ้าอย่างนั้นเราก็กลับมาเป็นแฟนกันแป๊บนึงได้มั้ยอ่า) ปลายสายอ้อนวอนมา ไคขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เขาไม่อยากจะรีเทิร์นกับลีแทมินจริงๆ แต่อยู่กับคยองซูแบบนี้มันก็แปลกๆ

                เหมือนจะมากกว่าเพื่อน... แต่มันก็ไม่ใช่แฟน

                “แป๊บนึง” ไคบอกปลายสายให้รอ ก่อนที่จะคว่ำหน้ามือถือไว้บนพื้น แล้วหันมาพูดกับคนข้างตัว “โด้ แทมินมาขอคืนดีกับกู”

                “แล้ว?” คยองซูตอบเหมือนจะไม่สนใจ ทั้งที่ใจหายวูบ... อีกแล้วหรอ สองคนนี้จะกลับไปรักกันอีกแล้วหรอ...

                “มึงว่ากูควรจะกลับไปเป็นแฟนกับมันมั้ย” ไคถามด้วยน้ำเสียงที่คาดหวังสูง เขาอยากให้เพื่อนรักตอบกลับมาว่า อย่าเลย อย่าไปเป็นแฟนกับมันเลยนะไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องคาดหวังแบบนี้...

                “ก็แล้วแต่มึงดิ” คยองซูยังคงทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ในใจวูบโหวง มือเล็กกำชายเสื้อตัวเองแน่น     

                ตอนนี้ไครู้สึกแปลกๆ

                คำตอบที่ได้รับมันตรงกันข้ามกับที่เขาคาดหวังไว้
                หงุดหงิดว่ะ...

                “ฮัลโหล” เขาก้มลงไปหยิบโทรศัพท์ที่วางคว่ำหน้าไว้ ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงดังๆ เหมือนจะบอกให้คนข้างๆ รู้ว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอใจ “เออ จะเป็นแฟนกันอีกรอบก็ได้ ตลอดทั้งชาติก็เอา แค่นี้แหละ”

                “ตกลงว่ากลับไปเป็นแฟนกันจริงๆ หรอ” คยองซูหันมาถาม น้ำตาเริ่มคลอเอ่อขึ้นมาแต่โชคดีที่ปัดทิ้งทัน ไคไม่ได้หันมามองหน้าคยองซูด้วยซ้ำแต่ทำเป็นมองโทรทัศน์อย่างเคร่งเครียด

                “เออ ไหนๆ กูก็ว่าง” คยองซูถึงกับคอตกเมื่อได้ยินคำตอบ พลันสายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาข้อมือของตัวเองก็พบว่าเที่ยงกว่าแล้ว

                “ชิบหายยยยยยย! กูต้องไปเรียนพิเศษบ่ายโมง!!” คยองซูร้องลั่นก่อนที่จะวิ่งไปหยิบกระเป๋าในห้องนอนทันที

                เดี๋ยวนะ... เรียนพิเศษ...

                “มึงไปเรียนพิเศษทำไมเนี่ยโด้! จะกลับไปเอนทรานซ์อีกทีไง๊!” ไคตะโกนถาม

                “ไม่ใช่เว่ย!” โด้ตะโกนกลับมาในขณะที่กำลังจัดของใส่กระเป๋า

                “เรียนวิชาอะไร เรียนกับใคร ผู้ชายหรือผู้หญิง แล้วเรียนวันไหนบ้าง เริ่มเรียนกี่โมง เลิกกี่โมง ตอบมาให้หมด!” ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองของไค เขาพูดคำถามที่อยู่ในใจของเขาออกมา คยองซูยืนนิ่งอยู่หน้าประตูก่อนที่จะตอบอย่างเซ็งๆ

                “เรียนภาษาอังกฤษ เรียนกับครูฝรั่งผู้ชาย เรียนวันเสาร์กับอาทิตย์ เริ่มเรียนบ่ายโมง เลิกหกโมงเย็น ไปละ!

                “ครูฝรั่งผู้ชายยยยย O[]O!! มึงไม่ต้องไปเรียนเลยไอห่า!” ไคตะโกนกลับ ตั้งท่าจะวิ่งไปรั้งตัวไว้ แต่คยองซูก็ไม่ได้สนใจแถมยังเปิดประตูวิ่งออกไปทันที 

                “ย๊าาาาา!! โดคยองซูกำลังปั่นหัวกูใช่มั้ยยยยยยย!!

**********

                “ขอโทษที่มาสายครับ ^^;” คยองซูเปิดประตูห้องเรียนของตัวเองอย่างเร่งรีบ 

                “ม่ายเป็นรายคร้าบ แค่ห้านาทีเอง” ครูฝรั่งของเขาชูนิ้วขึ้นมาห้านิ้วก่อนที่จะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

                “แหะๆ ^^; ครูปีเตอร์...” เขาตั้งท่าจะพูดอะไรต่อ แต่ครูปีเตอร์ก็ส่ายหน้า

                No, Please call me Pete.” ครูปีเตอร์ยิ้มแฉ่ง เขารู้สึกถูกใจลูกศิษย์ตัวน้อยคนนี้มาก ถึงกับให้เรียกชื่อย่อตั้งแต่แรกเจอ คยองซูยิ้มรับก่อนที่จะนั่งลง

                “ครับ ครูพีท”

                Ok, แล้วคยองซูมีปัญหาภาษาอังกฤษตรงหนายล่ะ” ครูปีเตอร์ยังพูดภาษาเกาหลีได้ไม่ชัดนัก แต่ก็นับว่าเรียบเรียงประโยคได้ดี ทำให้คยองซูสบายใจที่จะคุยด้วย

                “เรื่อง Grammar, Reading หรือ Vocabulary เนี่ยผมไม่มีปัญหาครับ ผมมีปัญหาเกี่ยวกับ Speaking น่ะครับ แล้วก็เวลาคุยกันเนี่ย ผมกังวลว่าจะเรียงประโยคไม่ถูกต้อง ก็เลยชอบนั่งคิดก่อนตอบน่ะครับ เสียบุคลิกมากๆ เลย แหะๆ ^^;” คยองซูพูดตามจริง ครูปีเตอร์จึงพยักหน้า

                “ถ้าอย่างน้าน เราแลกไลน์ไอดีกันหน่อยหมาย แล้วคุยกับเป็นภาษาอังกฤษน้า จาได้ฝึกเยอะๆ แล้วเวลาเจอกาน ก็คุยกับครูเป็นภาษาอังกฤษตาหลอดเวลาเลยน้า Ok?” ถึงจะดูแปร่งๆ ไปนิดหน่อย แต่คยองซูก็เข้าใจทุกคำพูด

                “ครับ ^_^! นี่ไลน์ผมครับ!” 

                “สองทุ่มแล้วทำไมมันยังไม่กลับอีกวะ -_-^” ไคบ่นพึมพำกับตัวเอง เขานั่งกิน ราเมงไปสองห่อแล้วแต่คยองซูก็ยังไม่กลับจากเรียนพิเศษบ้าบออะไรนั่น       

                แอดดดดดดด

                “คิกๆๆ” เมื่อประตูห้องเปิดออก คยองซูก็มาพร้อมกับไอโฟนแถมยังหัวเราะคิกคักอารมณ์ดี ทำเอาคนที่กำลังหงุดหงิดยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเดิม

                “กินอะไรมารึยัง” เขาพยายามทำตัวให้ใจเย็นลงโดยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง คยองซูเงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนที่จะพยักหน้าว่ากินมาแล้ว ก่อนที่จะลงไปนั่งบนโซฟา จ้องไอโฟน แล้วพิมพ์ตอบอย่างอารมณ์ดี

                มันคุยกับใคร -_-?

                “คุยกับใคร เอามานี่!” ไคผู้ซึ่งกำลังหงุดหงิดพร้อมระเบิดตลอดเวลากระชากไอโฟนจากมือของคยองซูไปอ่าน ก็พบว่าคยองซูกำลังคุยกับใครซักคนเป็นภาษาอังกฤษที่เขาเกลียดที่สุดในโลก แต่ก็มีประโยคนึงที่เขาแปลออก...


            Teacher Pete:
                You’re cute, KyungSoo :)


                “นี่ได้ครูใหม่หรือผัวใหม่วะเนี่ย หึ!” ไคพูดประชด และคำพูดนั้นก็ทำให้คนฟังปรี๊ดขึ้นมาทันที

                “ทำไมพูดแบบนี้วะ!” คยองซูโมโหมากแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าไคจะพูดแบบนี้กับเขา

                “กูจะพูด! ถึงกูจะแปลออกไม่หมดแต่ประโยคนี้กูก็แปลออกนะเว้ย! ‘You’re cute’ เหอะ! นี่ไปเรียนหรือไปมีอะไรกันมาล่ะ ทำมาเป็นบอกว่าแทมินแรด ดูตัวเองก่อนดีมั้ย!?” 

                ชิบหาย... กูพูดแรงไป

                “หึ...” คยองซูหัวเราะในลำคอ น้ำตาเอ่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขากระชากมือถือคืนก่อนที่จะพูดเสียงสั่นๆ “เออ กูแรดกว่าแทมินของมึง กูไปหาผัว ไม่ได้ไปเรียน จบ” 

                “โด้...” ไคเรียกคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ตอนนี้อารมณ์หงุดหงิดหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่อารมณ์ขอโทษ

                “นอนเหอะ เนอะ ^^” คยองซูยังคงยิ้ม แต่เขาก็เดินกลับไปที่ห้องนอนเอาซะเฉยๆ ไคจึงทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจ นั่งตบปากตัวเองไม่รู้กี่รอบ ถอนหายใจไม่รู้กี่หน

                ทำไมกูไม่คิดก่อนพูดวะแม่ง ห่าจงอินนนน เหี้ยจงอินนนน -_-^!!
                ไปง้อดีกว่า...

                ภาพที่เขาเห็นเมื่อเปิดประตูห้องนอนเข้าไปคือภาพเพื่อนรักกำลังนอนตะแคงข้างไปอีกทาง ผ้าห่มหนาคลุมตัวไว้มิด ไหล่เล็กไหวเบาๆ ราวกับกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น...

                “โด้...” เขาพึมพำชื่อคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนที่จะขึ้นไปนั่งบนเตียง แต่เจ้าของชื่อกลับเอาผ้าห่มมาคลุมหน้าคลุมตามิดชิด

                “โด้จ๋า... เค้าขอโทษนะ” ไคพูดด้วยคำพูดที่อ่อนหวาน ไม่ใช่เพราะว่าอยากง้อให้สำเร็จถึงได้พูด แต่มันอยากพูดมานานแล้วต่างหาก

                “ฮึก... ฮึก...” เสียงสะอื้นของคนที่กำลังคลุมโปงเหมือนกำลังกรีดหัวใจของเขา ยิ่งไหล่เล็กๆ นั้นสั่นไหวมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นไปกว่าเดิม

                “เค้าขอโทษนะ โด้คือคนที่ดีและน่ารักที่สุดในชีวิตของเค้าแล้ว เค้าแค่น้อยใจที่โด้ไม่สนใจเค้า แต่เค้ากลับพูดแรงไปหน่อย เค้าขอโทษจริงๆ นะโด้...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกและอ่อนหวานก่อนที่จะล้มตัวลงนอนข้างๆ แล้วกอดคนตัวเล็กจากด้านข้าง คยองซูยังคงปิดหน้าตัวเองเพราะอายที่จะให้ไคเห็นเขาในสภาพน้ำตานองหน้าแบบนี้

                “ไป... เถอะ” เสียงเล็กๆ ตอบกลับมาจากในผ้าห่ม ไคจึงเอาหน้าซุกลงไปกับผ้าห่มของคยองซูก่อนที่จะกอดแน่นมากกว่าเดิม แล้วค่อยๆ ผละออกช้าๆ เพราะยังอยากกอดอยู่อย่างนั้น

                “พรุ่งนี้ไปหาอะไรกินกันนะ” เขาพยายามพูดชวน แต่ร่างเล็กในผ้าห่มนั้นก็ไม่ได้ตอบกลับ ไคจึงต้องออกจากห้องนอนอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่จะนั่งคอตกอยู่ในห้องนั่งเล่น จนเผลอหลับไปบนโซฟาทั้งอย่างนั้น



                กี่โมงแล้วเนี่ย...

                บ่ายสองงงงงงงงงงงงงงงงงง O[]O!!!!               

                ไคเด้งตัวขึ้นมาอัตโนมัติ เขาพึ่งรู้ว่าตัวเองหลับบนโซฟา พลันสายตาเหลือบไปเห็นโพสอิทบนโต๊ะ

                มึงไม่ตื่นซักที กูไปเรียนก่อนนะ

                แม้คยองซูจะไปเรียนแล้ว โดยไม่ได้ไปหาอะไรกินกันอย่างที่เขาชวนไว้เมื่อคืน แต่ตอนนี้หัวใจของไคกำลังพองโต เพราะข้อความนี้มันหมายถึงว่าคยองซูนั่งรอเขาตื่นจนรอไม่ไหวแล้วถึงได้ไปเรียน ข้างโพสอิทยังมีข้าวราดแกงกะหรี่ร้อนๆ ที่ปิดฝาไว้มิดชิด

                โด้... เหมือนกูหาสิ่งที่ขาดหายเจอแล้วล่ะ
                มึงไง ^^

**********

                ผมโอเซฮุนครับ กำลังยืนรอพี่ลู่อยู่หน้าห้องเลกเชอร์ (แบบเท่ๆ)

                “วันนี้เลิกเรียนเร็วจัง - / / -” เสียงพี่ลู่ดังขึ้นจากด้านหลัง ผมจึงหันไปยิ้มให้ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าและหนังสือเรียนของพี่ลู่มาถือ

                “ไม่ต้องถือหรอก เอามานี่” พี่ลู่ขัด แต่ผมก็ยังคงถือไว้อย่างนั้น

                “นี่ วันนี้พี่เลี้ยงเค้กที่ร้านหน้ามหาลัยเอามั้ย?” พี่ลู่ถามขึ้น

                “เลี้ยงจริงอ่ะ O_O อารมณ์ไหนเนี่ย?” ผมหันไปถาม

                “ก็ไม่ได้อยากจะเลี้ยงหรอก -_-^ จะซื้อเค้กไปกินที่บ้าน แต่ถ้าไม่ซื้อให้ฮุนเดี๋ยวฮุนก็โกรธอีก” พี่ลู่อธิบาย ผมล่ะชอบจริงๆ ที่พี่เค้าเรียกตัวเองว่า พี่แล้วเรียกผมว่า ฮุน’ 

                แม่งโคตรน่ารักกกกกกกกกกก > / / <

                “งั้นผมเลี้ยงพี่แทนแล้วกัน แล้วเอากลับไปกินที่บ้านพี่” 

                “เอ... เอางั้นก็ได้ วันนี้ป๊าพี่น่าจะอยู่จีน มานั่งกินเค้กก่อนกลับแล้วกัน” พี่ลู่แนะนำก่อนที่จะเดินนำผมไปเล็กน้อย ดีละ... ถ้าป๊าไม่อยู่ก็เสร็จฮุน -.,- 555555

                หลังจากซื้อเค้กคนละชิ้นเสร็จ พวกเราก็ขึ้นรถ พี่ลู่กอดเค้กไว้แน่นเพราะกลัวว่าผมจะเบรกหัวทิ่ม

                “นี่ พี่ลู่... ถามไรหน่อยดิ” ไม่รู้อารมณ์ไหน แต่อยากแกล้งขึ้นมาซะงั้น
                “ไร”
                “พี่ลู่รักผมมั้ย” ผมถาม รู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆ ยังไงไม่ยู้ - / / -

                “เอออออออ รักกกกกก (_ / / _)” คนตอบก็หน้าแดง ก้มหน้างุด
                “อ่าว รักใครอ่ะ”

                “รักเซฮุนไงงงงงง ถามมากจริง - / / -!!
                “ไม่ๆ แล้วใครรักเซฮุน” ผมยังคงกวนไม่เลิก แหม่ ก็มันอยากได้ยินเป็นประโยคที่มีประธาน กริยา กรรมนี่ครับ 55555

                -_-^” นางยังไม่ยอมตอบ
                “...”
                “พี่ลู่ไงงงงงง - / / -!!

                “พี่ลู่ทำไมหรอ?”

                “จิ๊! พี่ลู่รักเซฮุนไงโว้ยยยยยยย! รูดซิปปิดปากไปเลยนะ ไม่ต้องพูดอะไรละ!” พี่ลู่เขินหน้าแดงก่ำ ก่อนจะเอามือมาทำท่ารูดซิปปิดปากผม ตลอดทั้งทางผมก็เลยไม่ได้พูดอะไร ไม่ใช่อะไรหรอก... ก็คนข้างๆ ดันหลับซะงั้น (หลับแบบปรับเบาะนอนเลยอ่ะเอาดิ -_-;)

                “พี่ลู่ๆ” ผมเขย่าตัวพี่ลู่หานเบาๆ เมื่อถึงหน้าประตูบ้าน เจ้าตัวขยี้ตางงๆ ก่อนที่จะลุกเด้งพรวด 

                “อืออออ ถึงบ้านแล้ว เข้าบ้านๆ ฮ่าๆๆ” พี่ลู่เอ่ยปากชวน ผมจอดรถก่อนที่จะเดินตามพี่ลู่เข้าบ้าน แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในบ้านก็เจอ...

                “ป๊าาาาาา O[]O!!” พี่ลู่ร้องลั่น เอาแล้วสิ อีชิบหาย TOT 

                &^$#@!” ป๊าพี่ลู่หันมาทักทายเป็นภาษาจีนก่อนที่จะเหลือบมาเห็นผม 

                “เอ่อ แนะนำตัวให้ป๊าฟังๆ (_ _)” พี่ลู่กระซิบ ตอนนี้พี่ลู่ดูหงิมมาก 555555 คงเป็นเพราะพ่ออยู่

                “โอเซฮุนครับ! Couple love love จุ๊บๆ ^^” ผมโค้งเก้าสิบองศาก่อนที่จะจับมือพี่ลู่ไว้แล้วพูดออกมาอย่างมั่นใจ แต่หน้าพี่ลู่กับป๊าตอนนี้คือ

                O[]O!!!!!!!!

                &^$!#@&^$!#@&^$!#@&^$!#@&^” เหมือนป๊าพี่ลู่จะด่าเป็นชุดเลยแฮะ -_-^ เพราะสายตาและอารมณ์นี่แบบ ทั้งชี้หน้าผมกับพี่ลู่สลับกันแล้วหน้าก็โมโหสุดๆ

                &^$!#@&^$!#@&^$!#@” พี่ลู่เถียงกลับอย่างทันที O_O!! ทำเอาคนนอกที่ไม่เข้าใจภาษาจีนอย่างผมได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆ เอ๋อแดกไปเลย 

                “...” แล้วป๊าพี่ลู่ก็เงียบ
                “...”
                !(ดี!)” เมื่อกี้ป๊าเค้าพูดคำว่า ห่าวที่แปลว่า ดีชิมิ T^T?
                “...”

                &^$!#@&^$!#” เหมือนป๊าจะทำสีหน้าปลงแล้ว ก่อนที่จะโบกมือไล่พวกเราแบบเหนื่อยหน่าย แล้วไปนั่งดูทีวีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่ลู่มองหน้าผมนิดหน่อยก่อนที่จะผลักผมออกไปจากบ้าน

                “ผมยังไม่ได้ลาเลยนะ” ผมหันไปแย้ง

                “ไม่ต้องแล่ว!” พี่ลู่กระซิบก่อนที่จะดันๆๆ ผมให้ออกมาจากบ้านจนถึงรถ

                “แล้วเค้กอ่า” ผมยืนหงอยอยู่หน้ารั้วบ้าน พี่ลู่ซึ่งกำลังยืนอยู่ในรั้วก็ทำหน้าเซ็ง

                “เดี๋ยวพี่แช่ตู้เย็นไว้ พรุ่งนี้เอาไปกินกันที่มหาลัยแล้วกัน” เฮ! ยังตอบเรายาวอยู่ แสดงว่าไม่ได้โกรธ

                “ผมขอโทษนะ... พอดีช่วงนี้เจอหน้าใครก็อยากอวดว่าพี่ลู่เป็นแฟนผมไปซะหมด (._.)” ผมสารภาพ ก็มันจริงนี่หน่า เดินผ่านใครก็แทบอยากจะบอกทุกคนให้รู้ว่า ตัวเล็กๆ น่ารักน่าหยิกคนเนี้ย! แฟนกูนะเฮ้ยยย!

                “ช่างเถอะ ^^ พี่เองก็ไม่อยากปิดบังป๊าหรอก แต่มันก็เร็วไปหน่อยแหะ -*-” พี่ลู่เกาหัว

                “แล้ว... ตอนที่ป๊าด่าพี่อ่ะ พี่เถียงกลับไปว่าอะไรหรอ ป๊าเงียบเลย” ผมเอียงคอถาม แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนที่หน้าจะแดงขึ้นมาอีกครั้ง

                “ห... ให้พี่พูดหรอ”
                “อื้อ”

                “เอ่อ... ก็ป๊าด่าว่า ป๊ารับไม่ได้ที่มีลูกชายคนเดียวแต่กลายเป็นแบบนี้ พี่ก็เลย... บอกว่า...”
                “...”

                “คนนี้เป็นคนที่... ทำให้ใจลู่เต้นแรงได้ ป๊ารู้สึกยังไงกับม๊าตอนสาวๆ ลู่ก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันแหละ - / / -” พี่ลู่ตอบหน้าแดงก่ำ แต่แหมพี่ลู่ครับ... ตอนนี้ฮุนน้อยของพี่ลู่ก็หน้าแดงเหมือนกันนะ > / / <

                “อ่า... นี่ผมเขินนะเนี่ยยยยยย!” ผมตีไหล่พี่ลู่เบาๆ ก่อนที่จะทำท่าสะดีดสะดิ้งเหมือนเดิม จนพี่ลู่หัวเราะออกมาจนได้ 

                ก็แค่นี้แหละ... ทำท่าสะดีดสะดิ้งก็เพราะอยากให้คนนี้หัวเราะเท่านั้นเอง

                “ฮ่าๆๆๆ ไปๆ กลับบ้านได้แล้ว” 

                “แล้วประโยคสุดท้ายก่อนออกจากบ้านนี่ ป๊าพูดว่าอะไรอ่ะ” ผมยังคงข้องใจ

                “ป๊าบอกว่า เออ จะทำอะไรก็ทำ ^___^” พี่ลู่ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผมจึงยิ้มตามออกมา 

                โอเค... ผ่านด่านพ่อละ (มั้ง) 5555555555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น